*** ไมโครซอฟท์พร้อมขาย Nokia X2
ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย วางจำหน่าย Nokia X2 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่มาพร้อมดีไซน์ใหม่ ตัวเครื่องแบบชิ้นเดียว ฝาหลังเปลี่ยนได้ มีสีสันสุดจี๊ดพร้อมกรอบชั้นนอกแบบใส ช่วยเพิ่มความคงทน และความสวยงามที่โดดเด่นขึ้นกว่าเดิม โดยมีสีส้ม เขียว และดำ พร้อมการใช้งานที่ง่ายขึ้น เพิ่มสุดยอดบริการจากไมโครซอฟท์ รวมถึงบริการเก็บทุกรูปโปรด และข้อมูลต่างๆ บน OneDrive ฟรี ทั้งยังสนุกกับแอปแอนดรอยด์อีกหลายแสนแอปได้ในราคาเพียง 4,690 บาท Nokia X2 มาพร้อมหน่วยประมวลผล dual core Qualcomm Snapdragon 200 CPU 1.2Ghz และRAM ขนาด 1GB ดีไซน์สุดล้ำ หน้าจอขนาด 4.3 นิ้ว เห็นทุกอย่างแจ่มชัดแม้อยู่กลางแจ้งด้วยเทคโนโลยี ClearBlack กล้องหลัก 5 MP พร้อมโฟกัสอัตโนมัติ แฟลช และโปรแกรมการถ่ายภาพ Selfie ทำให้สนุกกับการถ่ายรูปตัวเองได้ทั้งกล้องหลัง และกล้องหน้า
สมาร์ทโฟนตระกูล Nokia X มาพร้อมบริการดีๆ จากไมโครซอฟท์อย่าง Skype OneDrive และ Outlook.com โดยจะติดตั้งมาพร้อมในเครื่อง ส่วนบริการอื่นๆ สามารถดาวน์โหลดได้ง่ายๆ จาก Nokia Store เช่น แอป Bing Search OneNote และ Yammer โดยสามาถจดข้อความต่างๆ บน OneNote แล้วเก็บไว้บน OneDrive ซึ่งเป็นระบบเก็บข้อมูลบนคลาวด์ฟรีจากไมโครซอฟท์ ขณะที่ Yammer เป็นบริการสังคมออนไลน์สำหรับองค์กร ให้เชื่อมต่อกับเพื่อนร่วมงานได้ง่ายเหมือนการโพสต์ไปยังสังคมออนไลน์ ทั้งยังมี Option ให้ Backup รูปภาพไปยัง OneDrive เพื่อใช้ประโยชน์จากพื้นที่เก็บข้อมูลฟรีมากถึง 15 GB ได้เต็มที่ โดยสามารถเก็บวิดีโอ และไฟล์เอกสารต่างๆ ได้อีกด้วย
*** WD ป๋ามาก! บริการกู้ข้อมูลให้ลูกค้าฟรีหนึ่งปีเต็ม
WD บริษัทในเครือของเวสเทิร์น ดิจิตอล ผู้นำระดับโลกด้านระบบการจัดเก็บข้อมูล ประกาศให้บริการกู้ข้อมูลลูกค้าฟรีเป็นระยะเวลาหนึ่งปีเต็ม พร้อมชูจุดเด่นการบริการเคลมที่รวดเร็วทันใจภายใน 30 นาที ที่ศูนย์ให้บริการในกรุงเทพฯ ตั้งอยู่บริเวณชั้น 2 พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า ห้อง 2108 กรุงเทพฯ นอกจากนี้ WD ยังกระจายสาขาให้บริการ และจุดบริการรับสินค้าในต่างจังหวัด ได้แก่ @จุดบริการรับสินค้าสาขาเชียงใหม่ TC Mobile Shop ตึกเซ็นทรัล พลาซาแอร์พอร์ต ห้องเลขที่ 314 จังหวัดเชียงใหม่ @จุดบริการรับสินค้าขอนแก่น ร้าน KHONKAEN J-NET COMPUTER SHOP ชั้น 3 ตึกคอมโฆษะ จังหวัดขอนแก่น @จุดบริการรับสินค้าภูเก็ต ร้าน Digital Channel (สาขา2) ห้าง บิ๊กซี ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ จังหวัดภูเก็ต นอกจากนี้ WD ยังเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้าด้วยเบอร์ติดต่อสายด่วน : 0018004410570 วันจันทร์ - วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น.
