ดีแทค เผยสาเหตุการเซ็นเอ็มโอยูร่วมกับ กสท โทรคมนาคม หวังเคลียร์ปัญหาข้อพิพาทเกี่ยวกับสัญญาสัมปทานทุกคดี พร้อมเตรียมความพร้อมการใช้โครงข่ายร่วมกันโดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม หลังจากสัญญาสัมปทานจะสิ้นสุดลงปี 2561 ด้าน กสท โทรคมนาคม ชี้จะเห็นทางออกภายในสิ้นปีนี้ และจะดำเนินการขั้นต่อไปในเดือน ม.ค.ปีหน้า
นายซิคเว่ เบรกเก้ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า ดีแทคได้ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกับบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เพื่อก่อให้เกิดความชัดเจนในการประกอบธุรกิจของทั้ง 2 ฝ่ายในระยะสั้น และระยะยาวหลังจากที่เกิดข้อพิพาทเกี่ยวกับสัญญาสัมปทานกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งดีแทคได้ทำสัญญาสัมปทานกับ กสท โทรคมนาคม มาเป็นเวลากว่า 25 ปีแล้ว และกำลังจะหมดสัญญาสัมปทานในปี 2561
ขณะที่ นายชัยยศ จิรบวรกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีแทค อธิบายเพิ่มเติมว่า การลงนามความร่วมมือครั้งนี้เป็นนิมิตหมายที่ดีที่ดีแทค และ กสท โทรคมนาคม จะนำข้อพิพาทที่มีร่วมกันมานานในศาลปกครอง และอนุญาโตตุลาการ เกือบ 20 คดี มาหาทางออกร่วมกัน ซึ่งที่ผ่านมา ทั้ง 2 บริษัทได้ตั้งคณะทำงาน และประชุมร่วมกันมาแล้ว 3-4 ครั้ง ทั้งนี้ แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีการเจรจาร่วมกันหลายครั้งแต่ไม่ประสบความสำเร็จอาจมาจากความเข้าใจเรื่องการตีความกฎหมายที่ต่างกัน
จนกระทั่งจนถึงยุคคณะผู้บริหารของทั้ง 2 ฝ่ายมีความเห็นตรงกันว่า ถึงเวลาที่จะต้องมาหาทางออกร่วมกัน และเป็นโอกาสอันดีในการเตรียมความพร้อมล่วงหน้าเมื่อสัญญาสัมปทานของดีแทคจะหมดลงในปี 2561 ว่าจะมีทางออกในการใช้โครงข่ายร่วมกันได้ต่อไปหรือไม่ โดยที่ดีแทคไม่ต้องลงทุนโครงข่ายใหม่ จากปัจจุบันที่ดีแทคมีเสาโทรคมนาคมอยู่ประมาณหมื่นกว่าต้น ดังนั้น เรื่องข้อพิพาทที่ผ่านมาสิ่งไหนควรยอมกันได้ และมาตีความทางกฎหมายให้ตรงกันก็สมควรรีบทำ โดยคาดว่าข้อพิพาทเรื่องเสาโทรคมนาคมจะเป็นข้อพิพาทแรกที่สามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้ก่อน
ด้าน พ.อ.สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการบริษัท รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ กสท โทรคมนาคม กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกถึงลักษณะข้อตกลงได้ว่าจะเป็นในรูปแบบใด ไม่ว่าจะเป็นการร่วมลงทุน การแปลงทรัพย์สินเป็นทุน หรือการนำเข้ากองทุนเพื่อระดมทุน แต่คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในสิ้นเดือน ธ.ค.นี้ และจะเริ่มดำเนินการในขั้นต่อไปในช่วงเดือน ม.ค.ปีหน้า
อย่างไรก็ตาม การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการเตรียมการล่วงหน้าก่อนที่สัญญาสัมปทานของดีแทคจะหมดลงในปี 2561 ซึ่งปัจจุบัน กสท โทรคมนาคม มีรายได้จากสัมปทานที่ได้จากดีแทคประมาณ 8,000 ล้านบาท ซึ่งรวมถึงค่าสัมปทาน ค่าโรมมิ่ง และค่าใช้โครงสร้างพื้นฐาน โดยรายได้จากสัญญาสัมปทานเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง จากการที่ลูกค้าตามสัญญาสัมปทานคลื่น 850 MHz ย้ายไปสู่ระบบดีแทคไตรเน็ต คลื่น 2100 MHz และคาดว่าลูกค้าจะย้ายอย่างต่อเนื่องจนในที่สุดอาจจะไม่มีลูกค้าก่อนที่จะหมดสัญญาสัมปทานด้วยซ้ำ ทำให้ กสท โทรคมนาคม ต้องเตรียมความพร้อมในการเจรจากับดีแทคล่วงหน้าด้วยว่าจะสามารถนำทรัพย์สินมาทำอะไรร่วมกันได้บ้าง
Company Related Link :
ดีแทค