ชไนเดอร์เผยรายได้รวมทั่วโลกปีที่ผ่านมาโตถึง 1 ล้านล้านบาท และ 1 ใน 4 ของรายได้มาจากเอเชียแปซิฟิก เผยไทยเป็นตลาดที่น่าสนใจโดยเฉพาะการเติบโตของตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว พร้อมนำโซลูชันการจัดการพลังงานรุก 4 กลุ่มตลาดของไทย ด้วย 4 กลยุทธ์ใหม่ที่จะเน้นการเข้าถึงช่องทางการจำหน่ายให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และใช้แอปพลิเคชันและสื่อดิจิตอลในการอำนวยความสะดวกให้กับพันธมิตรและลูกค้า
นายมาร์ค เพลิทิเยร์ ประธาน ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศไทย กล่าวว่า รายได้รวมทั่วโลกของชไนเดอร์ในปี 2014 อยู่ที่ประมาณ 1 ล้านล้านบาท โดย 1 ใน 4 ของรายได้หรือประมาณ 28% มาจากประเทศในกลุ่มเอเชียแปซิฟิกที่กำลังมีแนวโน้มจะเริ่มมีการจัดการด้านพลังงานเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงในประเทศไทยที่ชไนเดอร์มองว่าเป็นตลาดสำคัญที่จะเข้ามานำเสนอโซลูชันการจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพ ช่วยลดต้นทุน สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน
โดยเฉพาะในตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ของไทยที่กำลังเริ่มมีการเติบโตอย่างมาก ซึ่งชไนเดอร์มีโซลูชันที่ช่วยจัดการด้านพลังงานที่สามารถลดต้นทุนได้ถึง 50% นอกจากนี้ ชไนเดอร์ยังจะให้ความสำคัญกับกลุ่มตลาดในส่วนของโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ต้องปรับเปลี่ยนการใช้ไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น กลุ่มอาคารสำนักงาน อาคารที่อยู่อาศัย และกลุ่มธุรกิจพลังงานต่างๆ
“การใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าการใช้พลังงาน และจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านการจัดการพลังงาน ที่จำเป็นต้องหาวิธีที่ช่วยยกระดับไปสู่การใช้พลังงานให้เกิดประสิทธิภาพ และการประหยัดค่าใช้จ่ายให้มากที่สุด โดยคาดกันว่านับจากนี้ไปอีก 35 ปีข้างหน้าการใช้พลังงานจะโตขึ้นเป็น 2 เท่า รวมไปถึงการใช้ไฟฟ้าในปัจจุบันที่ในอีก 15 ปีข้างหน้าก็จะเพิ่มเป็น 2 เท่าเช่นกัน”
นายมาร์ค กล่าวว่า การทำตลาดในเมืองไทยนั้น ชไนเดอร์ได้กำหนดกลยุทธ์ 4 ด้าน ประกอบด้วย 1. การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อเป็นฐานในการขยายตลาดสู่ลูกค้าขนาดกลางในต่างจังหวัดที่กำลังมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น โดยจะอาศัยพันธมิตรในภูมิภาคต่างๆ ในการเข้าถึงลูกค้าในส่วนของตัวแทนจำหน่าย และร้านค้าจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้ช่างไฟสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของชไนเดอร์ได้มากขึ้น
2. การพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อใช้งานผ่านเว็บไซต์ ที่จะช่วยให้ตัวแทนจำหน่ายสามารถทำการสั่งซื้อได้ง่ายขึ้น ทุกที่และทุกเวลา โดยในปีนี้จะมีการพัฒนาเว็บไซต์ใหม่ เพื่อให้บริการลูกค้าให้สามารถเข้าถึงการติดต่อกับชไนเดอร์ได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น
3. การมุ่งเน้นการบริการแบบเฉพาะเจาะจงให้กับลูกค้าโดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม อาทิ น้ำมันและก๊าซ น้ำ อาหารและเครื่องดื่ม รถยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ลูกค้าในกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ ผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ ลูกค้าในกลุ่มไอทีและเทเลคอม กลุ่มเจ้าของอาคาร อาทิ โรงพยาบาล โรงแรม และห้างสรรพสินค้า เป็นต้น และ 4. การนำเสนอโซลูชันที่หลากหลายเพื่อตอบทุกความต้องการของลูกค้าในธุรกิจที่หลากหลาย เพื่อให้ลูกค้าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
“ในปี 2050 แนวโน้มของประชากร 70% จะเข้ามาอยู่ในเมือง ทำให้การใช้พลังงานจะเพิ่มมากขึ้น และจะก่อให้เกิดเมกะเทรนด์สำคัญ 3 ประการคือ การพัฒนาสู่สังคมเมือง การใช้เทคโนโลยีทำให้ข้อมูลอยู่ในรูปแบบดิจิตอล และการเติบโตขึ้นของเศรษฐกิจอุตสาหกรรมในประเทศเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งทั้ง 3 เทรนด์นี้ ยิ่งจะทำให้การจัดการด้านพลังงานจะเป็นสิ่งที่จำเป็นมากยิ่งขึ้น”
Company Related Link :
ชไนเดอร์