สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ลั่นดำเนินคดีเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์ถึงที่สุด ไม่ประนีประนอมกรณีใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมล่าตัวคนทำเว็บไซต์เลียนแบบสำนักข่าวนำเสนอภาพเนื้อหาบิดเบือน สร้างความเสียหาย พร้อมเอาผิดถึงคนลงโฆษณา-ให้บริการโฮสติ้ง
น.ส.กนกพร ประสิทธิ์ผล นายกสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (SONP) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีสมาคมดำเนินการฟ้องร้องเว็บไซต์ที่กระทำการละเมิดลิขสิทธิ์ของสำนักข่าวที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ ว่า สมาคมฯ ได้รับการร้องเรียนจากสมาชิก และสำนักข่าวต่างๆ กรณีตรวจพบเว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่ละเมิดลิขสิทธิ์ในงานข่าว โดยการรวบรวมเนื้อหาข่าว ภาพและคลิปข่าว คลิปรายการของสำนักข่าวต่างๆ ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ สมาคมฯ ได้ดำเนินการฟ้องร้องเอาผิดต่อเว็บไซต์ที่กระทำการละเมิดดังกล่าวไปแล้วหลายเว็บไซต์ เช่น ohozaa.com และ cuptv ขณะนี้คดีอยู่ในชั้นศาล และรวบรวมพยานหลักฐาน โดยในกรณีของ ohozaa.com นั้น คณะกรรมการสมาคมฯ มีมติร่วมกันที่จะไม่ประณีประนอมยอมความเพื่อให้เป็นบรรทัดฐานให้แก่เว็บไซต์อื่นๆ ที่ต้องการนำข่าวไปเผยแพร่ต่อต้องดำเนินการขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์อย่างถูกต้องก่อนนำไปใช้ ส่วนเว็บไซต์อื่นๆ ที่ตรวจพบว่า มีการละเมิดลิขสิทธิ์เพิ่มเติม ทางสมาคมฯ จะรวบรวมข้อมูลให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการฟ้องร้องต่อไป
นายกสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสมาคมฯ เมื่อเร็วๆ นี้ ยังได้หยิบยกกรณีที่มีการจัดทำเว็บไซต์เลียนแบบเว็บไซต์สมาชิกสมาคมฯ โดยมีการนำเครื่องหมายการค้า (Logo) ชื่อ หรือ URL ที่มีการดัดแปลงให้ใกล้เคียงกับเว็บไซต์สำนักข่าวต่างๆ แล้วนำเสนอรูปภาพ และเนื้อหาข่าวที่มีความหวือหวาแต่ไม่เป็นความจริง สร้างความเข้าใจผิดแก่ผู้พบเห็น ส่งผลกระทบ และสร้างความเสียหายต่อสำนักข่าวนั้นๆ ขึ้นมาพิจารณา โดยมีมติว่า แม้องค์กรสมาชิกได้แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินคดีเว็บไซต์ที่เลียนแบบเหล่านั้นแล้ว แต่สมาคมฯ เห็นว่า กรณีนี้เป็นการสร้างความเสียหายต่อความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ข่าวที่เป็นองค์กรวิชาชีพสื่ออย่างชัดแจ้ง ดังนั้น จึงพร้อมที่จะร่วมมือกับสมาชิกในการดำเนินการนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ รวมทั้งจะมีการดำเนินคดีต่อผู้ที่ให้การสนับสนุนด้านโฆษณา และด้านอื่นๆ แก่เว็บไซต์ที่เจตนาสร้างความเสียหายดังกล่าวด้วย
ด้าน นายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ ที่ปรึกษากฎหมายสมาคมผู้สื่อข่าวออนไลน์ เปิดเผยว่า การปลอมแปลงชื่อ และเว็บไซต์ของสำนักข่าวต่างๆ ถือเป็นความผิดตามกฎหมายลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้า และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งมีโทษจำคุกขั้นสูงถึง 5 ปี ต่อการกระทำหนึ่งครั้งตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ หากรวมความผิดตามกฎหมายลิขสิทธิ์ และเครื่องหมายการค้าด้วยจะมีโทษรวมอย่างต่ำสูงถึง 8 ปี จึงอยากขอให้ผู้กระทำความผิดยุติการกระทำดังกล่าว หลังจากนี้ สมาคมฯ จะดำเนินการต่อผู้กระทำความผิด และผู้ให้บริการเชื่อมต่อ (Hosting) แก่เว็บไซต์ที่ผิดกฎหมายดังกล่าวอย่างเด็ดขาด และไม่มีการเจรจาประนีประนอมยอมความ ทั้งนี้ การใช้งานลิขสิทธิ์ควรจะขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ให้ถูกต้อง หรือถ้าไม่ได้ใช้แสวงหากำไรก็ต้องอ้างอิงถึงแหล่งที่มาทุกครั้ง หรือทำลิงก์กลับไปยังเว็บไซต์เจ้าของลิขสิทธิ์ทุกครั้งด้วย