*** ดีแทค เปิดตัวหนังสือดิจิตอล “แจ๊ส ชวนชื่น” ผ่านแอปพลิเคชัน “dtac Readever”
ปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด ดีแทค เปิดเผยว่า ดีแทคเปิดตัวแอปพลิเคชัน dtac Readever เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ภายใต้คอนเซ็ปต์ “อ่าน-เขียน-แชร์” พร้อมลูกเล่นแบบอินเทอร์แอ็กทีฟมากมายที่พร้อมเปิดประสบการณ์การอ่านรูปแบบใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้า โดยวันนี้มีลูกค้ากว่า 1 แสนราย แบ่งเป็น 70% ที่เป็นสมาร์ทโฟน และ 30% ที่เป็นแท็บเล็ต ดีแทคจึงได้เพิ่มคอนเทนต์บนมือถือเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์หลากหลาย ทั้งนี้ เพื่อผลักดันให้มีการเข้าถึงการอ่านที่สนุกสนานมากขึ้น ครั้งนี้นำเสนอหนังสือชื่อ “It’s jazz style” เขียนโดย แจ๊ส ชวนชื่น ที่มีให้โหลดเฉพาะที่แอป dtac Readever เท่านั้น โดยลูกเล่นของหนังสือเล่มนี้จะเน้นการเล่าเรื่องราวชีวิตแบบสนุกๆ และเรื่องแฟชั่นการแต่งตัวของ แจ๊ส ชวนชื่น มาพร้อมกับการเล่นเกมแต่งตัว จัดเสื้อผ้า และเล่นแอ็กชันบังคับตัวแจ๊สได้อีกด้วย โดยหนังสือดิจิตอลเล่มนี้จะสามารถช่วยขยายฐานกลุ่มลูกค้าทั่วไปสู่ฐานกลุ่มวัยรุ่นได้มากขึ้น นอกจากหนังสือแจ๊สแล้ว ดีแทคยังจะมีหนังสือจากสำนักพิมพ์ชื่อดังอีกหลายเล่มให้ลูกค้าได้เลือกอ่านอีกหลากหลายประเภท เช่น ดูดวง หรือหนังสือธรรมะ ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองกลุ่มผู้ใหญ่ และผู้ชื่นชอบการดูดวง
พิเศษ! ลูกค้าดีแทคและแฮปปี้สามารถดาวน์โหลดหนังสือ “It’s Jazz Style” แบบสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่มีเฉพาะใน dtac ReadEver เท่านั้น ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้ทั้งสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ได้ฟรีที่ app store หรือ Google Play ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.dtac.co.th
***ทีโอที ครบรอบ 60 ปี จัดกิจกรรมขอบคุณลูกค้าพร้อมนำเยี่ยมชมโครงการเพื่อสังคม TYC ที่คีรีวง
เมื่อเร็วๆ นี้ ครบรอบ 60 ทีโอที ขอบคุณลูกค้าจัดกิจกรรม TOT CRM TRIP ครั้งที่ 1 นำลูกค้าเยี่ยมชมกิจกรรม CSR ตามโครงการ TOT Young club ที่ชุมชนคีรีวง จ.นครศรีธรรมราช ระหว่างวันที่ 11-13 ก.ค.57 โดยมีสมจิตต์ ธีระชุติกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สำนักการตลาด นำทีมพนักงานต้อนรับลูกค้าเพื่อสานต่อสร้างความยั่งยืนให้ชุมชน นอกจากนี้ ได้มอบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์การเรียนการสอนตู้หนังสือ และหนังสือ ให้กับโรงเรียนไทยรัฐวิทยา74 เพื่อใช้สนับสนุนการเรียนการสอน และใช้ประชาสัมพันธ์ และเป็นช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของชุมชนผ่านตลาดออนไลน์ในโครงการ TOT Young club
