xs
xsm
sm
md
lg

"สมาร์ทวอตช์" รุ่นไหนเลิศที่สุดในงาน IFA 2014?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นาฬิกาไฮเทคหรือสมาร์ทวอตช์นั้นเป็นหนึ่งในสินค้าที่ได้ชื่อว่าฮอตฮิตที่สุดในงานแสดงเทคโนโลยีสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภค IFA 2014 ที่กำลังจัดขึ้นที่กรุงเบอลินระหว่างวันที่ 5-10 กันยายนนี้ กระแสนี้เกิดขึ้นเพราะผู้ผลิตสินค้าไอทีมากมายพร้อมใจนำนาฬิกาออนไลน์มาโชว์ตัวในงาน ซึ่งแต่ละรุ่นล้วนมีจุดต่างและความเลิศที่คอไอทีควรรู้และศึกษาไว้
***Gear S จากซัมซุง


"เกียร์ เอส (Gear S)" เป็นนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นใหม่ของซัมซุงที่ใช้จอภาพซูเปอร์อะโมเลดกว้าง 2 นิ้ว ความละเอียด 360x480 ใช้ชิปประมวลผล 1GHz dual core สั่งการได้ด้วยเสียง ใส่ซิม โทร.ออก รับสายโทร.เข้า ตรวจสอบข้อความ มีฟีเจอร์ต่างๆ เพื่อช่วยการออกกำลังกาย แต่ Gear S ยังต้องใช้สมาร์ทโฟนของซัมซุงที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.3 ขึ้นไป เพื่อดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน Gear S มีปุ่มโฮมอยู่ด้านหน้า และมีฟังชันตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจอยู่ด้านหลังตัวเครื่อง

Gear S กันน้ำระดับ IP67 คือ เอาน้ำราดได้ แต่ใส่ว่ายน้ำไม่ได้ แต่ที่อาจผิดหวังคือ ไม่มีกล้อง



นอกจาก Gear S ซัมซุงยังร่วมมือกับแบรนด์คริสตัลหรู Swarovski เพื่อสร้างสีสันให้ Gear S มีลูกเล่นน่าสนใจยิ่งขึ้น รายละเอียดเพิ่มเติมติดตามได้จากวิดีโอด้านล่าง

***LG G Watch R แอลจีลุยวงกลม

แอลจีเปิดเผยคุณสมบัตินาฬิกาไฮเทครุ่นล่าสุด "จี วอตช์ อาร์ (G Watch R)" อย่างเป็นทางการเรียบร้อยตั้งแต่ก่อนงาน IFA จะเริ่มขึ้น มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android Wear ใช้หน้าจอขนาด 1.3 นิ้วเทคโนโลยี Plastic OLED (P-OLED) ที่มองได้ชัดรอบทิศทาง 360 องศา จุดนี้แอลจียืนยันว่าจะทำตลาด G Watch R คู่ไปกับ G Watch เท่ากับแอลจียังไม่มีแผนหยุดทำตลาดนาฬิกาไฮเทครุ่นเดิมไป

G Watch R มาพร้อมแบตเตอรี่ 410 mAh ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นราว 10mAh จาก G Watch รุ่นก่อนหน้า มาพร้อมชิปเซ็ต 1.2GHz Qualcomm Snapdragon 400 ที่ทำงานคู่กับ RAM ขนาด 512 MB พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 4 GB สามารถป้องกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP67 ซึ่งเทียบเท่ากับการกันน้ำลึก 1 เมตร เป็นเวลาไม่เกิน 30 นาที

เบื้องต้น แอลจียังไม่เปิดเผยความสามารถจากเซ็นเซอร์ใน G Watch R อย่างละเอียด โดยให้ข้อมูลเพียงว่า G Watch R จะพร้อมวางจำหน่ายในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้

ไม่เพียง G Watch R แอลจีนำสายรัดข้อมือ KizON อุปกรณ์ติดตามตัวใหม่ล่าสุดจากแอลจีมาโชว์ในงานนี้ด้วย ดีไซน์พิเศษสำหรับเด็กวัยอนุบาลและประถมศึกษา เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดตามตำแหน่งของเด็กจากสมาร์ทโฟนแบบเรียลไทม์ด้วยจีพีเอสและ Wi-Fi

***Liquid Leap สมาร์ทแบนด์จากเอเซอร์

แม้จะเป็นเพียงสายรัดข้อมือไฮเทค แต่ "เอเซอร์ ลิควิด ลีป (Acer Liquid Leap)" ก็ได้รับความสนใจมากในงาน IFA 2014 ความสามารถของ Liquid Leap คือการติดตามสถิติกิจกรรมของร่างกายผู้ใช้ ทั้งการวัดจำนวนก้าวเดิน ระยะทางที่วิ่ง อัตราแคลเลอรี่ที่ร่างกายเผาผลาญ รวมถึงประมวลเวลานอนหลับ

Liquid Leap กันน้ำได้ระดับ IPX7 เทียบเท่ากับการแช่น้ำ 1 เมตรในเวลา 30 นาที เท่ากับผู้ใช้ Liquid Leap สามารถใส่ขณะอาบน้ำได้

