ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด (ชสอ.) จ้างเมโทรซิสเต็มส์ฯ เป็นผู้ออกแบบ พัฒนา ติดตั้งโปรแกรมสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ พร้อมให้บริการศูนย์ข้อมูล และบริการด้านไอทีแบบครบวงจรแก่สหกรณ์ออมทรัพย์ มูลค่ากว่า 285 ล้านบาท
ดร.เฉลิมพล ดุลสัมพันธ์ ประธานกรรมการ ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด (ชสอ.) พร้อมด้วย นายอนันต์ ชาตรูประชีวิน ผู้จัดการใหญ่ ได้ลงนามในสัญญาจ้าง บริษัท เมโทรซิสเต็มส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MSC เป็นผู้ดำเนินการ ออกแบบ พัฒนา และติดตั้งโปรแกรมสหกรณ์ออมทรัพย์ เพื่อสหกรณ์สมาชิก มูลค่าโครงการรวมกว่า 285 ล้านบาท โดยมี นายกิตติ เตชะทวีกิจกุล รองกรรมการผู้จัดการ และนายอรุณ ต่อเอกบัณฑิต ผู้อำนวยการกลุ่มผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์โซลูชัน บริษัท เมโทรซิสเต็มส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนาม เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2558
ดร.เฉลิมพล กล่าวว่า ปัจจุบัน การบริหารงานสหกรณ์ออมทรัพย์ได้มีการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ประโยชน์ในการดำเนินงาน ซึ่งต้องมีภาระค่าใช้จ่ายในการพัฒนาระบบเพิ่มสูงขึ้น และสหกรณ์ขนาดเล็กที่มีงบประมาณจำกัด ยังไม่สามารถเข้าถึงบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างทั่วถึง รวมทั้งยังมีปัญหาขาดแคลนบุคลากรด้านไอที ซึ่งส่งผลให้เสถียรภาพของระบบงานสหกรณ์ในภาพรวมมีความเสี่ยงมากขึ้นในอนาคต อีกทั้ง ชสอ. มีวิสัยทัศน์ที่จะพัฒนาให้ ชสอ. เป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีสารสนเทศ ของขบวนการสหกรณ์ออมทรัพย์ จึงกำหนดแผนพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยการจัดหาโปรแกรมระบบงานสหกรณ์ออมทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพให้แก่สหกรณ์ออมทรัพย์ สามารถเชื่อมโยงระบบข้อมูลของสหกรณ์ออมทรัพย์ได้ทั่วประเทศ และเป็นมาตรฐานเดียวกัน ทัดเทียมกับชุมนุมสหกรณ์ในต่างประเทศ
โดย ชสอ.ได้รับอนุมัติงบลงทุนจากที่ประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2556 เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2556 อนุมัติงบลงทุนซื้อโปรแกรมสหกรณ์ออมทรัพย์ 18 ระบบงานหลัก จำนวน 316 ล้านบาท และอนุมัติงบลงทุนค่าจัดทำศูนย์คอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ทั้งระบบ จำนวน 120 ล้านบาท เป็นงบผูกพัน 4 ปี (ปีบัญชี 2556-2559) ได้พิจารณาเลือกแนวทางการพัฒนาโปรแกรมสหกรณ์ออมทรัพย์ขึ้นมาใหม่ ตามกรอบสถาปัตยกรรมโปรแกรมสหกรณ์ออมทรัพย์ โดยจัดจ้างบริษัท เมโทรซิสเต็มส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อออกแบบ พัฒนา ติดตั้งโปรแกรมสหกรณ์ออมทรัพย์ มูลค่าโครงการรวมกว่า 285 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโปรแกรมระบบงานสหกรณ์ออมทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพ และมีความทันสมัย ได้มาตรฐาน มีการบริหารจัดการรูปแบบเดียวกันให้แก่สหกรณ์สมาชิก
ดร.เฉลิมพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ชสอ. ได้ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสหกรณ์นำร่อง จำนวน 16 สหกรณ์ในทุกวิชาชีพ เพื่อเข้าร่วมในการให้ข้อมูลระบบงานสหกรณ์ออมทรัพย์ที่ใช้ในปัจจุบัน เข้าร่วมการทดสอบระบบ และใช้งานจริงโปรแกรมสหกรณ์ออมทรัพย์แบบศูนย์รวมที่มีมาตรฐาน มีคุณสมบัติ และประสิทธิภาพเหมาะสมต่อการใช้งานของสหกรณ์สมาชิก เพื่อให้สหกรณ์สมาชิกมีโปรแกรมระบบงานสหกรณ์ออมทรัพย์ใช้บริหารจัดการรูปแบบเดียวกัน อีกทั้งในอนาคตยังมีนโยบายที่จะต่อยอดเพื่อใช้ประโยชน์ในการทำธุรกรรมกับธนาคารต่างๆ
