กลุ่มธุรกิจโรงแรมระดับโลกอย่างไฮแอท (Hyatt) กลายเป็นแบรนด์ล่าสุดในอุตสาหกรรมโรงแรมที่ถูกนักแฮกลงมือเจาะระบบเพื่อขโมยข้อมูล เบื้องต้น ไฮแอทแถลงข่าวยอมรับว่าพบร่องรอยความพยายามในการขโมยข้อมูลบัตรเครดิตของลูกค้าในระบบชำระเงิน โดยขณะนี้กำลังดำเนินการตรวจสอบความเสียหายอย่างเร่งด่วน
ไฮแอท ระบุว่า วิธีที่นักเจาะระบบใช้ในการขโมยข้อมูลคือ การฝังซอฟต์แวร์ร้าย หรือมัลแวร์ลงในคอมพิวเตอร์ที่ใช้รับชำระเงินจากลูกค้าไฮแอท โดยมัลแวร์นี้จะมีหน้าที่ขโมยข้อมูลบัตรเครดิตในระบบชำระเงินของบริษัท วิธีการเจาะระบบนี้คล้ายคลึงกับที่โรงแรมดังอย่างทรัมป์ โฮเทล (Trump Hotel Collection) เคยประกาศว่า พบมัลแวร์ลักษณะนี้ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ก่อนที่ฮิลตัน (Hilton) และสตาร์วูด (Starwood) จะทยอยออกมายอมรับว่าตกเป็นเหยื่อถูกเจาะระบบคอมพิวเตอร์เช่นกัน
ตามรายงานจากรอยเตอร์ ไฮแอท ระบุว่า สามารถตรวจพบมัลแวร์ร้ายได้ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยไม่เปิดเผยจำนวนลูกค้า หรือชื่อโรงแรมที่ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ ไฮแอทยังไม่ให้ข้อมูลด้วยว่า มัลแวร์นี้เริ่มทำงานลักลอบเก็บข้อมูลบัตรเครดิตตั้งแต่เมื่อใด ซึ่งในกรณีของทรัมป์ โฮเทล พบว่า มัลแวร์นี้เริ่มขโมยข้อมูลมานานกว่า 1 ปี
ทั้งหมดนี้ ไฮแอท ระบุว่า ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนอย่างละเอียด โดยแนะนำให้ลูกค้าตรวจสอบรายจ่ายที่น่าสงสัยในรายการบัตรเครดิตเป็นประจำ
สิ่งที่พอสรุปได้ขณะนี้คือ คอมพิวเตอร์ในระบบรับชำระเงินที่ไฮแอทพบว่าถูกแอบติดตั้งมัลแวร์นั้นมีจำนวนหลายเครื่องในหลายโรงแรม โดยแถลงการณ์ของไฮแอทบนเว็บไซต์ ระบุว่า บริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจเมื่อพบมัลแวร์นี้ และได้ว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด