ปรับโฉมพาลาเดียม สู่ศูนย์จำหน่ายสินค้าไอทีครบวงจรขนาดใหญ่ ชู 3 จุดเด่น สถานที่ตั้ง ที่จอดรถ และโรงแรมขนาดใหญ่ ช่วยอำนวยความสะดวก พร้อมรุกจับกลุ่มลูกค้าไมซ์ในการจัดงานสัมมนา หรืองานเปิดตัวสินค้าไอทีระดับภูมิภาค วางเป้าหมายสร้างรายได้ 1,000 ล้านบาทภายใน 2-3 ปี
นายวัลลภ กมลวิศิษฐ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พรหมมหาราช พัฒนาที่ดิน จำกัด กล่าวถึงเป้าหมายในการพัฒนาศูนย์การค้า พาลาเดียม ที่ได้เปลี่ยนชื่อเป็น เดอะพาลาเดียม เวิลด์ ชอปปิ้ง ว่า ได้พัฒนาศูนย์การค้าจากเดิมที่เป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าประเภทเครื่องประดับ และสินค้าแฟชั่น ด้วยการจับมือกับกลุ่มพันธมิตรผู้ประกอบการไอทีย่านประตูน้ำ ในการสร้างให้เป็นศูนย์ไอทีที่ทันสมัย และมีขนาดใหญ่ที่สุดในย่านประตูน้ำ
“เป้าหมายหลักที่วางไว้ในอนาคตสำหรับพาลาเดียม คือ เป็นแหล่งชอปปิ้งสินค้าครบวงจร เพราะนอกจากตัวศูนย์การค้าแล้ว ก็จะมีโรงแรมเดอะเบอร์เคลีย์ ที่อยู่ติดกัน สามารถรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาพัก และเดินไปหาซื้อสินค้าได้ทันที รวมถึงการเจาะไปยังธุรกิจไมซ์ (MICE) เพื่อรับต่อการเปิดตัวสินค้า หรือจัดการประชุมด้านไอทีระดับประเทศ”
โดยปัจจุบัน เดอะ พาลาเดียม เวิลด์ ชอปปิ้ง ได้แบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือ ชั้น B ในการจำหน่ายสินค้าเครื่องประดับ ชั้น 1-3 ขายเสื้อผ้า และสินค้าแฟชั่น ส่วนขั้น 4-6 จะเป็นศูนย์จำหน่ายสินค้าไอทีโดยเฉพาะ โดยแบ่งสัดส่วนระหว่างสินค้าที่เป็นไอที และโมบายอยู่ประมาณ 70% ต่อ 30%
“จุดแข็งของพาลาเดียมที่ทำให้เชื่อว่าน่าสนใจกว่าศูนย์ไอทีแห่งอื่นในประเทศ คือ เรื่องของตำแหน่งที่ตั้งที่อยู่ในกลางเมืองย่านประตูน้ำ ถือเป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวทั้งขาวไทยและต่างชาติรู้จัก การที่มีลานจอดรถขนาดใหญ่รองรับได้มากกว่า 3,000 คัน และการที่มีโรงแรมขนาดใหญ่อยู่ติดกันเพื่อรองรับการจัดสัมมนา”
ทั้งนี้ ในการปรับปรุงพัฒนาเป็นศูนย์การค้าไอที ได้มีการใช้งบประมาณไปกว่า 100 ล้านบาท เพื่อปรับโฉมพื้นที่ราว 25,000 ตารางเมตร ในชั้น 4-6 ซึ่งปัจจุบันมีร้านค้าเข้ามาเช่าที่แล้วราว 90% ส่วนที่เหลือก็อยู่ในช่วงระหว่างดำเนินการต่อร้านค้าไอทีแบรนด์ใหญ่ๆ ที่สำคัญ คือ เป็นการตั้งร้านค้าแห่งแรกของหลายแบรนด์อย่าง เช่น Ascenti Strek Gigabyte Coolermaster
“เชื่อว่าสินค้าไอทียังเป็นกลุ่มสินค้าที่ผู้บริโภคต้องการจับ และทดลองสินค้าก่อนซื้อมาใช้งาน ประกอบกับกลุ่มเกมเมอร์ที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้เชื่อว่า พาลาเดียม จะสามารถเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 100% ในแต่ละปี โดยคาดว่าในปีนี้จะมีรายได้จากห้างฯ พาลาเดียมราว 300 ล้านบาท และขยับขึ้นเป็นไป 600 ล้านบาทในปีหน้า ก่อนจะทะลุ 1,000 ล้านบาท ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า”
ส่วนแผนการทางด้านการตลาดจะมีการวางงบประมาณในการโปรโมตศูนย์การค้าปีละ 20 ล้านบาท ในการทำสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ พร้อมไปกับการจัดกิจกรรมทางการตลาดกระตุ้นยอดขาย และช่วยเพิ่มปริมาณคนเดินภายในห้างให้มากยิ่งขึ้นด้วย
นอกจากพาลาเดียมแล้ว ทางบริษัทฯ ยังมีธุรกิจห้างสรรพสินค้าอีก 3 แห่ง ซึ่งแต่ละแห่งก็จะจับกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน อย่างห้างโบเบ๊ทาวเวอร์ และโบ๊เบ๊ รังสิต ก็จะเป็นแหล่งศูนย์รวมเสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เมก้า (เมอร์รี่คิง วังบูรพาเก่า) ก็เป็นแหล่งรวมร้านขายอุปกรณ์ และของเล่น ที่ดึงคู่ค้าจากสะพานเหล็กมาเปิดร้านค้าภายใน
Company Relate Link :
Palladium