“ไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป 2016 ไฮเอนด์” ดัชนีชี้วัดตลาดมือถือ หลังดีลเลอร์ขนทัพพนักงานขายประกบลูกค้าตัวต่อตัว โอเปอเรเตอร์อัดโปรโมชันระอุ ลดราคาเครื่องดึงลูกค้าใช้งานเครือข่าย ส่วนแบรนด์เน้นของแถมเพิ่มเติม ฝั่งดีลเลอร์เชื่อตลาดยังแข็งแรง โดยเฉพาะลูกค้าเปลี่ยนเครื่องเป็น 3G และ 4G
นายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มวิชั่น จำกัด ผู้จัดงานไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป 2016 (TME 2016) ให้ข้อมูลถึงการแข่งขันภายในงานที่มีความน่าสนใจมากขึ้น ด้วยการที่ดีลเลอร์ที่เข้าร่วมหลายรายต่างนำผลการขายภายในงานมาวัดให้เห็นถึงกำลังซื้อของผู้บริโภค เนื่องจากผู้ที่เข้าชมงานส่วนใหญ่จะมีความตั้งในซื้อเครื่องอยู่แล้ว ดังนั้น ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละแบรนด์ที่จะดึงความสนใจให้แก่ลูกค้า
“ภายในงานโปรโมชันหลักๆ จะเน้นไปที่โอเปอเรเตอร์ ซึ่งเน้นการรักษาลูกค้าให้อยู่ในระบบ ด้วยการลดราคาสมาร์ทโฟนให้ถูกลง แต่ใช้การชำระค่าบริการล่วงหน้า และนำมาเป็นส่วนลดในแต่ละเดือนแทนการติดสัญญาใช้งาน ที่เหลือก็จะเป็นการที่แต่ละแบรนด์มีของแถมที่น่าสนใจให้แก่ลูกค้ามากขึ้น”
ส่วนยอดเงินสะพัดภายในงานครั้งนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1,600 ล้านบาท จากยอดผู้เข้าชมงานราว 6 แสนราย ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ราว 1,200 ล้านบาท โดยมีปัจจัยบวกมาจากการที่งานครั้งนี้ติดกับช่วงวันหยุด ทำให้มีโอกาสที่ผู้บริโภคจะเข้ามาเดินชมงานมากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน ด้วยการที่แบรนด์มือถือนำนวัตกรรมอย่างซัมซุง ที่นำบูท Gear VR 4D Theater มาโชว์ภายในงานเป็นครั้งแรกภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออีกหลายๆ แบรนด์ที่นำเครื่องรุ่นใหม่มาเปิดจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็น LG G5SE, Lenovo Vibe K5, Oppo F1 Plus และการเปิดจอง Huawei P9 ที่ราคา 16,990 บาท
นายวิชัย พรพระตั้ง รองประธานองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวถึงสภาพตลาดรวมโทรศัพท์มือถือในปีนี้ว่า น่าจะมียอดรวมอยู่ที่ราว 15-18 ล้านเครื่อง แน่นอนว่าตรงนี้ไม่นับรวมกับเครื่องที่ทางโอเปอเรเตอร์แจกเพื่อให้ลูกค้าย้ายจาก 2G มาใช้งาน 3G หรือ 4G
“ตอนนี้ซัมซุงถือเป็นผู้นำในทุกเซกเมนต์ด้วยส่วนแบ่งตลาดเกินครึ่งในทุกช่วง เพียงแต่ปัจจุบัน ยอดขายสินค้าแต่ละกลุ่มจะมียอดขายที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงเปิดตัว ทำให้วัดส่วนแบ่งตลาดเฉลี่ยได้ค่อนข้างยาก แต่เชื่อว่าด้วยการที่มีผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่องทำให้ซัมซุงมีการเติบโตในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์”
ปัจจุบัน สัดส่วนการจำหน่ายสมาร์ทโฟนของซัมซุงจะอยู่ที่ตลาดไฮเอนด์ หรือเครื่องราคาเกิน 15,000 บาทขึ้นไปประมาณ 20% ถัดลงมาเป็นกลุ่มกลาง และล่าง ที่ระดับราคาต่ำกว่า 15,000-5,000 บาท และต่ำกว่า 5,000 บาท อยู่ที่ราว 40% ทั้ง 2 ช่วง โดยในช่วงต่ำกว่า 5,000 บาท ซัมซุงจะครองส่วนแบ่งใหญ่ที่สุดในตลาดด้วย
ด้าน นายไพโรจน์ ถาวรสภานันท์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีจี เซลลูล่าร์เวิลด์ จำกัด กล่าวว่า การมาของ 4G ช่วยให้ตลาดโตขึ้น แต่ขณะเดียวกัน ก็มีการแข่งขันที่สูงจากโอเปอเรเตอร์ และแบรนด์ การที่ทีจีจะมองไปที่ 2 ตลาด คือ โอเพน มาร์เกต คือ ซื้อเครื่องไปแล้วใช้งาน กับอีกตลาด คือ แพกเกจ บันเดิล หรือสมัครแพกเกจร่วมกับทางโอเปอเรเตอร์ ซึ่งทีจีมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทั้ง 2 ส่วน
“การเปลี่ยนเครื่อง 3G เป็น 4G อาจจะเป็นตลาดที่ไม่ได้มีอัตราเร่งมากนัก เพราะส่วนใหญ่จะไปเร่งการเปลี่ยนจากเครื่อง 2G ขึ้นมามากกว่า ซึ่งในส่วนของทีจีโฟนได้ทำการวางระบบที่เหมาะสมรองรับลูกค้าทั้ง 2 กลุ่ม ทำให้ยังสามารถเก็บลูกค้าได้ทั้ง 2 ตลาด โดยในปีที่ผ่านมา สัดส่วนระหว่างตลาดบันเดิลแพกเกจ จะอยู่ที่ 30% โอเพน มาร์เกต 70% ส่วนแนวโน้มในปีนี้ตลาดแพกเกจก็จะเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่มากเกินไปเพราะเป็นการซับซิไดซ์ของทางโอเปอเรเตอร์”
โดยความคืบหน้าล่าสุดของทางทีจี คือ การนำ LG G5SE และ LG Stylus 2 เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย โดยให้ทางบริษัท แอลจี อีเล็คทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด มาช่วยซัปพอร์ตในส่วนของบริการหลังการขาย ซึ่งเชื่อว่าทั้ง 2 รุ่นจะเข้ามาตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันได้
สำหรับงาน “ไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป 2016” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 พฤษภาคมนี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างเวลา 10.00-20.00 น.