ไมโครซอฟท์ เชื่อการมาของ iPad Pro ไม่กระทบตลาด Surface และยังช่วยกระตุ้นการใช้งานของลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกัน มองตลาดเครื่องแท็บเล็ตกึ่งโน้ตบุ๊กจะมีโอกาสเติบโตอีกมาก และสุดท้ายผู้บริโภคจะต้องการแพลตฟอร์มที่ใช้งานได้จริงมากกว่า
เอกราช ปัญจวีณิน ผู้อำนวยการฝ่ายการบริหารสินค้าคอนซูเมอร์ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงภาพรวมของไมโครซอฟท์ในช่วงที่ผ่านมาว่า ไมโครซอฟท์กำลังเปลี่ยนจากเดิมที่เป็นบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์กลายมาเป็นการมองไปยังธุรกิจโมบิลิตี และการให้บริการผ่านระบบคลาวด์ ทำให้ช่วงหลังจะเห็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ออกมาตอบรับการใช้งานกลุ่มดังกล่าวมากยิ่งขึ้น
“พื้นฐานสำคัญในการรุกเข้าตลาดโมบิลิตี และคลาวด์ของไมโครซอฟท์ คือ การเปิดตัวระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 10 ที่จะเชื่อมโยงการใช้งานทุกดีไวซ์ ให้เข้ามาอยู่ภายใต้แพลตฟอร์มเดียวกัน โดยเฉพาะในส่วนของผลิตภัณฑ์อย่าง Surface ที่เป็นต้นแบบของอุปกรณ์แท็บเล็ตกึ่งโน้ตบุ๊กที่สามารถแสดงประสิทธิภาพการทำงานของไมโครซอฟท์ในการใช้งานได้ดีที่สุด”
โดยที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ ชู Surface ว่าเป็นฮีโร่โปรดักต์ที่ช่วยสร้างรายได้ให้ไมโครซอฟท์ได้เป็นอย่างดี จากการที่เป็นผลิตภัณฑ์ 2 อิน 1 หรือการที่เป็นแท็บเล็ตกึ่งโน้ตบุ๊ก ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกใช้งานเครื่องเดียวแทนการมีอุปกรณ์แยกชิ้นที่เป็นแท็บเล็ต หรือโน้ตบุ๊ก ซึ่งสร้างความแตกต่างให้แก่ผู้บริโภคเมื่อเทียบกับผู้ผลิตรายอื่นในท้องตลาด
“การมี Surface เหมือนเป็นการผลิตสินค้าต้นแบบให้เหล่าผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ นำแนวคิดไปใช้เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่จะตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภค ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากที่ไมโครซอฟท์เปิดตัวก็มีผู้ผลิตหลายรายนำแนวทางดังกล่าวไปใช้ และได้รับการตอบรับที่ดี”
เอกราช ยังกล่าวอีกว่า ตลาดแท็บเล็ต 2 อิน 1 ถือเป็นตลาดที่ยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะอยู่ในช่วงที่ตลาดพีซีโดยรวมหดตัวก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้นแนวโน้มของผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ในอนาคตก็มีทิศทางที่ดี เช่นเดียวกับการที่มีคู่แข่งอย่างแอปเปิลเข้ามาในตลาด ยิ่งทำให้กระตุ้นการใช้งานของผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ในตลาดโลกเมื่อสิ้นไตรมาส 3 ที่ผ่านมา กลุ่มผลิตภัณฑ์ Surface สามารถสร้างรายได้ให้แก่ไมโครซอฟท์ถึง 713 ล้านเหรียญ (ราว 2.7 หมื่นล้านบาท) และถ้าเทียบระหว่างช่วงเดือนเมษายนปี 2558 กับปี 2557 Surface มีอัตราการเติบโตถึง 44% ซึ่งถือว่าเติบโตสูงมากในกลุ่มอุปกรณ์ที่เป็นฮาร์ดแวร์ เมื่อเทียบกับตลาดในปัจจุบัน
ในช่วงที่ผ่านมา ตลาดประเทศไทย Surface Pro 3 จะได้รับความนิยมมากกว่า Surface 3 เพราะมีกลุ่มลูกค้าในระดับกลางบนที่ต้องการเครื่องที่มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์การทำงานระดับสูงมากกว่า ส่งผลต่อเนื่องมาถึงยอดการเปิดจอง Surface Pro 4 ตั้งแต่ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ได้รับการตอบรับดีขึ้นเมื่อเทียบกับ Surface Pro 3