***Acer Iconia One 7 (B1-730HD) อิสระใหม่ของแอนดรอยด์แท็บเล็ต สิบสี จัดจ้าน ได้ใจ
Acer Iconia One 7 (B1-730HD) แอนดรอยด์แท็บเล็ตที่รองรับความบันเทิงต่างๆ ได้อย่างลงตัว บางเฉียบน้ำหนักเบา เปี่ยมประสิทธิภาพในการใช้งาน จอแสดงผล HD ขนาด 7 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 800 พิกเซล ให้รัศมีมุมมองที่กว้างถึง 178 องศา ด้วยเทคโนโลยี IPS รองรับการสัมผัสพร้อมกัน 5 จุด ดีไซน์กระชับ จับถนัดมือ ใช้งานง่ายในมือเดียว ขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ Android 4.2 ท่องเว็บ เล่นเกมได้ลื่นไหลด้วยซีพียู Intel AtomTM Z2560 1.6 GHz Dual Core ที่มีเทคโนโลยีที่ช่วยให้กินไฟน้อยลง แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 7 ชม. พื้นที่ความจุ 8 GB รองรับ Micro SD สูงสุดถึง 32 GB หน่วยความจำ RAM 1 GB เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi เก็บบันทึกภาพความประทับใจด้วยกล้องหลัง 2 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 3 แสนพิกเซล ฉีกกฎใหม่ด้วยสีสันให้เลือกใช้งานถึง 10 สี Acer Iconia One 7 (B1-730HD) จัดจำหน่ายในราคา 3,990 บาท (รวม VAT 7%) สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เอเซอร์ คอลล์ เซ็นเตอร์ โทรศัพท์ 0-2685-4311 หรือคลิกที่ www.acer.co.th
*** ไดเมนชั่น ดาต้า เผยธุรกิจไร้สายโตขึ้น 30%
บริษัท ไดเมนชั่น ดาต้า ผู้ให้บริการ และจัดหาไอซีทีโซลูชั่นระดับโลกที่มีมูลค่ากว่า 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เปิดเผยว่า องค์กรต่างๆ กำลังลงทุนด้านการเชื่อมต่อไร้สายผ่านระบบเครือข่ายที่มีอยู่เดิมของตนอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังได้เริ่มลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นเพื่อรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายดังกล่าวด้วย Network Barometer Report 2014 ของบริษัท ไดเมนชั่น ดาต้า ระบุว่า รายงานดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์เป็นครั้งแรกในปี 2009 โดยเก็บรวบรวมข้อมูลด้านเทคโนโลยีจากการประเมินด้านเทคโนโลยี จำนวน 288 รายการ ซึ่งครอบคลุมอุปกรณ์เทคโนโลยีกว่า 74,000 รายการ จากองค์กรทุกขนาด และอุตสาหกรรมทุกภาคส่วนจากทั้งหมด 32 ประเทศ นอกจากนี้ ยังมีการเก็บรวบรวมข้อมูลจากบันทึกรายละอียดให้บริการแก่เครือข่ายของลูกค้ากว่า 91,000 ครั้งที่บริษัท ไดเมนชั่น ดาต้า ให้การดูแลอยู่ด้วย
