“ซีซีเอ็น-เทค” เคาะราคาไอพีโอที่ 1.25 บาท/หุ้น เปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 2-4 กันยายนนี้ มั่นใจพื้นฐานแกร่ง นักลงทุนให้การตอบรับท่วมท้น ได้ฤกษ์เข้าลงสนามเทรด ในวันที่ 11 กันยายน 57 นี้ แต่งตั้ง บล.คันทรี่ กรุ๊ป เป็นอันเดอร์ไรต์แต่เพียงผู้เดียว ด้าน “วิรัตน์ อนุรักษ์พุฒิ” ระบุนำเงินที่ได้ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 20% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 219 ล้านบาท พร้อมก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำด้านระบบไอทีแบบครบวงจร
นายชูพงศ์ ธนเศรษฐกร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CGS ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท ซีซีเอ็น-เทค จำกัด (มหาชน) หรือ CCN เปิดเผยว่า ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) 60 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท ในราคาหุ้นละ 1.25 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่เหมาะสมต่อปัจจัยพื้นฐาน โดยจะเปิดจองซื้อหุ้นไอพีโอระหว่างวันที่ 2-4 กันยานนี้ และคาดว่าสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันที่ 11 กันยายน 57 ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์คือ “CCN” โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพียงรายเดียว
“การกำหนดราคาขายที่ 1.25 บาท/หุ้น ถือเป็นราคาที่เหมาะสมต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ทั้งนี้ มั่นใจว่าหุ้น CCN จะได้รับกระแสการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เพราะเป็นบริษัทที่มีความน่าสนใจ ปัจจัยพื้นฐานแกร่ง มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสการเติบโตในอนาคตได้อีกมาก เพราะในทุกๆ ธุรกิจต่างจำเป็นต้องใช้ระบบไอทีเข้ามาเกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ” นายชูพงศ์ กล่าว
นายวิรัตน์ อนุรักษ์พุฒิ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ CCN กล่าวว่า เม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีสภาพคล่องที่ดีขึ้น และสร้างโอกาสการเติบโตของธุรกิจ ทั้งนี้ บริษัทยังคงมุ่งเน้นการขยายตลาดสู่ลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ โดยวางเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปีนี้อยู่ที่ 20% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 219 ล้านบาท
“ธุรกิจของ CCN ยังมีแนวโน้มการเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากปัจจุบันธุรกิจต่างๆ มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และแข่งขันสูงขึ้น ทำให้มีความต้องการนำเอาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) เข้ามาช่วยเสริมพัฒนาศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ และมีเป้าหมายในการพัฒนาธุรกิจเพื่อก้าวสู่ความเป็นชั้นนำด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) แบบครบวงจร พัฒนานวัตกรรม สินค้า และบริการให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้ากลุ่มต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสม