อดีตผู้ผลิตโทรศัพท์มือถืออันดับ 1 ของโลกอย่างโนเกีย (Nokia) มีแผนกลับมาเล่นในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่จริงอย่างที่มีรายงานมาก่อนหน้านี้ โดยซีอีโอโนเกียให้สัมภาษณ์สื่อเยอรมนีว่า บริษัทจะเริ่มออกแบบ และขายลิขสิทธิ์การผลิตโทรศัพท์ในปี 2016 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ไมโครซอฟท์อนุญาตไว้ในสัญญา
ราจีฟ ซูริ (Rajeev Suri) ซีอีโอโนเกียให้สัมภาษณ์ต่อนิตยสารแมนเนเจอร์ แมคกาซีน (Manager Magazin) ของเยอรมนีถึงแผนการกลับมาเล่นในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่อีกครั้งของโนเกีย โดยบทความถูกเผยแพร่ในวันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน 2015 ตามเวลาท้องถิ่น
ซีอีโอโนเกีย ระบุว่า บริษัทกำลังมองหาพันธมิตรที่เหมาะสม ขณะเดียวกัน ก็ยืนยันว่า โนเกียจะไม่ได้ลงมือผลิตโทรศัพท์เอง แต่จะออกแบบ และให้สิทธิ์ หรือไลเซนส์ (license) ในการใช้แบรนด์เนมของโนเกีย ทั้งหมดนี้จะทำให้โนเกียไม่ชนกับไมโครซอฟท์ (Microsoft) ที่ผลิตโทรศัพท์มือถือด้วยตัวเอง
ก่อนหน้านี้ โนเกียตัดสินใจขายหน่วยธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้แก่ไมโครซอฟท์ในปี 2014 หลังจากที่ทนพิษยอดขายตกต่ำต่อเนื่องมานานหลายปี กระทั่งไม่กี่เดือนถัดมา โนเกียก็เปิดตัวแท็บเล็ตแบรนด์โนเกียที่ผลิตโดยฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) บริษัทไต้หวัน ในรูปแบบไลเซนส์ ซึ่งคาดว่าจะมีสินค้าลักษณะนี้จากโนเกียถูกทยอยแจ้งเกิดตามหลังแท็บเล็ตรุ่นนี้
คำให้สัมภาษณ์นี้ตรงกับข้อมูลของสำนักข่าวรีโค้ด (Re/code) ที่อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าววงในที่ระบุว่า การขายกิจการสมาร์ทโฟนให้ไมโครซอฟท์เมื่อปี 2013 นั้นมีข้อกำหนดให้โนเกียไม่สามารถผลิตสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ออกมาจำหน่ายได้จนกว่าจะถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2015 แต่ขณะนี้โนเกียมีการออกแบบแนวคิดโทรศัพท์รุ่นใหม่ไว้แล้วโดยยกเว้นระบบการผลิตไว้ ซึ่งไม่เพียงสินค้ากลุ่มสมาร์ทโฟน แต่โนเกียยังมีแผนลงเล่นในตลาดอุปกรณ์ฉายภาพเสมือนจริง หรือ virtual reality ด้วย
ขณะนี้นักวิเคราะห์หลายรายเชื่อว่า ไมโครซอฟท์กำลังเตรียมพร้อมตัดค่าใช้จ่าย 7.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากการควบรวมโนเกียให้เป็นหนี้สูญ (write-off) เนื่องจากดีลนี้ทำให้ไมโครซอฟท์ขาดทุนซ้ำซาก และสามารถครองส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนโลกได้เพียง 3%
นอกจากนี้ ผู้บริหารไมโครซอฟท์อย่าง “สตีเฟ่น อีลอป (Stephen Elop)” ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการทำให้โนเกีย และไมโครซอฟท์ซื้อขายธุรกิจโทรศัพท์มือถือสำเร็จ ก็กำลังจะลาออกจากบริษัทไมโครซอฟท์ ท่ามกลางการปรับโครงสร้างเพื่อให้ไมโครซอฟท์พุ่งเป้ากับธุรกิจซอฟต์แวร์หลักของบริษัท
สำหรับโนเกีย เจ้าพ่อฟินแลนด์ ประกาศเทเงิน 1.56 หมื่นล้านยูโร ซื้อกิจการอัลคาเทล-ลูเซนต์ (Alcatel-Lucent) ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา เพื่อยกระดับธุรกิจอุปกรณ์เครือข่ายของตัวเอง นอกจากนี้ โนเกียยังเตรียมแผนจำหน่ายธุรกิจระบบแผนที่ของตัวเอง ซึ่งมีข่าวว่าเป็นที่สนใจของบริษัทรถเยอรมนี ทั้ง BMW, Audi และ Mercedes รวมถึงบริษัทไอทีหลายรายในสหรัฐฯ และจีน