เบรนท์ แองกัส ผู้จัดการทั่วไปด้านระบบเครือข่ายของบริษัท ไดเมนชั่น ดาต้า เอเชีย แปซิฟิก กล่าวว่า Network Barometer Report 2014 ของปีที่ผ่านมา ได้ชี้ให้เห็นว่า Enterprise Mobility เป็นสิ่งหนึ่งที่นำไปสู่การปฏิวัติด้านสถาปัตยกรรมเครือข่ายแบบสวิตชิ่ง จากโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้การการเชื่อมต่อผ่านสายได้กลายมาเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้การเชื่อมต่อแบบไร้สายเป็นหลัก สิ่งที่เห็นในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา คือ การเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจไร้สายโดยประมาณ 30% และในขณะนี้พบว่า มีการอัปเกรดโครงสร้างพื้นฐานระบบสวิตชิ่งเพื่อรองรับการเชื่อมต่อแบบระบบไร้สายด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น สัดส่วนของ Gigabit Access Switch Port เมื่อปีที่แล้วได้เพิ่มขึ้นจาก 33% เป็น 45% ของจำนวนพอร์ตทั้งหมด ในขณะที่สัดส่วนของสวิตช์ที่รองรับการอัปลิงก์แบบ 10 กิกะบิตก็เพิ่มขึ้นจาก 11% เป็น 23% ด้วยเช่นกัน สำหรับสัดส่วนของพอร์ตที่รองรับ Power over Ethernet (PoE) ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากจำนวนเกือบถึง 50% ในปีที่แล้ว เป็นมากกว่า 50% ในปีนี้
“ข้อมูลที่น่าสนใจอีกประการก็คือ มีการอัปเกรดสวิตช์เชื่อมต่อ (Access Switch) เป็นจำนวนมากทั้งๆ ที่อุปกรณ์ที่ติดตั้งใช้งานอยู่ภายในองค์กรยังมีอายุการใช้งานเหลืออยู่อีกหลายปี อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหลายองค์กรมีแนวโน้มที่จะยืดอายุการใช้งานเครือข่ายที่มีอยู่ (ซึ่งเริ่มเก่าลงเรื่อยๆ) ออกไปให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย แต่องค์กรเหล่านั้นก็จะอัปเกรดเครือข่ายของตนเมื่อมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ฟีเจอร์ใหม่อย่างเร่งด่วน ยกตัวอย่างเช่น หากองค์กรใดจำเป็นต้องขยายแบนด์วิดท์เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายให้ครอบคลุมทั่วทั้งองค์กรเพื่อรองรับอุปกรณ์เคลื่อนที่รุ่นใหม่ๆ ที่พนักงานนำมาใช้งานในที่ทำงาน องค์กรแห่งนั้นก็จะต้องอัปเกรดอุปกรณ์เหล่านั้น ก่อนกำหนด”
*** ฟูจิตสึ เข้าซื้อกิจการในส่วนพานาโซนิค อินฟอร์เมชัน เทคโนโลยี โซลูชันส์
บริษัท ฟูจิตสึ และพานาโซนิค คอร์ปอเรชัน เปิดเผยร่วมกันว่า ฟูจิตสึ ได้เข้าซื้อกิจการทั้งหมดของบริษัท พานาโซนิค อินฟอร์เมชัน เทคโนโลยี โซลูชันส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของพานาโซนิค ที่มีความเชี่ยวชาญในระบบสารสนเทศ เป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา โดยในขณะนี้ พานาโซนิค อินฟอร์เมชัน เทคโนโลยี โซลูชันส์ ได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท ฟูจิตสึ ไอที แมเนจเม้นท์ พาร์ทเนอร์ จำกัด และเริ่มต้นธุรกิจผู้ให้บริการเอาต์ซอร์สด้านการปฏิบัติการ การบำรุงรักษา และการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารให้แก่พานาโซนิค และกลุ่มบริษัทในเครือพานาโซนิค (พานาโซนิค กรุ๊ป)
