เมื่อเวลา 23.45 น. คำสั่งจากศาลปกครองได้ส่งถึงบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กรณีที่ศาลปกครองไต่สวนทั้ง 2 หน่วยงาน เหตุที่โทรศัพท์มือถือระบบ 2G คลื่น 900 MHz จะใช้งานไม่ได้ หรือซิมดับ จำนวน 4 แสนเลขหมาย ภายในเที่ยงคืนของวันนี้ (15 มี.ค.)
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ได้ชี้แจงผ่านทวิตเตอร์ @TakornNBTC ว่า ศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้ขยายระยะเวลาคุ้มครองผู้ใช้บริการซิม 2G ของเอไอเอสไปถึงวันที่ 14 เม.ย. เวลา 24.00 น. ทั้งนี้ ได้แนบหนังสือที่ศาลปกครองกลางได้แจ้งมายัง กสทช. โดยนอกจากผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ คือ เอไอเอส และ กสทช.แล้ว บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ยังเป็นผู้ร้องสอดด้วย โดยศาลมีความเห็นว่า คำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองของศาลเป็นมาตรการในการคุ้มครองเฉพาะผู้ใช้บริการเพียงชั่วคราว มิใช่เป็นการคุ้มครองให้มีการโอนย้ายผู้ใช้บริการของผู้ฟ้องคดีทั้งหมดทุกรายแต่อย่างใด
ส่วนกรณีที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองอ้างว่า การขยายระยะเวลาจะเป็นการอนุญาตให้ผู้ฟ้องคดีสามารถนำคลื่นความถี่ 900 MHz ไปให้ AWN ใช้ในการโรมมิ่งลูกค้า จำนวน 7.6 ล้านเลขหมาย และส่งผลกระทบต่อการสอบสวนการนำส่งเงินรายได้ตามสัมปทานในขณะนี้นั้น เห็นว่าเป็นหน้าที่ของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองที่จะกำหนดมาตรการในการป้องกันปัญหาดังกล่าว
ทั้งเมื่อชั่งน้ำหนักปัญหาที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองกล่าวอ้างต่อผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้บริการจำนวนกว่า 400,000 เลขหมาย ซึ่งผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองได้ชี้แจงในชั้นไต่สวนว่า ผู้ใช้บริการจะได้รับผลกระทบจากมติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ในคราวประชุมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2559 เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2559
ดังนั้น หากศาลจะมีคำสั่งทุเลาตามมติของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองตามคำขอของผู้ฟ้องคดีในระหว่างการพิจารณาจึงไม่เป็นอุปสรรคต่อการบริหารงานของรัฐ หรือต่อบริการสาธารณะของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองแต่อย่างใด อีกทั้งกรณีที่ผู้ร้องสอดยื่นคำร้องสอด ลงวันที่ 15 มีนาคม 2559 ขอให้ศาลมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องของผู้ฟ้องคดีไว้พิจารณา และให้มีคำสั่งยกคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครอง นั้น
ข้อเท็จจริงได้ความในชั้นไต่สวนตามคำชี้แจงของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองว่า ผู้ร้องสอดได้เสนอให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 นำคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz จำนวน 5 MHz ให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ใช้งานภายใต้ขอบเขตของกฎหมายที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 สามารถดำเนินการได้เพื่อประโยชน์ของสาธารณะไปจนถึงวันที่ 31พฤษภาคม 2559 โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ตามหนังสือ ที่ TUC/H/REG/238/2559 ลงวันที่ 15 มีนาคม 2559
จึงเห็นได้ว่า หากศาลจะมีคำสั่งทุเลาตามมติของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองก็ไม่ทำให้ผู้ร้องสอดเป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนเสียหายแต่อย่างใด ศาลจึงเห็นว่า มีเหตุสมควรที่จะทุเลาการบังคับตามมติดังกล่าว ทั้งนี้ ตามมาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ประกอบข้อ 72 วรรคสอง แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2543 จึงมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามมติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ในคราวประชุมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2559 เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2559 โดยให้ระยะเวลาคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวสิ้นสุดลงในวันที่ 14 เมษายน 2559 เวลา 24.00 นาฬิกา
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า จากการที่ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้เอไอเอสยังคงให้บริการต่อไปอีก 30 วัน ซึ่งจะส่งผลให้ลูกค้าจำนวนดังกล่าวยังคงสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง ทั้งนี้ เอไอเอสยังคงยืนยันเจตนารมณ์ที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกค้าทุกท่านสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องต่อไป
เรามั่นใจ...พร้อมดูแลลูกค้า 2G ทุกท่านต่อเนื่องด้วย 3G และ 4G
Posted by AIS on Tuesday, March 15, 2016