เน็ตก้า ปรับแผน 4 แนวทางการบริหารใหม่ รับมือประมูล 4G เพิ่มซอฟต์แวร์ตัวใหม่จับทั้งค่ายมือถือ และองค์กรใหญ่ พร้อมสวนกระแสรุกตลาดเวียดนาม หลังผ่านมาตรฐาน ITIL ยืนยันรักษาส่วนแบ่งตลาดซอฟต์แวร์บริหารเครือข่ายในไทยต่อไป พร้อมขยายตลาดการบริหารจัดการเซิร์ฟเวอร์ และเน็ตเวิร์กเพิ่ม ตั้งเป้าเติบโตรวมกว่า 30%
นายชาญชัย เจียมโชติพัฒนกุล ประธานบริหาร บริษัท เน็ตก้า ซิสเต็ม เปิดเผยว่า เน็ตก้า ยังคงจุดยืนการเป็นซอฟต์แวร์บริหารจัดการเครือข่ายระดับ Carrier-Grade ที่ตอบโจทย์การใช้งานระดับ service provider ต่อไป พร้อมกับได้ปรับเปลี่ยน 4 แนวทางการบริหารใหม่ เพื่อรองรับการเติบโตของซอฟต์แวร์บริหารการจัดการไอที และซอฟต์แวร์บริหารอุปกรณ์เครือข่ายใหม่ โดยคาดว่าจะมีการเติบโตขึ้นจากเดิมเกือบ 30% เนื่องจากการเติบโตในตลาดโทรคมนาคมโดยเฉพาะการประมูลโครงข่ายโทรศัพท์มือถือใหม่ 2 ครั้งที่ผ่านมา ที่ทำให้ตลาดขยายตัวมากขึ้น และจะเป็นโอกาสของบริษัทซอฟต์แวร์จากประเทศไทยที่พัฒนาสู่คุณภาพระดับโลกในราคาที่แข่งขันได้กับซอฟต์แวร์จากต่างชาติ
ทั้งนี้ เน็ตก้ายังคงเป็นผู้นำตลาดซอฟต์แวร์ด้านการบริหารงานเครือข่ายในตลาดผู้ให้บริการ หรือ service provider ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดอยู่ถึง 80% และคาดว่าจะสร้างฐานลูกค้าได้มากขึ้นจากการที่ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือมีมากขึ้นในปี 2559 อีกทั้งได้ปรับเปลี่ยนซอฟต์แวร์บริหารจัดการเครือข่ายให้สามารถบริหารจัดการได้ทั้งเซิร์ฟเวอร์ และเน็ตเวิร์ก หรือเครือข่ายได้ทั้ง 2 ด้าน ทำให้สามารถเจาะเข้าตลาดองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องบริหารอุปกรณ์ทั้ง 2 อย่างควบคู่กันได้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ใช้ในการทำ Deep Inspection Package เพื่อตรวจสอบ และระบุปัญหาการใช้งานในเชิงลึกของการใช้งานเครือข่าย หรือ traffic ต่างๆ ที่ไหลผ่านในเน็ตเวิร์ก
“ตลาด Enterprise หรือองค์กรขนาดใหญ่ในไทยมีความต้องการซอฟต์แวร์ทั้ง 2 ประเภทนี้สูงมาก เพราะที่ผ่านมา แม้จะมีซอฟต์แวร์บริหารจัดการเซิร์ฟเวอร์อยู่บ้างแล้ว แต่การนำซอฟต์แวร์บริหารเครือข่ายในระดับมืออาชีพที่ได้รับการยอมรับจากตลาด service provider และ mobile operator มาผนวกเข้าด้วยกัน จะช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับประโยชน์สูงสุด และราคาของเน็ตก้ามีความยืดหยุ่นสูงมาก ดังนั้น ตลาดองค์กรขนาดใหญ่ในปีหน้าจะกลายเป็นลูกค้ากลุ่มใหม่ของบริษัทในที่สุด” นายชาญชัย กล่าว
และในปี 2559 เน็ตก้า จะเป็นซอฟต์แวร์ไทยที่รุกตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง หลังจากในช่วงที่ผ่านมา เน็ตก้า เข้าประกวดรางวัลทางด้านไอทีจำนวนมาก และได้รับรางวัลชนะเลิศทั้งใน และต่างประเทศมาแล้ว และมีพันธมิตรต่างประเทศหลายรายให้ความสนใจ แต่เนื่องจากการรุกตลาดต่างประเทศจำเป็นต้องมีบุคลากร และทีมงานสนับสนุนที่พร้อม ดังนั้น ในช่วงที่ผ่านมา เน็ตก้าได้ปรับโครงสร้างเพื่อรองรับการทำตลาดต่างประเทศโดยตรงมากขึ้น และเร่งเจรจากับคู่ค้าในต่างประเทศจนมีความพร้อม โดยจะเริ่มที่ตลาดในประเทศเวียดนาม และอินโดนีเซียก่อน ขณะเดียวกัน ก็เตรียมที่จะรุกตลาดพม่าเป็นประเทศต่อไป
ทั้งนี้ เป้าหมายต่อไปคือการสร้างความยอมรับในระดับนานาชาติ ซึ่งจะเป็นส่วนสนับสนุนให้การทำตลาดทั้งใน และต่างประเทศมีความสะดวกขึ้น ดังนั้น เน็ตก้า จึงได้พัฒนาบริษัทเพื่อเข้าสู่มาตรฐาน ITIL (Information Technology Infrastructure Library) ซึ่งเป็นมาตรฐานการสร้างแนวทางที่ดีสุด (Best Practice) ในด้านการบริหารจัดการงานบริการ (ITSM : IT Service Management) ซึ่งพบว่า การมี IT Service ที่ดีสามารถลดต้นทุนได้ถึง 48% โดยเน็ตก้าได้มาตรฐาน ITIL เมื่อช่วงปลายปี 2558 ที่ผ่านมา ถือเป็นบริษัทซอฟต์แวร์รายแรกของอาเซียน และรายที่ 3 ของเอเชียที่ได้มาตรฐานนี้ ซึ่งการที่เน็ตก้า ได้รับมาตรฐาน ITIL ในครั้งนี้ทำให้การทำตลาดในเมืองไทย และในประเทศอาเซียนจะทำได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก
นอกจากนี้ ยังมีการปรับเปลี่ยนระบบการจำหน่ายซอฟต์แวร์ใหม่ จากเดิมที่จะขายตรงในรูปแบบของ Project Base หรือการเข้าโครงการร่วมกับพันธมิตรในรูปแบบต่างๆ ด้วยตัวเอง จะมีการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย หรือ Distributor ขึ้นอย่างน้อย 1 ราย โดยจะแบ่งตลาดในแต่ละกลุ่มเพื่อให้ตัวแทนแต่ละรายที่ชำนาญทำตลาดต่อไป ส่วนเน็ตก้าจะหันมาทำการวิจัย และพัฒนาซอฟต์แวร์ให้มากขึ้น รวมถึงมุ่งมั่นต่อการทำตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น โดยการจำหน่ายผ่านตัวแทนนั้นจะทำให้ซอฟต์แวร์ของเน็ตก้า เป็นระบบ Mass Product หรือสินค้าที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น มากกว่าการเป็นสินค้าเฉพาะกลุ่ม
Company Related Link :
เน็ตก้า ซิสเต็ม