ด้วยศักยภาพความเชี่ยวชาญด้านโครงสร้าง การดำเนินงาน และบำรุงรักษาระบบสารสนเทศที่มี ฟูจิตสึพร้อมให้บริการสนับสนุนนวัตกรรมด้านไอซีทีสำหรับลูกค้า และบริการที่เกี่ยวข้องกับไอซีที หลังจากเมื่อควบรวมกิจการของพานาโซนิค อินฟอร์เมชัน เทคโนโลยี โซลูชันส์มาด้วยแล้ว ฟูจิตสึ พร้อมสนับสนุนกลยุทธ์ในการใช้ระบบไอซีทีของกลุ่มบริษัทพานาโซนิคด้วยการบริการที่มีคุณภาพ และมีประสิทธิภาพ ซึ่งแต่เดิมกลุ่มบริษัทพานาโซนิคเคยได้รับจากพานาโซนิค อินฟอร์เมชัน เทคโนโลยี โซลูชันส์ บนพื้นฐานของความเชี่ยวชาญในการปรับปรุงและบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล
โดยในส่วนของพานาโซนิคเองก็วางเป้าหมายที่จะใช้ความเชี่ยวชาญของฟูจิตสึในการปรับปรุงคุณภาพให้มีประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่าย และควบคุมการส่งมอบในส่วนโครงการดำเนินการและการบำรุงรักษาระบบสารสนเทศภายในกลุ่มบริษัทพานาโซนิค สำหรับภาพรวมของบริษัทใหม่ 1.ชื่อบริษัท คือ บริษัท ฟูจิตสึ ไอที แมเนจเมนท์ พาร์ตเนอร์ จำกัด 2.สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ 1006 คะโดะมะ เมืองคะโดะมะ โอซากะ
3.ผู้บริหาร คือ โตชิโร่ ฮิรามัทซิ 4.รายละเอียดทางธุรกิจ ให้บริการด้านการดำเนินงาน การบำรุงรักษา การพัฒนา สำหรับระบบสารสนเทศ 5.ทุนจดทะเบียน 100 ล้านเยน 6. ครงสร้างผู้ถือหุ้น ถือหุ้นทั้งหมดโดยฟูจิตสึ 7.จำนวนพนักงานประมาณ 500 คน
*** ลิงค์ซิส แนะนำ LINKSYS E1700 เราท์เตอร์ตัวแรง ส่งสัญญาณไกล
LINKSYS E1700 Wireless N Router ส่งสัญญาณได้เร็ว และไกลด้วยความเร็วในการสื่อสารข้อมูลสูงสุด 300 Mbps บนย่านความถี่ 2.4 กิกะเฮิรตซ์ รองรับการใช้งาน Gigabit Ethernet โดยมี Gigabit LAN พอร์ตแบบ 10/100/1000 Mbps ที่ช่วยให้การรับส่งข้อมูลระหว่าง Wireless to LAN เต็มประสิทธิภาพ ลดปัญหาคอขวดจากระบบแลนเดิมๆ รวมทั้งรองรับการใช้งาน IPv6 แบบ PPTP, IPSec pass-through รวมถึงการรองรับ Security แบบ 64-128bit WEP/WPA/WPA2 นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการรักษาความปลอดภัยแบบไร้สายได้ง่ายด้วยปุ่ม WiFi Protected SetupTM (WPS) LINKSYS E1700 ส่งสัญญาณผ่านเสาอากาศ Diploe ขนาด 3.5 dBi จำนวน 2 ต้น ติดตั้งภายนอกที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ และยังรองรับการบริหารจัดการผ่าน Web Brower และ Mobile App สามารถติดตั้งได้ทั้งบนผนัง และเพดานเหมาะสำหรับติดตั้งใช้งานในหอพัก, อพาร์ตเมนต์, โรงแรม และอาคารสำนักงานต่างๆ วางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้ในราคา 1,990 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) ที่ตัวแทนจำหน่ายผู้ค้าปลีก พันธุ์ทิพพลาซ่า, ไอทีมอลล์ ฟอร์จูน, เซียร์ รังสิต, และบานาน่าไอทีทุกสาขา
