ดีแทค เผยผลสำรวจโครงการ “Safe Internet” ระบุชัดคนไทยสูญเงินกว่า 3 แสนบาทต่อคนให้แก่ภัยออนไลน์ ชี้ 3 สาเหตุหลัก ทำงานผ่านเน็ต ประมูลสินค้า และโดนแฮกเฟซบุ๊ก มีคนไทยติดกับดักมากที่สุด พร้อมแนะ 6 แนวทางแก้ไขเบื้องต้นเพื่อลดจำนวนสถิติการถูกล่อลวง
นางอรอุมา ฤกษ์พัฒนาพิพัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานสื่อสารองค์กรและการพัฒนาอย่างยั่งยืน บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา ดีแทค และเทเลนอร์ กรุ๊ป ได้ร่วมกันทำผลสำรวจภายใต้โครงการ Safe Internet การใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย และสร้างสรรค์มาอย่างต่อเนื่อง โดยการจัดทำแต่ละครั้งเราจะนำผลสำรวจมาเผยแพร่เพื่อให้เป็นข้อมูลพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของคนไทย และเอเชีย ซึ่งในแต่ละครั้งก็จะพบว่าข้อมูลจากผลการสำรวจบ่งชื้สัญญาณอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อคนไทย โดยเฉพาะภัยลวงต่างๆ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย ประกอบกับความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
โดยการสำรวจผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 4 ประเทศในเอเชีย ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินเดีย และประเทศไทย อายุระหว่าง 18-65 ปี เกี่ยวกับเรื่องการล่อลวงบนโลกอินเทอร์เน็ต พบว่าคนไทยใช้งานอินเทอร์เน็ตถึง 10 ชั่วโมงต่อวันเพิ่มมากขึ้นจากปีที่ผ่านมา และยังพบว่า 40% ของคนไทยตกเป็นเหยื่อการล่อลวงบนโลกอินเทอร์เน็ต 56% รู้ว่าเพื่อน หรือสมาชิกในครอบครัวก็เคยตกเป็นเหยื่อการล่อลวงบนโลกอินเทอร์เน็ต และ 90% ของคนไทยถูกหลอกให้เสียเงินไปกับภัยบนโลกอินเทอร์เน็ต โดยประเทศไทยติดอันดับเป็นประเทศที่เสียเงินไปกับภัยลวงออนไลน์มากที่สุดในเอเชีย ซึ่งเฉลี่ยเป็นมูลค่าถึง 370,000 บาทต่อคน
โดย 3 อันดับภัยลวงบนโลกอินเทอร์เน็ตที่คนไทยติดกับดักมากที่สุด อันดับ 1 ซึ่งมีจำนวนกว่า 40% เป็นภัย ‘Work from home’ ที่ล่อลวงผู้ใช้ด้วยคำว่า ทำงานง่ายๆ ที่บ้านผ่านอินเทอร์เน็ต ได้เงินดี เงินเร็ว และทำให้ผู้ใช้สามารถเป็นเจ้าของธุรกิจได้โดยไม่ต้องลงทุนซื้อเครื่องมือ สุดท้ายพบว่า ทำงานให้ฟรีแต่ไม่เคยได้รับค่าตอบแทน อันดับ 2 มีจำนวนกว่า 26% เป็นภัยที่ถูกหลอกให้ประมูลสินค้าบนออนไลน์ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จ่ายเงินไปแล้วแต่ไม่ได้รับของกลับมา และสุดท้ายอันดับ 3 มีจำนวนกว่า 21% เป็นภัยที่ถูกแฮกเอารหัสผ่านในการเข้าเฟซบุ๊ก โดยจะถูกเอาข้อมูลส่วนตัวไปใช้เพื่อทำธุรกรรมด้านอื่นๆ
ทั้งนี้ จากการสำรวจ ดีแทค และเทเลนอร์ กรุ๊ป จึงขอแนะนำวิธีการแก้ปัญหาเพื่อให้สถิติการถูกล่อลวงบนอินเทอร์เน็ตลดลง ดังนี้ 1.ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตควรติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกรณีการถูกหลอกลวง หรือชักนำในรูปแบบต่างๆ เพื่อนำมาเป็นประโยชน์ หากเจอในกรณีเดียวกันจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ 2.ควรลบอีเมลที่ไม่คุ้นเคย หรือที่แปลกๆ ทิ้งไป 3.พยายามไม่เปิด หรือทำข้อตกลงใดๆ จนกว่าจะแน่ใจว่าไม่ใช่อีเมลไวรัส 4.ควรอัปเดตโปรแกรมสแกนไวรัสเสมอ เพื่อเป็นการป้องกันในด่านแรก เพราะอาชญากรรมบนออนไลน์ส่วนใหญ่เกิดจากการใช้โปรแกรมไวรัสในการดึงฐานข้อมูลของผู้ใช้ 5.ควรเพิกเฉย หรือไม่สนใจ และไม่ให้ความสำคัญต่อโฆษณาที่ดูเกินไปจากความเป็นจริง เพราะอาจจะทำให้ต้องเสียเงินไปกับความเชื่อที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้ 6.ควรส่งต่อข้อมูลความรู้เกี่ยวกับภัยลวงต่างๆ ให้เพื่อน และครอบครัวได้ทราบ ผ่านการใช้สื่อโซเชียล เพราะจะได้เป็นการกำจัดภัยไม่ให้ขยายต่อไปยังคนอื่นได้อีก
“ผลการสำรวจในครั้งนี้จะเป็นข้อมูลเชิงลึกที่จะทำให้เราสามารถออกแบบการให้ความรู้ และแนวทางป้องกันจากประสบการณ์ตรงจากผู้ที่เคยตกเป็นเหยื่อ ซึ่งดีแทค ในฐานะผู้ให้บริการด้านอินเทอร์เน็ตชั้นนำของประเทศ เราทุ่มเทที่จะทำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตได้ใช้งานอย่างเกิดประโยชน์สูงสุด โดยเรามุ่งมั่นผลักดันให้ความรู้เพื่อชี้ให้เห็นถึงโอกาสของโลกอินเทอร์เน็ตที่จะสามารถนำไปใช้ได้อย่างปลอดภัย และสร้างสรรค์” นางอรอุมา กล่าวทิ้งท้าย
Company Related Link :
ดีแทค