Liquid Leap มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 1 นิ้ว มีให้เลือกหลายสีสัน จุดนี้เอเซอร์การันตีว่าสามารถใช้งานต่อเนื่องนาน 7 วัน คาดว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่เอเซอร์จะทำตลาดพร้อมสมาร์ทโฟนใหม่ "ลิคิวด เจด (Liquid Jade)"

***Sony SmartWatch 3 สมาร์ทวอตช์กันน้ำ

โซนี่เปิดตัวสมาร์ทวอตช์รุ่นใหม่ระบบปฏิบัติการ Android Wear ในงานนี้ด้วยชื่อว่า “สมาร์ทวอตช์ 3 (SmartWatch 3)” หน้าจอของนาฬิการุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี Transflective TFT LCD ขนาด 1.6 นิ้ว ความละเอียด 320x320 พิกเซล หน่วยประมวลผลเป็นชิปควอดคอร์ 1.2 GHz ARM A7 หน่วยความจำ eMMC ขนาด 4 GB ขณะที่ RAM ขนาด 512 MB

ความสามารถพื้นฐานของ SmartWatch 3 ถอดแบบจากสมาร์ทวอตช์ Android Wear ตัวอื่นที่วางจำหน่ายในท้องตลาด ทั้งการใส่เซ็นเซอร์วัดระดับแสง, ระบบตรวจจับองศาเครื่อง, เซ็นเซอร์วัดความสั่นสะเทือน, เข็มทิศ รวมถึงระบบระบุพิกัดสถานที่ GPS และรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 4.0 และ NFC แต่โซนี่เลือกเพิ่มความสามารถให้ SmartWatch 3 สามารถถอดตัวเรือนออกมาเปลี่ยนสายได้ ทำให้ผู้ใช้มีสีสันด้านการใช้งานเพิ่มขึ้น


SmartWatch 3 ตั้งราคาขายเบื้องต้นไว้ที่ 229.99 ยูโร (ราว 9,700 บาท) คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายพร้อมกับ Xperia Z3 ที่ยังไม่เปิดเผยราคา

นอกจากนี้ โซนี่ยังเปิดตัว SmartBand Talk อุปกรณ์ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถติดตามสถิติของร่างกายจากการทำกิจกรรมในแต่ละวัน โดยโซนี่นำหน้าจอแสดงผลประหยัดพลังงานอย่าง “อีอิงก์ (E-Ink)” ขนาด 1.4 นิ้ว ความละเอียด 288x128 พิกเซล มาใช้บนหน่วยประมวลผล ARM Coretex-M4 32 บิต ไม่ระบุความเร็ว หน่วยความจำ 2 MB มาพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับการสั่นสะเทือนและความเคลื่อนไหวของผู้ใช้ รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 4.0 ต้องใช้งานคู่กับ Android 4.4 ขึ้นไป


***Moto 360 กลมเกลี้ยงน่าใช้

หลังจากมีภาพเรียกน้ำย่อยมาก่อนหน้านี้ ในที่สุดนาฬิกาอัจฉริยะของโมโตโรลาหน้าปัดกลมเกลี้ยงอย่าง Moto 360 ก็เริ่มวางจำหน่ายในร้านค้าปลีกแดนลุงแซมหลายแห่งแล้วตั้งแต่วันศุกร์ที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา ด้วยราคาตามคาด 250 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 8,000 บาท

Moto 360 มีน้ำหนัก 49 กรัม เส้นผ่านศูนย์กลางหน้าปัด 46 มม. (1.81 นิ้ว) นอกจากความสามารถในการติดตามข้อมูลสถิติร่างกายอย่างการวัดชีพจรหรือการวัดจำนวนก้าวเดิน แต่ Moto 360 ยังมีไมโครโฟน 2 ตัว รวมถึงระบบปฏิบัติการ Android Wear ที่ทำงานได้รวดเร็ว Moto 360 มาพร้อม RAM ขนาด 512 MB และพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 4 GB ขุมพลังชิป TI OMAP 3 ซึ่งต่างจากคู่แข่งที่ใช้ Snapdragon 400 เป็นหลัก



ผู้ซื้อ Moto 360 จะได้สิทธิ์ซื้อสายหนัง 3 สีสำหรับเปลี่ยนในราคา 79.99 เหรียญสหรัฐ (ราว 2,500 บาท) แต่หากต้องการซื้อสายหนังสีเดียวจะสามารถซื้อในราคา 39.99 เหรียญสหรัฐต่อเส้น (ราว 1,200 บาท) คาดว่าปีนี้ Moto 360 พร้อมสายโลหะจะสามารถวางจำหน่ายเพิ่มเติมได้ในราคา 299.99 เหรียญสหรัฐ (ราว 9,600 บาท)

...ชาวไอที อ่านบทความนี้จบแล้วรีบเก็บสตางค์ด่วน...
กำลังโหลดความคิดเห็น