ไมโครซอฟท์ ชี้โซลูชันคลาวด์ในไทยไฮบริดมาแรง

ไมโครซอฟท์ ชี้คลาวด์ในเอเชียแปซิฟิกมีอัตราการเติบโตสูงมาก ส่งผลบริการคลาวด์ของไมโครซอฟท์โตกว่าตลาด 4.2 เท่า ส่วนเมืองไทยเริ่มตื่นตัวเช่นกัน โดยไฮบริดคลาวด์ได้รับความนิยมมากที่สุด เผยโซลูชัน Office 365 จะช่วยให้ลูกค้าในเมืองไทยได้สัมผัสกับคลาวด์ง่ายขึ้น พร้อมช่วยให้ธุรกิจทำงานได้ทุกที่ทุกเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพการประสานงานได้ดีขึ้น เผยดุสิตธานีนำคลาวด์ไปใช้ช่วยลดค่าใช้จ่ายลง 30% และบริหารจัดการสาขาในเครือทั่วโลกได้ในที่เดียว

นายอัลวาโร เซลิส รองประธานบริหารฝ่ายขายการตลาด บริการ สารสนเทศและปฏิบัติการ ไมโครซอฟท์ เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า คลาวด์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีอัตราการเติบโตสูงมาก ส่งผลให้บริการด้านคลาวด์ของไมโครซอฟท์ในภูมิภาคนี้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดถึง 4.2 เท่าตัว ซึ่งที่ผ่านมาไมโครซอฟท์ได้ให้บริการผ่านพันธมิตรทางธุรกิจกว่า 14,000 รายทั่วเอเชียแปซิฟิก ส่วนตลาดในประเทศไทยมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีของคลาวด์เช่นกัน ซึ่งไมโครซอฟท์มีพันธมิตรพร้อมให้บริการ 1,800 ราย

ไอดีซี คาดว่า ตลาดโซลูชันพลับบลิคลาวด์ในเอเชียแปซิฟิกจะสูงถึง 8.6 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2558 และแอปพลิเคชันบนโมบายจะเพิ่มสูงขึ้นกว่าเท่าตัวเช่นกัน ส่วนการลงทุนด้านอุปกรณ์ที่จะรองรับจะพุ่งมาแตะที่ระดับ 6.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2560

“ธุรกิจท่องเที่ยวและบริการถือเป็นจุดเด่นของประเทศไทย มีมูลค่าคิดเป็น 20.2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพี ในปีที่ผ่านมา ซึ่งการก้าวขึ้นสู่คลาวด์นั้นในปัจจุบันไมโครซอฟท์มีผลิตภัณฑ์อย่าง​ Office 365 ซึ่งเป็นชุดโปรแกรมการทำงานระบบคลาวด์ที่จะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถใช้บริการคลาวด์ได้ง่ายขึ้น และช่วยในการประสานงานกันได้ทุกที่ทุกเวลาจากทุกดีไวซ์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้สูงสุด”

ด้านนายอนุกูล ปิยะธนานุกูล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็มเวิร์จ จำกัด หนึ่งในพาร์ตเนอร์ของไมโครซอฟท์ กล่าวว่า เอ็มเวิร์จเป็นพาร์ตเนอร์ของไมโครซอฟท์มากกว่า 10 ปีแล้ว โดยมีลูกค้าประมาณ 50 บริษัทที่ใช้โซลูชันของไมโครซอฟท์ จากลูกค้าทั้งหมดประมาณ 300-400 รายที่บริษัทฯ ให้บริการอยู่ ซึ่งปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์มีการนำเสนอคลาวด์โซลูชันแบบครบวงจรทั้งในแบบพลับลิคคลาวด์ ไพรเวตคลาวด์ และไฮบริดคลาวด์ ซึ่งสำหรับประเทศไทยนั้นมีแนวโน้มที่จะมีการใช้งานไฮบริดคลาวด์มากที่สุด

ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าของเอ็มเวิร์จที่ใช้โซลูชันของไมโครซอฟท์อย่างเช่น ดุสิต อินเตอร์เนชันแนล หรือโรงแรมในเครือดุสิตธานีที่ได้นำโปรแกรมระบบคลาวด์อย่าง Office 365 รวมถึงแอปพลิเคชันเพื่อการสื่อสารและประสานงานงานอย่าง Lync และ SharePoint ให้พนักงานสามารถทำงานติดต่อประสานงานกันได้ทุกที่ทุกเวลา รวมไปถึงการใช้ระบบฐานข้อมูล SQL Server และโซลูชัน ERP Dynamics NAV ซึ่งจากการวางระบบและใช้งานที่ผ่านมา พบว่าช่วยให้ธุรกิจมีประสิทธิภาพเป็นอย่างดี

นางสาวศรีสมบัติ แวงชิน ผู้ช่วยรองประธานฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า การบริหารงานโรงแรมดุสิตธานีที่ผ่านมามีการวางระบบไอทีมาตั้งแต่ปี 2001 มีการลงทุนไปแล้วหลายร้อยล้านบาท เพื่อใช้ไอทีในการจัดการด้านต่างๆ ของโรงแรมทั้งระบบ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 19 สาขา และเตรียมที่จะขยายเพิ่มขึ้นอีกหลายสาขาในเร็วๆ นี้

โดยขณะนี้โรงแรมดุสิตมีดาต้าเซ็นเตอร์และศูนย์สำรองข้อมูลเป็นของตนเอง รวมไปถึงล่าสุดได้ทำการนำระบบ Office 365 ของไมโครซอฟท์ซึ่งเป็นคลาวด์มาใช้ เพื่อใช้บริหารจัดการงานต่างๆ ในเครือโรงแรมที่มีอยู่ทั่วโลกให้รวมศูนย์อยู่ในที่เดียว แต่สามารถจัดการสาขาได้ทั่วโลก

“การนำคลาวด์มาใช้ช่วยให้ดุสิตธานีประหยัดถึง 30% จากค่าใช้จ่ายเดิมที่มีอยู่ และไม่จำเป็นต้องไปตั้งดาต้าเซ็นเตอร์ที่ต่างประเทศอีก เพราะสามารถใช้งานคลาวด์ในการบริหารงานด้านต่างๆ แทน ซึ่งโซลูชันที่ใช้อยู่ถือเป็นโซลูชันไฮบริดที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากดุสิตยังคงมีระบบงานเดิมอยู่ โดยปัจจุบันมีสัดส่วนการใช้คลาวด์เพื่อการทำงาน 60% ส่วนที่เหลือเป็นระบบงานหลักและระบบสำคัญ 40%”

Company Relate Link :
Microsoft