ยูทูป (Youtube) เผยคนไทยนิยมโฆษณาที่เล่าเรื่องราวโดนใจทำให้ยอมกดเข้าไปรับชม พร้อมระบุว่า พฤติกรรมการรับชมวิดีโอของคนไทยเปลี่ยนมารับชมบนสมาร์ทโฟนเป็นสัดส่วนหลัก จากการให้บริการ 3G และ 4G ด้วยจำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟนมากกว่า 42 ล้านราย ขณะที่ยูทูปมีผู้ใช้งานไทยที่คอยอัปโหลดคอนเทนต์กว่า 1.3 ล้านราย
นายภีท นุชนาฏนนท์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด กูเกิล ประเทศไทย กล่าวถึงภาพรวมการใช้งานยูทูปในประเทศไทยว่า ในปีที่ผ่านมามีการเติบโตมากกว่า 70% และถ้านับรวมกับปีก่อนหน้าถือว่ามีอัตราการเติบโตเกือบ 3 เท่า จากจำนวนผู้รับชมผ่านทั้งสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และพีซี
“การรับชมผ่านทั้งสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และพีซี ต่างมีการเติบโตที่เพิ่มขึ้น เพียงแต่สมาร์ทโฟนจะมีสัดส่วนการรับชมมากที่สุด ส่วนหนึ่งเกิดจากระดับราคาของสมาร์ทโฟนที่ต่ำลง มีการทำแคมเปญแจกเครื่องฟรีให้ลูกค้า พร้อมไปกับการที่ทางโอเปอเรเตอร์มีการเก็บข้อมูลไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ในประเทศ ทำให้การเรียกใช้งานได้รวดเร็วขึ้น และที่สำคัญคือ มีปริมาณคอนเทนต์ที่น่าสนใจเพิ่มมากขึ้น”
ปัจจุบัน พบว่ามีจำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟน 42 ล้านราย และกว่า 80% รับชมวิดีโอออนไลน์ ขณะเดียวกัน เวลาในการรับชมต่อครั้งจะอยู่ที่ 40 นาทีต่อวัน นอกจากนี้ กูเกิล ยังอ้างอิงข้อมูลจากดีแทคว่า หลังจากที่ดีแทคเปิดให้บริการ 4G ปริมาณการใช้งานยูทูปถือว่าเติบโตขึ้นมากที่สุด ตามมาด้วยการใช้งานโซเชียลมีเดีย
โดยในไทยขณะนี้มีจำนวนผู้ใช้บริการที่สร้างคอนเทนต์ทั้งหมด 1.3 ล้านราย แต่ถ้านับเฉพาะช่องที่เป็น Youtube Creators จะมีกว่า 1 แสนช่อง และในจำนวนนี้มี 6 ช่องที่อยู่ในระดับ Gold (มีผู้ติดตามเกิน 1 ล้านราย) และระดับ Silver 300 ช่อง (มีผู้ติดตามเกิน 1 แสนราย) ซึ่งจำนวนดังกล่าวจะไม่นับรวมช่องทางสื่อสารของแบรนด์หลัก
“4 ประเภทของคอนเทนต์ที่ได้รับการชมมากที่สุดคือ ช่องจากทาง Youtube Creators ถัดมาคือฟังเพลง หรือดูมิวสิกวิดีโอ ละครอย่างการรับชมละคร หรือซีรีส์ย้อนหลัง และภาพยนตร์ รวมถึงตัวอย่างหนัง”
ในขณะที่ฝั่งของโฆษณา ทางยูทูปได้มีการจัดอันดับโฆษณาที่ได้รับความนิยม โดยใช้เกณฑ์จากจำนวนผู้ชมในประเทศไทย กับปริมาณการเข้าถึงวิดีโอโดยธรรมชาติ และมีการโต้ตอบ ที่สำคัญคือ ต้องเป็นโฆษณาที่ผู้ชมเลือกเข้าไปกดรับชม ไม่ได้นับจากการจ่ายเงินเพื่อลงโฆษณา ทำให้หลายๆ แบรนด์เริ่มให้ความสำคัญต่อคอนเทนต์จุดนี้มากขึ้น
เทรนด์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Leaderboard (การจัดอันดับโฆษณาสร้างสรรค์ของยูทูป) ในปีนี้จะมีด้วยกัน 3 ส่วน คือ ความเป็นไทยแท้ ด้วยการใส่ความเป็นไทยลงในโฆษณา, พลังของเหล่าคนดัง คือ การใช้กลุ่มคนที่มีชื่อเสียงในโฆษณายังดึงดูดความสนใจของผู้ชม และครบรสทางด้านอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นหัวเราะ ร้องไห้ ตกหลุมรัก และดรามา ด้วยการเลือกชมโฆษณาที่เล่าเรื่องให้น่าติดตาม
สถิติที่น่าสนใจของโฆษณาบนยูทูป คือ เวลาเฉลี่ยของโฆษณาทั้ง 10 ชิ้นจะอยู่ที่ประมาณ 4 นาที หรือประมาณมิวสิกวิดีโอเพลง 1 ชิ้น โดยโฆษณายาวที่สุดอยู่ที่เวลา 8 นาที ที่สำคัญคือ 3 ใน 10 โฆษณา เพิ่งทำโฆษณาบนยูทูปเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ ยังมีสถิติการแชร์โฆษณาที่น่าสนใจคือ ยอดแชร์เฉลี่ยอยู่ที่ 2 หมื่นครั้ง (ถูกแชร์มากกว่าโฆณษา Super Bowl ในสหรัฐฯ) และโฆษณาที่มีการแชร์สูงที่สุดอยู่ที่ 6 หมื่นครั้ง
ขณะเดียวกัน เมื่อวัดผลถึงการโฆษณาบนยูทูปจากการเก็บสถิติพบว่า ผู้ชมมีความเชื่อถือแบรนด์มากขึ้นถึง 40% มีการเรียกชมโฆษณาซ้ำกว่า 70% การเข้ารับชมโดยตรง (Organic View) สูงถึง 50% ขณะเดียวกัน ยังพบว่าผู้บริโภคมีความชื่นชอบแบรนด์เพิ่มขึ้น 52% เกิดการอยากซื้อแบรนด์ใช้ 48% และมีการบอกต่อ 46%
ทั้งนี้ ทิศทางของการให้บริการยูทูปในประเทศไทยจะเน้นไปที่ 2 ส่วนหลักๆ คือ ทำให้คนไทยสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ได้เร็วขึ้น และถูกลง ในแง่ของการเข้าถึงคอนเทนต์ให้เร็วขึ้น จะขึ้นอยู่กับทางผู้ให้บริการเครือข่ายที่ปัจจุบันจะมีการเก็บข้อมูล (แคช) ที่มีการเรียกใช้งานบ่อยไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ภายในประเทศ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ได้เร็วขึ้น และประหยัดแบนด์วิธในการเชื่อมต่อไปต่างประเทศ
ถัดมาคือ ทำให้ราคาในการเข้าถึงยูทูปถูกลง จากปัจจุบันจะเห็นว่าโอเปอเรเตอร์มีการทำแพกเกจเฉพาะให้ผู้ที่รับชมยูทูปในราคาวันละ 9 บาท แต่ในอนาคตทางยูทูปจะเข้าไปร่วมเพื่อให้ค่าใช้จ่ายในการเข้าชมแต่ละวันถูกลง รวมถึงการนำฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามาสู่ตลาดต่อไป
Company Relate Link :
Youtube