*** เมโทรซิสเต็มส์ จัดงาน DRaaS : DR Site Transformation เปิดตัวโซลูชัน BizOS : DRaaS
ยงยุทธ ศรีวันทนียกุล (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้ช่วยผู้อำนวยการกลุ่มผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์โซลูชัน บริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอร์เรชั่น จัดงาน DRaaS : DR Site Transformation เพื่อเปิดตัวโซลูชันใหม่ล่าสุด “BizOS : DRaaS” ที่สำนักงานใหญ่ เมโทรซิสเต็มส์เพื่อนำเสนอเทคโนโลยีและความรู้ที่น่าสนใจสำหรับการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ และเหตุการณ์สภาวะไม่ปกติให้แก่องค์กร ด้วยเทคโนโลยีคลาวด์ (Cloud) Disaster Recovery (DR) Services เพื่อตอบโจทย์โลกธุรกิจสมัยใหม่ ในการใช้งานระบบแอปพลิเคชันตลอดเวลาตามที่ต้องการ โดยมี Business Downtime น้อยที่สุด ด้วย Cloud DR เทคโนโลยีที่จะช่วยลด Recovery Time Objective (RTO) ให้เหลือเพียงหลักนาทีเท่านั้น พร้อมพบและพูดคุยกับทีมงานที่มีประสบการณ์ด้าน Solution DR Cloud Platform และพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น actifio, Trend Micro, Palo Alto Networks และชมการสาธิตการใช้ BizOS : DRaaS สำหรับรองรับแผน Disaster Recovery Planning (DRP) ด้วยวิธีที่ง่าย รวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่าย
*** อาร์ทีบี เทคโนโลยี คืนกำไรลูกค้ามอบส่วนลด 30-50% หูฟังฟิลิปส์ทุกรุ่น
อาร์ทีบี เทคโนโลยี เอาใจคนรักเสียงเพลงกับโปรโมชันสุดพิเศษ ที่กระหน่ำลดราคากันอย่างจุใจด้วยส่วนลดสูงสุด 50% เมื่อซื้อสุดยอดหูฟังคุณภาพจากแบรนด์ฟิลิปส์ ทุกรุ่น ทุกฟังก์ชัน ไม่ว่าจะเป็นหูฟังสำหรับคนเล่นกีฬา คนชอบคุยโทรศัพท์ หรือสำหรับผู้ที่ชื่นชอบคุณภาพพลังเสียงสุดยอดพบกับโปรโมชันสุดพิเศษได้ตั้งแต่วันนี้-31 สิงหาคมนี้เท่านั้น โดยผู้สนใจสามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ Power buy, Power Mall, Jaymart และพบกับ Flag Ship Store ที่มีสินค้าให้เลือกครบทุกรุ่นได้ที่ร้าน Jaymart สาขาเซ็นทรัลบางนา ชั้น 5, Power Buy สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น G และสาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 5 และ Power Mall สาขาสยามพารากอน ชั้น 4
*** ISSP แนะใช้ b.cloud ช่วยรัฐลดงบไอทีลงเกินครึ่ง
บริษัท อินเตอร์เนต โซลูชั่น แอนด์ เซอร์วิส โพรวายเดอร์ หรือ ISSP ผู้ให้บริการระบบ Cloud ในประเทศไทย แนะภาครัฐหันมาใช้เทคโนโลยี b.cloud เป็นอีกทางเลือกในการประหยัดงบลงทุนไอที ใช้งานสะดวก เข้าถึงข้อมูลได้พร้อมๆ กัน มาตรฐานความปลอดภัยสูง และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการข้อมูลภาครัฐ ตอบสนองการทำงานได้อย่างรวดเร็ว