เอไอเอส ผุดบริการ Safe & Care แอปพลิเคชันดูแลคนในครอบครัว จากระบบระบุพิกัด และจำกัดการเข้าถึงแอปพลิเคชัน เพื่อให้ใช้งานในเวลาที่เหมาะสม เริ่มต้นเดือนละ 49 บาท เชื่อเป็นผู้ให้บริการรายแรกในตลาดที่รวมความสามารถหลากหลายเข้ามาไว้ภายในแอปเดียว ให้กลุ่มผู้ปกครองใช้ดูแลบุตรหลาน
นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล (ใส่แว่น) ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานการตลาด และการขาย บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า ด้วยการให้บริการในปัจจุบันของเอไอเอส ที่ไม่ได้เน้นให้บริการเฉพาะเครือข่ายแต่เพียงอย่างเดียว แต่ต้องตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มที่มีความหลากหลาย ทำให้ต้องมีการพัฒนาบริการออกมาอย่างต่อเนื่อง
โดยเมื่อแบ่งพฤติกรรมการใช้งานเซอร์วิสผ่านอินเทอร์เน็ตของเอไอเอสแล้ว พบว่า ส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับการติดต่อสื่อสาร (Communication) ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กมาเป็นอันดับแรก รองลงมา คือ การใช้บริการเพื่อความบันเทิง (Entertainment) ซึ่งเอไอเอสก็มีแอปพลิเคชันที่ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวอยู่แล้ว
ล่าสุด จึงได้คิดค้นบริการที่จะออกมาตอบโจทย์ลูกค้าใน 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มที่มีอายุมากกว่า 60 ปี จำนวนกว่า 9.5 ล้านคน และอีกกลุ่ม คือ อายุราว 6-14 ปี อีกจำนวนกว่า 7.1 ล้านคน รวมกันกว่า 16 ล้านคน ที่มีโอกาสใช้งานบริการดังกล่าวโดยจะมีลูกค้าในกลุ่มอายุ 25-50 ปี ดูแลกลุ่มคนเหล่านี้
“AIS Safe & Care ถือเป็นแอปพลิเคชันแรกสำหรับดูแลครอบครัวทั้งจากเอไอเอส และจากผู้ให้บริการในประเทศไทย เพราะมองว่าด้วยจำนวนลูกค้าที่ใช้งานสมาร์ทโฟนเพิ่มมากขึ้น กลายเป็นอุปกรณ์ที่มีติดตัวลูกค้าอยู่แล้ว การมีบริการอย่าง Safe & Care ก็จะเข้ามาช่วยดูแลคนที่ห่วงใยได้มากขึ้น”
นายสุวิทย์ อารยะวิไลพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานบริหารผลิตภัณฑ์ เอไอเอส ให้ข้อมูลถึงแอปพลิเคชัน “Safe & Care” ว่าจะมีบริการหลักๆ อยู่ 2 ด้าน คือ การระบุตำแหน่งที่อยู่ของสมาร์ทโฟนที่ลงแอปพลิเคชัน (Family Location) เพื่อให้สามารถรับรู้ได้ว่าปัจจุบันอยู่ในสถานที่ใด กำลังเดินทาง หรือกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยแล้วของบุคคลในครอบครัว โดยสามารถตั้ง Safe Zone เมื่อเข้าสู่สถานที่ อย่างถึงโรงเรียน หรือกลับถึงบ้านก็จะมีการแจ้งเตือนแบบอัตโนมัติ หรือจะเลือกเช็กอินให้สมาชิกในครอบครัวรับทราบได้
ถัดมา คือ สามารถใช้ในการช่วยลูกบริหารจัดการ (Parental Controls) ทั้งการโทร.จากรายชื่อในลิสต์ที่กำหนดไว้ และการใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ ในตัวเครื่อง อย่างการควบคุมไม่ให้เข้าถึงบางแอปพลิเคชันในช่วงเวลาที่กำหนดไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ใช้งานในเวลาเรียน หรือช่วงเวลากลางคืน นอกจากนี้ ยังมีการแจ้งเตือนฉุกเฉิน (Family Alert) เพื่อให้ขอความช่วยเหลือได้ทันที
นอกจากนี้ ยังมีระบบป้องกัน (Phone Security) กรณีที่เครื่องสูญหาย โดยลูกค้าเอไอเอสสามารถสมัครใช้งานได้ในราคาเริ่มต้นเดือนละ 49 บาท ใช้งานได้ 2 เครื่อง จนถึง 99 บาทใช้งานได้ 5 เครื่อง รับสิทธิใช้งานฟรีเดือนที่ 2 ด้วยการกด *629*1# แล้วกดโทร.ออก สำหรับลูกค้าเซเรเนด กด *629*41# ใช้งานฟรี 2 เดือนแรกทันทีที่สมัครแพกเกจ
“แนวทางการพัฒนาแอปพลิเคชันของเอไอเอส จะเน้นการพัฒนาแอปที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายภายในแอปเดียว เพื่อไม่ทำให้ลูกค้าเกิดความสับสนในการใช้บริการ ซึ่งต่อไปในอนาคตก็จะมีบริการสำหรับลูกค้ากลุ่มอื่นๆ ออกมาอีกเรื่อยๆ”
เบื้องต้น เอไอเอส ตั้งเป้าลูกค้าที่จะสมัครใช้งาน Safe & Care ราว 1 แสนราย หรือคิดเป็นจำนวนลูกค้าที่ใช้งานราว 2-3 แสนราย เพราะต่อการสมัคร 1 ครั้ง จะมีลูกค้าเข้ามาใช้งานอย่างต่ำ 2 ราย ซึ่งจะสร้างรายได้รวมให้ไม่ต่ำกว่า 70 ล้านบาทภายในสิ้นปี แต่สิ่งที่เอไอเอสสนใจมากกว่ารายได้ คือ การสร้างบริการให้ลูกค้าเพื่อรักษาฐานลูกค้าให้อยู่ในระบบต่อไปมากกว่า
ทั้งนี้ ปัจจุบันในฐานลูกค้า 38.9 ล้านรายของเอไอเอส มีลูกค้าที่ใช้งานสมาร์ทโฟนอยู่ราว 23 ล้านเครื่อง หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 61% และคาดว่าเทรนด์ของสมาร์ทโฟนจะเพิ่มขึ้นเป็น 65% ภายในสิ้นปีนี้ จากปัจจัยหลายๆ อย่างที่รวมถึงการมีสมาร์ทโฟนราคาถูกออกมาจำหน่าย ทำให้ลูกค้าเข้าถึงได้มากขึ้น