สาวใหญ่กะขโมยกล่องรับบริจาคของเด็กกำพร้าและของมีค่าในร้านศึกษาภัณฑ์เอกมัย แอบซ่อนตัวจนร้านปิด แต่โชคไม่ช่วยอาคารไม่มีทางออกจึงตัดสินใจจุดไฟหวังเกิดประกายไฟให้คนมาช่วยก่อนเกิดไฟเกิดลุกลามอย่างรวดเร็ว พบประวัติโชกโชนเพิ่งออกจากเรือนจำในคดีลักทรัพย์เมื่อ 7 เดือนก่อนหน้านี้
เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 9 ธันวาคม ร.ต.ท.ณัฐดนัย บำรุงศิลป์ พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายในร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ ท้องฟ้าจำลอง สาขาเอกมัย ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ขจรพงษ์ จิตภาคภูมิ ผกก.สน.ทองหล่อ พ.ต.ท.วิชัย ณรงค์ รอง ผกก.สส.สน.ทองหล่อ พ.ต.ต.ภานุภัทร กิตติพันธ์ สว.สส.สน.ทองหล่อ มูลนิธิร่วมกตัญญู ก่อนประสานรถน้ำจากหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร กว่า 8 คัน
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 2 ชั้น ปลูกติดเรียงกัน 6 คูหา พบแสงเพลิงกำลังพวยพุ่งโหมกระหน่ำอย่างรุนแรงอยู่ทั่วบริเวณชั้นที่ 2 เจ้าหน้าที่ต้องเร่งช่วยกันฉีดน้ำสกัดกั้น ก่อนใช้อุปกรณ์เครื่องมือทุบกระจกทุกบานเพื่อระบายควันโดยใช้เวลาเพียง 10 นาที เพลิงจึงสงบ
จากการตรวจสอบพบมีผู้ติดค้างอยู่ภายในจุดเกิดเหตุซึ่งได้รับอาการบาดเจ็บสำลักควันเพียงเล็กน้อย จำนวน 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.สุภัคตราภรณ์ วงศ์สุวรรณ อายุ 36 ปี ไม่ใช่พนักงานภายในร้านดังกล่าวแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ต้องเร่งช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สน.ทองหล่อ
ด้านนายปวิช ผังวิวัฒน์ อายุ 57 ปี ผู้จัดการร้านดังกล่าว กล่าวว่า โดยปกติที่ร้านจะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.ของวันจันทร์-วันเสาร์ โดยก่อนเกิดเหตุหลังจากที่ตนปิดร้านก็ได้รับคำสั่งจากทางเจ้าของร้านว่าในวันพรุ่งนี้ทางร้านจะปิดตัวลงเพิ่มอีก 1 วันเนื่องจากเป็นวันรัฐธรรมนูญ จึงส่งผลให้ทางร้านต้องปิดให้บริการเป็นระยะเวลานานกว่า 4 วัน ตนจึงตัดสินใจเดินทางกลับเข้ามาเช็กระบบไฟและตรวจสอบความเรียบร้อยอีกครั้งโดยไม่พบสิ่งผิดปกติอย่างใด จากนั้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้โทรศัพท์แจ้งเข้ามาว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในตัวอาคารดังกล่าว ตนจึงเดินทางกลับเข้ามาตรวจสอบอีกครั้งก่อนทางเจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ทราบว่าพบผู้ติดค้างอยู่ภายในตัวอาคารโดยไม่ใช่พนักงานของที่ร้านแต่อย่างใด
ต่อมา พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบก.น.5 เดินทางมาแถลงข่าวจับกุมตัวผู้วางเพลิงในครั้งนี้ จากการสอบสวน น.ส.สุภัคตราภรณ์ ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุวางเพลิงจริงเนื่องจากไม่สามารถออกมาจากตัวอาคารได้ โดยก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเวลา 16.00 น. ตนได้แฝงตัวเข้ามาเพื่อหาทางขโมยกล่องรับบริจาคของเด็กกำพร้าและชิงทรัพย์ของมีค่าต่างๆ โดยแอบอยู่บริเวณชั้นที่ 1 ที่เป็นห้องเก็บกล่องพัสดุเปล่า จนกระทั่งตนเห็นผู้ดูแลได้ปิดร้านแล้วจึงลงมือก่อนเหตุ เมื่อได้ทรัพย์สินเป็นที่เรียบร้อยจึงตัดสินใจจะออกจากตัวอาคารแต่ไม่สามารถออกมาได้จึงใช้ไฟแช็กที่เตรียมมาเผากับแผ่นรองเมาส์คอมพิวเตอร์เพื่อให้เกิดประกายไฟจะได้มีคนเข้ามาช่วยเหลือแต่เพลิงเกิดลุกลามอย่างรวดเร็วจนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมได้ดังกล่าว
“เคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง ประกอบด้วย ตู้บริจาคที่วัดสุ่น ลาดพร้าว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา, ภายในโรงพยาบาลเวชธานี สาขาลาดพร้าว, ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขารามคำแหง, ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ สาขาลาดพร้าว ก่อเหตุเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเน้นตู้บริจาคต่างๆ ซึ่งเงินที่ได้จะนำไปเลี้ยงลูกที่อยู่ที่บ้าน” เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาลักทรัพย์ และวางเพลิง ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้เคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวภายในศึกษาภัณฑ์ สาขาลาดพร้าว โดยภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพตัวผู้ก่อเหตุได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ผู้ต้องหารายนี้เพิ่งออกจากเรือนจำในคดีลักทรัพย์เมื่อ 7 เดือนก่อนหน้านี้