ทันเหตุการณ์ สุวิทย์ จินดาสงวน ประธานกรรมการ บริษัท ISSP กล่าวว่า การใช้งานเทคโนโลยีคลาวด์ (Cloud System or b.cloud) มาช่วยในการบริหารงานข้อมูลภาครัฐ จะทำให้กระทรวง หรือหน่วยงานต่างๆ สามารถลดงบประมาณการลงทุนด้านซอฟต์แวร์, ฮาร์ดแวร์ และเทคโนโลยีได้มาก เนื่องจาก b.cloud สามารถรองรับปริมาณข้อมูลจำนวนมาก ของภาครัฐได้ และเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐสามารถทำงานจากที่ไหน เวลาใดก็ได้ เช่น ในกรณีเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม หรือมีการปิดล้อมหน่วยงานภาครัฐ เจ้าหน้าที่ก็จะยังสามารถทำงานได้ เพียงแค่มีระบบอินเทอร์เน็ต เป็นตัวเชื่อมต่อกับระบบ b.cloud
“เป็นที่ตระหนักดีว่า ข้อมูลต่างๆ ของภาครัฐล้วนเป็นข้อมูลที่มีความสำคัญ และต้องการการจัดเก็บที่มีความปลอดภัยสูง ซึ่งระบบ b.cloud สามารถให้ความมั่นใจแก่ผู้ใช้งานได้ว่า สามารถมั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล เนื่องจาก b.cloud มีระบบป้องกัน ข้อมูลของผู้ใช้งาน (Data/Storage Privacy) ด้วยการเข้ารหัสโดยใช้ ชื่อผู้ใช้งาน (Username) และ รหัสผ่าน (Password) มีระบบเอ็นคริปชัน (Encryptions) คือ ข้อมูลที่ส่งออกจะถูกแปลงเป็นโค้ดรหัส หากมีคนอื่นดึงข้อมูลไป จะไม่สามารถเข้าใจเนื้อหาได้ และสามารถ Provide IP Address คือ สามารถตรวจสอบเลขประจำเครื่องที่เข้ามาจัดเก็บ แก้ไขข้อมูล รวมทั้งยังมีความสะดวกในการรองรับข้อมูลจำนวนมากของอุปกรณ์ที่ใช้งาน เช่น Tablet Smartphone Android โดย b.cloud จะสามารถคอมเพรสชัน (Compression) ข้อมูล ไฟล์จะถูกบีบให้มีขนาดเล็กลง ทำให้ส่งข้อมูลออกได้อย่างรวดเร็ว”
หากภาครัฐหันมาใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ อย่างระบบคลาวด์จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่ามาก เพราะคลาวด์เซิร์ฟเวอร์ สามารถทำงานได้หลายๆ สิ่งแวดล้อมการทำงาน (Virtual Machine หรือ VM) ในเวลาเดียวกัน หาก VM ใดมีปัญหาจะไม่ส่งผลกระทบต่อ VM การทำงานอื่นๆ และจะมีระบบรายงานผลกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที ผู้ใช้สามารถเช่าใช้ระบบคลาวด์ (b.cloud) ในระยะเวลาสั้นๆ เฉพาะโครงการหนึ่งๆ เพื่อรองรับปริมาณที่เพิ่มมากขึ้นกว่าปกติได้โดยไม่ต้องซื้อคอมพิวเตอร์เพิ่มเพียงแค่เช่าระบบคลาวด์เพิ่มเติม นอกจากนี้ ยังช่วยลดขั้นตอนในการทำงาน เช่น เอกสารต่างๆ ได้รับผ่านอีเมลเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดสามารถตรวจสอบได้ง่ายว่าผู้รับได้รับแล้วหรือยัง ไม่จำเป็นต้องถ่ายภาพเอกสารแล้วจัดเก็บเป็นแฟ้มเอกสาร ที่ยากต่อการค้นหา ส่งผลให้มาตรฐานในการให้บริการของภาครัฐสูงขึ้น
