เลอโนโวจับมือแอดไวซ์ใส่ซอฟต์แวร์ “โฮม คลาสรูม” สร้างมูลค่าเพิ่มลง 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ หวังกระตุ้นยอดขายพีซีและโน้ตบุ๊กให้ตลาดผู้ใช้งานทั่วไป โดยเฉพาะต่างจังหวัดที่ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก ชี้จุดเด่นนักเรียนจะสามารถเรียนรู้และฝึกฝนทักษะนอกห้องเรียน แบบฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย จากราคาไลเซนส์ปกติ 60,000 บาท ด้านแอดไวซ์เผยตลาดยังคงซบเซาและไม่ได้เป็นไปตามคาดการณ์ ต้องรอไตรมาส 2 ปีหน้าที่คาดว่าจะมีเทคโนโลยีใหม่มากระตุ้นถึงจะดีขึ้น
นายจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย เลอโนโว กล่าวว่า เลอโนโวได้ร่วมมือกับแอดไวซ์ในการเปิดตัวซอฟต์แวร์ “โฮม คลาสรูม” เป็นซอฟต์แวร์ส่งเสริมการศึกษาที่มีความเชื่อมโยงกับหลักสูตรการเรียนการสอนของนักเรียนในปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้นักเรียนสามารถเรียนรู้และฝึกฝนทักษะกับซอฟต์แวร์ดังกล่าวเพื่อเพิ่มความเข้าใจในหลักสูตรการเรียนได้อย่างง่ายดาย ซอฟต์แวร์ดังกล่าวนี้จะได้รับการติดตั้งหลังจากซื้อผลิตภัณฑ์ออลอินวันของเลอโนโวในรุ่น C260 และโน้ตบุ๊กเลอโนโวในรุ่น G4070
ทั้งนี้ แม้ตลาดจะยังคงซบเซาอยู่แต่เลอโนโวจะมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ออกมาอย่างต่อเนื่องในไตรมาสสุดท้ายนี้ ทั้งสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์พีซี และโน้ตบุ๊ก รวมไปถึงในกลุ่มธุรกิจก็จะมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ อาทิ เซิร์ฟเวอร์ เป็นต้น ซึ่งในขณะนี้คอมพิวเตอร์พีซียังไม่มีอะไรหวือหวาเลอโนโวจึงจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้าด้วยการเพิ่มมูลค่าให้มากขึ้น
“เลอโนโวพบว่า ผู้บริโภคในต่างจังหวัดหรือระดับตำบลยังไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้อีกหลายครัวเรือน จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์และง่ายต่อการตัดสินใจซื้อ จึงได้เสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ 2 รุ่น คือ ออลอินวัน C260 และโน้ตบุ๊ก G4070 ที่จะมากับซอฟต์แวร์การศึกษาที่สามารถใช้งานได้จริง และช่วยให้สนุกไปกับการเรียนได้มากกว่าการนั่งในห้องเรียน รวมไปถึงพาร์ตเนอร์ที่จะช่วยกระจายสินค้าไปสู่ผู้บริโภคได้มากขึ้น”
นายพรเทพ วัชรอำนวย รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดไวซ์ โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า การจับมือเป็นพันธมิตรในครั้งนี้เนื่องจากแอดไวซ์มีความสัมพันธ์กับโรงเรียน ต่างๆ ทั่วประเทศ และมีช่องทางการจัดจำหน่ายถึง 358 สาขา ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้มีการจัดการทดลองไปก่อน 200 สาขา ให้ลูกค้าได้ทดลองใช้ก่อนตัดสินใจซื้อ โดยแอดไวซ์คาดว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะสามารถรักษายอดขายและส่วนแบ่งการตลาดไว้ได้เป็นอย่างดี ทั้งทำให้ชื่อของแอดไวซ์เป็นที่รู้จักและเข้าถึงผู้บริโภคในตลาดการศึกษามากขึ้น
สำหรับภาพรวมของตลาดไอทีพบว่า ตลาดรวมยังติดลบอยู่ทำให้ปัจจุบันไอทีรายเล็กๆ ต้องเลิกกิจการไปหลายราย แต่สำหรับแอดไวซ์ยังคงทำธุรกิจด้านไอทีอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 50% แล้ว โดยในส่วนของตลาดเดสก์ท็อปของแอดไวซ์เองมีการเติบโตขึ้น 57.8% แต่โน้ตบุ๊กยังลงลดลงประมาณ 10% ซึ่งการเติบโตนั้นส่วนใหญ่จะอยู่ในตลาดต่างจังหวัดอย่างภาคอีสานที่สามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
“ตลาดมียอดขายกลับมาบ้างแต่ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดการณ์กันไว้ ดูเหมือนมีการซื้อเพิ่มขึ้นเกิดจากการนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมากระตุ้นเท่านั้น แต่ปริมาณความต้องการยังไม่ได้ตามที่คาดไว้ ส่วนครึ่งปีแรกของปีหน้าก็น่าจะยังทรงๆ อยู่เพราะยังไม่มีปัจจัยอะไรที่จะเข้ามากระตุ้น ซึ่งอาจจะต้องรอดูการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ๆ ช่วงต้นปี หากถูกใจผู้บริโภคในไตรมาส 2 ของปีหน้าก็น่าจะดีขึ้น”
นายวรเทพ ว่องธนาการ ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ กล่าวว่า สำหรับซอฟต์แวร์ “โฮม คลาสรูม” ไม่ได้เป็นซอฟต์แวร์ใหม่ มีการทำตลาดมาระยะหนึ่งแล้ว และมีกว่า 20,000 โรงเรียน ทั่วประเทศที่เคยใช้ โดยความร่วมมือในครั้งนี้นอกจากจะช่วยให้เยาวชนไทยมีโอกาสได้ใช้เทคโนโลยีในการสร้างทักษะความรู้นอกห้องเรียนแล้ว ยังถือเป็นการทดลองตลาดเพื่อดูความต้องการ ก่อนที่จะต่อยอดไปสู่การส่งเสริมซอฟต์แวร์ไปสู่ตลาดในวงกว้างต่อไปจากเดิมที่เคยทำตลาดเองแต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าใดนัก
“เราพบว่าเด็กในต่างจังหวัดต้องการเรียนผ่านหน้าจอมากกว่า เนื่องจากมองเห็นได้อย่างชัดเจน และได้ยินทุกอย่างชัดกว่าการนั่งในห้องเรียน และการใช้ซอฟต์แวร์ตัวนี้ถือว่าเป็นเครื่องมือที่ทำให้เด็กจำได้ง่ายกว่าและเรียนรู้ได้สนุกกว่า โดยซอฟต์แวร์ตัวนี้มีหลักสูตรการเรียนการสอนของนักเรียนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งความร่วมมือนี้จะได้รับรหัสการลงทะเบียนเพื่อเข้าใช้ 2 ชั้นเรียนฟรี เป็นเวลา 1 ปี จากปกติมีราคาไลเซนส์ละ 60,000 บาท ตลอดหลักสูตร”
Company Related Link :
เลอโนโว
CyberBiz Social