หัวเว่ย เผยผลประกอบการอย่างเป็นทางการใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.882 แสนล้านหยวน เติบโต 20.6% โดยมาจากกลุ่มผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ 67% รองลงมาคือ กลุ่มธุรกิจคอนซูเมอร์ และกลุ่มธุรกิจองค์กร 26% และ 7% ตามลำดับ
โดยในปีที่ผ่านมา หัวเว่ย ถือว่ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่องสร้างรายได้ทั้งหมด 2.882 แสนล้านหยวน คิดเป็นอัตราการเติบโตเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 20.6% อย่างไรก็ตาม จุดที่ทำให้หัวเว่ย มีอัตราการเติบโตสูงมาจากการลงทุนในการวิจัยและพัฒนากว่า 4.08 หมื่นล้านหยวน
ถ้าแบ่งสัดส่วนรายได้จะมาจากกลุ่มธุรกิจผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ (Carrier) 1.921 แสนล้านหยวน จากปีที่ผ่านมา 1.649 แสนล้านหยวน เติบโต 16.4% คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 67% ถัดมาคือ ส่วนของธุรกิจคอนซูเมอร์ สร้างรายได้ 7.51 หมื่นล้านหยวน จากปีที่ผ่านมา 5.66 หมื่นล้านหยวน เติบโต 32.6% คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 26% สุดท้ายคือ กลุ่มธุรกิจองค์กรสร้างรายได้ 1.94 หมื่นล้านหยวน เติบโตจาก 1.52 หมื่นล้านหยวน เติบโต 27.3% คิดเป็นสัดส่วน 7%
ขณะที่ถ้าแบ่งรายได้ตามภูมิภาค จะมีสัดส่วนรายได้มาจากประเทศจีน 38% ยุโรป และตะวันออกกลาง 35% ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก คิดเป็นสัดส่วน 15% และสหรัฐอเมริกา 11% โดยในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะในประเทศเกาหลีใต้ ไทย และอินเดีย ถือเป็นประเทศที่มีอัตราการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
สำหรับในปี 2015 หัวเว่ย จะเดินหน้าในกลุ่มธุรกิจหลัก 3 กลุ่มเช่นเดิม เพียงแต่จะเพิ่มเป้าหมายหลักในการขึ้นเป็นผู้นำในแต่ละกลุ่มด้วยการเพิ่มงบในการวิจัยและพัฒนาเพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เฉพาะในส่วนของธุรกิจไอทีที่จะกลายมาเป็นพื้นฐานของการพัฒนาในอนาคต
เป้าหมายในส่วนของกลุ่มผู้ให้บริการเครือข่ายต้องการขึ้นเป็นผู้นำ และช่วยให้โอเปอเรเตอร์ในการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิตอล ส่วนกลุ่มธุรกิจองค์กรจะนำประสบการณ์เข้าไปช่วยพัฒนาโซลูชันที่เหมาะสมต่อธุรกิจ เพื่อช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับผู้บริโภค และสุดท้าย กลุ่มธุรกิจคอนซูเมอร์ จะเน้นไปที่การลงทุนระยะยาว ที่จะสร้างรายได้ที่มั่นคงมากกว่าปริมาณการจำหน่าย ที่สำคัญคือ การขึ้นเป็นอันดับต้นๆ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ระดับโลก
นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเผยถึงแนวคิดในการเชื่อมต่อโลกเข้าด้วยกันภายใต้คอนเซ็ปต์ “ROADS” ที่ประกอบไปด้วย 5 ส่วนสำคัญด้วยกันคือ “Real Time” ในการเข้าถึงข้อมูลได้ตลอดเวลา “On Demand” การเชื่อมต่อตามความต้องการ “All Online” ทุกอย่างอยู่ในโลกออนไลน์ “DIY” ผู้บริโภคสามารถปรับแต่งเพื่อใช้งานได้ด้วยตนเอง และสุดท้ายคือ “Social” เพื่อให้มีการเชื่อมต่อเข้าหากัน
Company Related Link :
หัวเว่ย
