เจนเนอเรชั่นเอสส่ง “ฟิชเช่อร์ออดิโอ” เจาะตลาดหูฟังเทพ

เจนเนอเรชั่นเอส เสริมทัพตลาดหูฟังด้วยการเปิดตัวหูฟัง 3 แบรนด์ใหม่ในกลุ่มฟิสเช่อร์ออดิโอ น้องใหม่จากรัสเซีย หวังเพิ่มทางเลือกให้กับนักฟังโดยเฉพาะกลุ่มไฮเอนด์ ชี้ปัจจุบันมีหูฟังอยู่ 4 แบรนด์เจาะกลุ่มลูกค้าไม่ซ้ำกัน เผยธุรกิจปีนี้ค่อนข้างซบเซาแต่คาดว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายน่าจะดีขึ้น ส่วนยอดขายคาดว่าจะเท่ากับที่เคยตั้งไว้ตั้งแต่ตอนต้นปี เผยการมาของไอโฟน 6 ส่งผลเคส ขายดีตามไปด้วย

นายสรศักดิ์ วงศ์ชินศรีสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจนเนอเรชั่น เอส จำกัด กล่าวว่า ยอดขายในช่วงตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมายังนิ่ง แต่คาดว่าน่าจะเริ่มกระเตื้องในช่วง 3 เดือนนับจากนี้ โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้นแต่ก็ไม่ได้ปรับเป้าหมายเพิ่มจาก 75 ล้านบาท ที่เคยตั้งไว้ตั้งแต่ต้นปี ล่าสุดเปิดตัวหูฟัง 3 แบรนด์ใหม่ในกลุ่มฟิสเช่อร์ออดิโอ ประกอบด้วยแบรนด์ Kennerton เจาะกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ แบรนด์ Telefunken เจาะลูกค้าระดับกลาง และ Fischer สำหรับเจาะตลาดแมส

ปัจจุบัน เจนเจอเรชั่น เอส มีสัดส่วนยอดขายผลิตภัณฑ์แบ่งเป็น หูฟัง 40% (4 แบรนด์) เคส 30% และที่เหลือเป็นแอสเซสเซอรี่และปากกาสไตลัส 30% ซึ่งการนำเข้าหูฟังในกลุ่มฟิสเซ่อร์ แบรนด์จากรัสเซียนั้นจะเข้ามาเติมเต็มในตลาดหูฟังที่บริษัทฯ มีอยู่และตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้า โดยการนำเข้าผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ นั้น บริษัทจะเน้นนำเข้าแบรนด์ชั้นนำมาขายเท่านั้น

“ผลิตภัณฑ์ หูฟังที่บริษัททำตลาดอยู่ในแต่ละแบรนด์จะมีลักษณะเฉพาะตัวว่าใช้ฟังอะไร แบรนด์นี้เหมาะกับการฟังเพลงแบบนี้ แบรนด์นี้เหมาะสำหรับงานแบบนั้น เป็นต้น สำหรับฟิสเช่อร์จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร มีจุดเด่นเฉพาะตัวที่ต่างจากแบรนด์อื่นๆ ที่เราขายอยู่อย่างชัดเจน ซึ่งในปัจจุบันลูกค้าในเมืองไทยมีทางเลือกมากขึ้น เนื่องจากมีหลายแบรนด์เข้ามาตอบสนองความต้องการ ดังนั้น เราก็ต้องนำสิ่งที่สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างหลากหลายเข้ามาเป็นทางเลือกใหม่ๆ เช่นกัน”

นายสรศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันช่องทางการขายผลิตภัณฑ์ของเจนเนอเรชั่นเอสมีอยู่ประมาณ 300 ราย ครอบคลุมทั้งในส่วนของร้านค้ามือถือและร้านค้าผลิตภัณฑ์ไอที ซึ่งการนำเสนอผลิตภัณฑ์จะดูตามคุณสมบัติของสินค้าว่าเหมาะกับกลุ่มลูกค้าแบบไหนแล้วจึงนำสินค้าเข้าไปนำเสนอ ซึ่งในส่วนของแบรนด์ Kennerton ในบางรุ่นอาจจะต้องอยู่ในร้านเฉพาะด้านเนื่องจากมีราคาสูง

โดยในปีนี้ได้ใช้งบประมาณทางด้านการตลาดประมาณ 10% สำหรับผลิตภัณฑ์ที่คาดว่าจะขายดีในช่วงนี้น่าจะเป็นในส่วนของเคสมือถือ ที่ในปัจจุบันเริ่มมียอดการสั่งซื้อเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการมาของไอโฟน 6 ที่น่าจะทำให้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ขายได้ดี

สำหรับหูฟังแบรนด์ Kennerton นั้นได้นำรุ่น Algiz เข้ามาทำตลาดที่เน้นการให้เสียงที่คมชัด มีไดร์เวอร์ที่สามารถเล่นได้จาก 20Hz-20kHz ได้อย่างง่ายดาย ครอบคลุมทุกคลื่นความถี่ที่มนุษย์สามารถใช้ได้ ราคา 13,900 บาท ส่วนแบรนด์ Telefunken ได้นำรุ่น Audion เข้ามาจำหน่าย โดยมีจุดเด่นตรงที่ไดร์เวอร์ที่มีขนาดใหญ่ถึง 50mm แบบไดนามิกที่มีแม่เหล็กนีโอไดเมียขับจาก 20Hz-23kHz ราคา 15,900 บาทและในส่วนของ Fischer นั้นได้นำรุ่น Consonance v.2 มาวางจำหน่ายในราคา 3,890 บาท