***Surface Pro 4 - iPad Pro ยังคนละกลุ่ม
แน่นอนว่า การมาของ Apple iPad Pro ถือเป็นการเข้ามารุกตลาดแท็บเล็ตหน้าจอขนาดใหญ่ พร้อมกับปากกาเขียนหน้าจอ ที่แต่เดิม Surface ครองตลาดนี้อยู่ ดังนั้น มีเหตุผลที่เชื่อได้ว่า iPad Pro จะเริ่มเข้ามาแทรกในตลาดนี้มากยิ่งขึ้น แต่ทางผู้บริหารไมโครซอฟท์ ก็ยืนยันว่า เครื่องทั้ง 2 รุ่น มีกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน
รชฏ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้จัดการกลุ่มธุรกิจและการตลาดวินโดวส์และเซอร์เฟซ ไมโครซอฟท์ ให้ข้อมูลว่า สิ่งที่ไมโครซอฟท์นำเสนอใน Surface Pro 4 คือ เป็นอุปกรณ์ที่สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มการใช้งานของไมโครซอฟท์ได้ครบถ้วน รวมถึงการใช้งานโปรแกรมต่างๆ ในการทำงาน และการใช้งานในชีวิตประจำวันมากกว่า ทำให้มีกลุ่มลูกค้าที่เน้นการสร้างสรรค์ผลงานมากกว่า
ในขณะที่ iPad Pro จะเป็นเพียงแท็บเล็ตที่มีขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้นเท่านั้น แต่ด้วยระบบปฏิบัติการที่เป็น iOS9 ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานโดยเฉพาะเหมือนวินโดวส์ ดังนั้น ในการใช้งานอย่างการออกแบบ การวาดรูป การแก้ไขงาน ตกแต่งภาพบน iPad Pro ก็จะทำได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าต้องการใช้งานในรูปแบบที่เป็นมืออาชีพอย่างโฟโต้ชอป ย่อมใช้งานบนวินโดวส์ได้ดีกว่า
อย่างไรก็ตาม Surface Pro 4 จะมีเฉพาะรุ่นที่ใช้งานผ่าน Wi-Fi เท่านั้น ไม่ได้มีรุ่นที่รองรับการใส่ซิมการ์ดมาให้ โดยทางไมโครซอฟท์มองว่า ปัจจุบันการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในการทำงานด้วยไวไฟสามารถใช้งานได้ครอบคลุมอยู่แล้วจากสถานที่ทำงาน บ้าน หรือตามจุดต่างๆ ก็มีให้บริการมากขึ้น หรือถ้าต้องการใช้งานฉุกเฉินก็สามารถปล่อยสัญญาณจากสมาร์ทโฟนมาใช้งานได้
***เทียบราคา
ระดับราคาของ Surface Pro 4 ขึ้นอยู่กับหน่วยประมวลผล หน่วยความจำ (RAM) และพื้นที่เก็บข้อมูล เริ่มต้นที่ 33,900 บาท สำหรับรุ่น Core M3 RAM 4GB 128 GB จนถึง Core i7 RAM 16GB 512 GB ในราคา 82,900 บาท โดยจะแถมปากกาให้ด้วย 1 ด้าม ส่วนคีย์บอร์ด Surface Pro Type Cover ราคา 5,190 บาท มีให้เลือก 2 สี คือ ดำ และน้ำเงินเข้ม กรณีซื้อปากกาเพิ่ม Surface Pen อยู่ที่ 2,390 บาท มีสีให้เลือก คือ สีดำ และสีฟ้า
ส่วนราคาของ iPad Pro จะเริ่มค้นที่ 30,900 บาท สำหรับรุ่น 32GB Wi-Fi ไปจนถึง 41,900 บาท ในรุ่น 128 GB Wi-Fi + Cellular ขณะที่ Apple Pencil อยู่ที่ 3,900 บาท Smart Keyboard จะอยู่ที่ 6,700 บาท หรือถ้าต้องการซื้อเคสซิลิโคน อยู่ที่ 4,100 บาท และ Smart Cover ที่ 2,800 บาท
ทั้งนี้ Surface Pro 4 เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา ในงาน “The Masterpiece Collaboration powered by Surface Pro 4” จัดขึ้นที่อาคาร E88 ศูนย์การค้า W-District โดยมี บัณฑิต อึ้งรังษี วาทยกรระดับโลก นักพูด และนักเขียน และ ปอม-ธัชมาพรรณ จันทร์จำรัสแสง ศิลปินนักวาดภาพซึ่งมีผลงานเป็นที่รู้จักระดับสากลในชื่อ “Pomme Chan” มาร่วมสาธิตวิธีการใช้งาน Surface Pro 4 เพื่อสร้างสรรค์ศิลปะร่วมกัน โดยความสามารถทางด้านการอำนวยเพลงให้แก่วงออเคสตราของบัณฑิต อึ้งรังษี และลายเส้นที่สวยงามจาก ปอม - ธัชมาพรรณ จันทร์จำรัสแสง จะถูกรังสรรค์จากสัมผัสทางหู สู่สัมผัสทางตา ผ่าน Surface Pro 4 แท็บเล็ตรุ่นล่าสุดให้แก่ผู้มาร่วมงานได้รับชม และรับฟัง