นายกิตติ กล่าวว่า ทาง เมโทรซิสเต็มส์ฯ รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ออกแบบ พัฒนา และติดตั้งโปรแกรมสหกรณ์ออมทรัพย์ เพื่อสหกรณ์สมาชิก เนื่องจากมีความมั่นคง และเป็นผู้ดำเนินธุรกิจด้านไอทีแบบครบวงจรมาเกือบ 30 ปี มีความรู้ทางเทคโนโลยีที่ทันสมัย และได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรทางการค้าชั้นนำระดับโลก มีการพัฒนาบุคลากรในระดับมืออาชีพ (IT Certification) มีการนำ Software Development Methodology ที่ได้มาตรฐานมาใช้ในการพัฒนาระบบ และมีการพัฒนาธุรกิจโดยมุ่งเน้นที่ความสำเร็จของลูกค้าเป็นหลัก
โดยมีความพร้อม และมีความสามารถที่จะดำเนินโครงการได้ตามแผนงาน ด้วยศักยภาพของทีมบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี และแผนพัฒนาด้านไอทีไปในทิศทางเดียวกับที่ ชสอ. สนใจ เช่น การนำระบบงานต่างๆ ขึ้นไปไว้บน Cloud แล้วสามารถนำมาใช้งานได้เหมาะสม ตามแนวคิด SaaS หรือ Software-as-a-Service ตลอดจนมีแผนการให้บริการ Private Cloud ซึ่งสอดคล้องต่อความต้องการของ ชสอ. ทำให้สามารถให้คำแนะนำได้อย่างชัดเจนจนเกิดเป็นรูปแบบโครงการขึ้นมา
“เมโทรซิสเต็มส์ฯ เสนอบริการในรูปแบบเทิร์นคีย์ ตั้งแต่การวางระบบ พัฒนา ติดตั้ง มีอินฟราสตรักเจอร์รองรับ และมีบริการด้านทีม IT Support ครบวงจร เรามีทั้งศูนย์ให้เช่า ทำการทดสอบ มีบุคลากรที่มีประสบการณ์ ช่วยคิด ช่วยทำ ใช้ซอฟต์แวร์ชั้นนำระดับโลกอย่าง Oracle ทำเรื่อง Database เราเลือก IBM Websphere ดูแลเรื่อง Application Server ในเฟสเแรก ซึ่งเป็นเรื่องการพัฒนาระบบงาน เราได้ดึงทีมงานจากบริษัทในเครือ ได้แก่ MIT - บริษัท เมโทร อินโฟเทค จำกัด และ PSP - บริษัท พีเอสพี (ไทยแลนด์) จำกัด เข้ามาเป็นผู้พัฒนาระบบงาน เพื่อนำขึ้นสู่อินฟราสตรักเจอร์ ที่เรียกว่า Private Cloud โดยใน 2 ปีแรก ชสอ. ได้วางแผนเช่าศูนย์คอมพิวเตอร์จากทีม Business Continuity Services - BCS พร้อมใช้บริการ IT Support จากหน่วยงาน Managed Services ซึ่งในส่วนนี้จะทำให้ทาง ชสอ.ได้ต้นแบบการทำดาต้าเซ็นเตอร์ที่เป็นมาตรฐาน รวมถึงในเรื่องการให้บริการด้าน IT เพื่อนำไปใช้บริการสมาชิกฯ ต่อไป”
ด้านแผนการพัฒนาโปรแกรมระบบงานสหกรณ์ออมทรัพย์ ในช่วง 1 ปีแรก จะเป็นการพัฒนาระบบงานหลัก จำนวน 9 ระบบ ได้แก่ 1.ระบบงานทะเบียนสมาชิก 2.ระบบงานทะเบียนทุนเรือนหุ้น 3.ระบบงานเงินฝาก 4.ระบบงานสินเชื่อ 5.ระบบงานบัญชีและงบประมาณ 6.ระบบงานการเงิน 7.ระบบงานการดูแลปฏิบัติงาน 8.ระบบงานการเชื่อมต่อกับ ATM กับธนาคาร และระบบการกระทบยอดและชำระดุล (ระหว่าง ชสอ. กับธนาคาร และ ชสอ. กับ สอ. สมาชิก โดยยึดหลักการออกแบบรหัสมาตรฐานกลาง ตามมาตรฐานของธนาคารแห่งประเทศไทย) 9.ระบบงานการยกยอด/โอนย้ายข้อมูล (Data Conversion & Migration)
ส่วนระบบงานเสริม จำนวน 9 ระบบ จะพัฒนาในปีที่ 2 ได้แก่ 1.ระบบงานตั๋วสัญญาใช้เงิน 2.ระบบงานเงินลงทุน 3.ระบบงานสวัสดิการสมาชิก 4.ระบบงานสอบถามข้อมูลสมาชิก 5.ระบบงานผู้บริหารสอบถามข้อมูลธุรกิจ (MIS) 6.ระบบงานสมาชิกสัมพันธ์ 7.ระบบงานทะเบียนสินทรัพย์ 8.ระบบงานปรับปรุงโครงสร้างหนี้ 9.ระบบงานสอบถามข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต และผ่านทางอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือสำหรับสมาชิกของสหกรณ์ออมทรัพย์ (Internet & Mobility Information Service)
ทั้งนี้ ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด หรือ ชสอ. กำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2515 เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางทางการเงินและเทคโนโลยีสารสนเทศ ของสหกรณ์ออมทรัพย์ทั่วประเทศ ปัจจุบัน มีสหกรณ์สมาชิก จำนวน 1,050 สหกรณ์ สินทรัพย์รวมกว่า 70,000 ล้านบาท มีสำนักงานตั้งอยู่ ณ ถนนนครอินทร์ สะพานพระราม 5 จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นอาคารประหยัดพลังงานที่มีความโดดเด่น ทันสมัย เพื่อรองรับการขยายขอบเขตการดำเนินงานที่จะมีต่อไปในอนาคต