xs
xsm
sm
md
lg

ดิทโต้เผยรายได้ตามเป้าที่ 600 ล้านบาท มั่นใจปีหน้าโต 20%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายฐกร รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด
ดิทโต้ เผยผลดำเนินงานปีนี้เป็นไปตามคาดหมาย ปิดรายได้ที่ 600 ล้านบาท ส่วนปีหน้าตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 15-20% เตรียมเน้นตลาดโซลูชันในกลุ่มเทคโนโลยีไลฟ์สไตล์ เจาะลูกค้าออฟฟิศที่ต้องการปรับระบบการจัดการที่ทันสมัย ชูกลยุทธ์มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกหลายหลาย และพร้อมบริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพ เผยล่าสุด ได้เข้าไปปรับปรุงระบบเครื่องฉายดาวของท้องฟ้าจำลองให้เป็นระบบใหม่ที่ทันสมัยขึ้น

นายฐกร รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้รวมประมาณ 600 ล้านบาท ส่วนในปีหน้าตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ประมาณ 15-20% เน้นการทำตลาดโซลูชันในกลุ่มเทคโนโลยีไลฟ์สไตล์ให้มากขึ้น เจาะกลุ่มออฟฟิศที่ต้องการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้าไปบริหารจัดการด้านการทำงาน

สำหรับเทรนด์ในปีหน้านั้นคาดว่า ตลาดเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์จะมาแรง ส่วนการลงทุนไอทีของภาครัฐนั้นค่อนข้างนิ่ง และยังไม่น่าจะมีการเติบโตมากนัก ดังนั้น บริษัทจึงมองว่าการเจาะตลาดในกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปน่าจะมีแนวโน้มที่ดีกว่า จึงจะหันมาเน้นเทคโนโลยีไลฟ์สไตล์ที่จะช่วยให้การทำงานออฟฟิศมีประสิทธิภาพมากขึ้น

“การวางกลยุทธ์การทำตลาดในปีหน้านั้นจะเน้นการเปลี่ยนเทคโนโลยีเดิมของลูกค้าเก่า ให้เป็นโซลูชันใหม่ที่ทันสมัย ช่วยสร้างศักยภาพ และความคล่องตัวให้แก่องค์กร ซึ่งดิทโต้ มีความพร้อมทั้งทางด้านซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์ที่หลากหลาย ไม่เจาะจงรายใดรายหนึ่ง เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกในการใช้งานได้มากขึ้น และเหมาะต่อความต้องการอย่างแท้จริง รวมไปถึงยังมีช่างเทคนิคที่มีความเชี่ยวชาญ และบริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพ”

นายฐกร กล่าวว่า ปัจจุบันดิทโต้มีรายได้ในส่วนของโซลูชันประมาณ 10% ที่เหลือเป็นรายได้จากการให้บริการระบบถ่ายเอกสารแบบครบวงจร ส่วนในปีหน้าคาดว่าจะรายได้ในส่วนโซลูชันจะเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 25% ซึ่งการรุกมาทำตลาดโซลูชันนั้นจะมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าเดิมที่มีอยู่ประมาณ 1,000 รายก่อน

ล่าสุด บริษัท สยามทีซี เทคโนโลยี จำกัด บริหารงานภายใต้บริษัทดิทโต้ ได้เข้ามาปรับปรุงระบบเทคโนโลยีในส่วนของเครื่องฉายดาวของท้องฟ้าจำลอง โดยได้ใช้ระบบดิจิตอล เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากบริษัท Evans and Sutherland (E&S) จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งระบบของเครื่องฉายดาวแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนของการฉายภาพใช้เครื่องฉายภาพ คริสตี้ (Christie) ที่มีการออกแบบให้มีความสว่างสูง อายุการใช้งานยาวนาน เหมาะต่อการใช้งานในโรงละคร และท้องฟ้าจำลองขนาดใหญ่

รวมทั้งยังมีในส่วนของเลนส์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อให้ฉายภาพได้กว้างกว่าโปรเจกเตอร์ทั่วไป และระบบการควบคุมที่มีการใช้ซอฟต์แวร์ที่มีชื่อว่า Digistar5 ซึ่งมีความสามารถในการฉายทั้งดวงดาว และภาพยนตร์ได้ โดยมีความคมชัดสูงถึง 4K

นอกจากการปรับปรุงเทคโนโลยีเครื่องฉายดาวแล้ว ทางบริษัทได้เข้าไปดูแลการตกแต่งภายในห้องฉายดาว ภายใต้แนวคิดแสงแห่ง Aurora เพื่อสร้างความสดใส แปลกตาให้แก่ห้องฉาย และเพิ่มแสงไฟที่ขอบโดม สามารถเปลี่ยนสีได้ถึง 12 สี นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น โดยห้องฉายดาวสามารถจุผู้ชมได้ จำนวน 280 ที่นั่ง พร้อมทั้งระบบเสียง 5.1 เซอราวนด์เทียบเท่าโรงภาพยนตร์ชั้นนำในประเทศไทย โดยมีงบประมาณในการปรับปรุงครั้งนี้ 95 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น