ระบบคลาวด์เซิร์ฟเวอร์ มีทั้งระบบจำกัดผู้ใช้เฉพาะกลุ่ม (Private Cloud) ระบบสาธารณะ (Public Cloud) และระบบผสม (Hybrid Cloud) ผู้ใช้งานสามารถเก็บข้อมูลต่างๆ ไว้ในระบบคลาวด์ และเรียกใช้ข้อมูลเมื่อไรก็ได้ตามที่ต้องการ แม้ว่าจะเข้ากระทรวง หรือหน่วยงานต่างๆ ไม่ได้ แต่ก็สามารถทำงานได้ ทั้งยังมีระบบรักษาความปลอดภัยสูง ด้วยการทำงานผ่านระบบยูสเซอร์ เอ็นคริปชัน ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องข้อมูลสูญหาย หรือรั่วไหล และถึงแม้ว่าไฟจะดับ หรือเกิดวิกฤตภัยต่างๆ ผู้ใช้งานยังสามารถเรียกข้อมูลทั้งหมดกลับมาได้ (recoveries) อีกด้วย นอกจากนี้ ระบบ Hybrid Cloud ยังสามารถจะรันข้อมูลจากที่ไหนก็ได้ เช่น รันที่ออฟฟิศ แต่ออฟฟิศถูกปิดล้อม ก็สามารถกดปุ่มส่งข้อมูลออกไปยังไฮบริดคลาวด์ ให้ข้อมูลจะไปรันที่อีกคนหนึ่ง ผู้ที่รับข้อมูลไปจะสามารถล็อกอินเข้าไปทำงานต่อได้เลย
ระบบคลาวด์ (b.cloud) ช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ซ้ำซ้อน ในอดีตหากพูดถึงระบบ SAP ความเป็นสากลที่สามารถใช้ข้อมูลจำนวนมากได้หลายหน่วยงาน โดยไม่ต้องจัดเก็บซ้ำซ้อน ต้องลงทุน 200-300 ล้านบาท ใช้ระยะเวลาวางระบบ 2 ปี แต่ปัจจุบันภาครัฐไม่จำเป็นลงทุนด้วยเม็ดเงินจำนวนมหาศาล และสามารถติดตั้งได้รวดเร็วทันต่อความต้องการใช้งาน เช่น หากภาครัฐต้องการจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากๆ ในช่วงระยะเวลาการเลือกตั้ง อาจจะต้องซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์เพิ่ม เพื่อให้เพียงพอต่อปริมาณ ข้อมูลของประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งเป็นการซื้อเครื่องมาเพื่อใช้งานระยะเวลาสั้นๆ ทำให้เมื่อจะนำมาใช้งานต่อในอนาคต ตัวเครื่อง และตัวซอฟต์แวร์ต่างๆ จะไม่ทันสมัยและไม่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งหากใช้ระบบ b.cloud จะช่วยให้ภาครัฐไม่จำเป็นต้องซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ แต่จะสามารถจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากไปใน b.cloud แทนซึ่งภาครัฐจะสามารถเช่าใช้ b.cloud ได้ตามระยะเวลาที่ต้องการ จะทำให้งบประมาณลงทุนด้านเทคโนโลยีของภาครัฐจะลดลงเกินครึ่งจึงสามารถนำส่วนต่างของงบลงทุนไปใช้ในขั้นตอนกระบวนการดำเนินงานทางสารสนเทศอื่นๆ แทนได้ และยังลดขั้นตอนซ้ำซ้อนในการทำงานลงอีกด้วย
*** ลูกค้า 3BB อร่อย คุ้ม รับส่วนลด Mister Donut KFC Auntie Anne’s
บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ เดินหน้ามอบความสุขให้กับลูกค้า 3BB อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ร่วมกับบริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป ( CRG) ส่งแคมเปญ อิ่มมื้อนี้กับ 3BB มอบส่วนลดให้ลูกค้า 3BB ได้อร่อยสุดคุ้ม กับ 3 เมนูดังสุดฮิต มิสเตอร์ โดนัท (Mister Donut) มอบส่วนลด รับฟรี โดนัท 2 ชิ้น มูลค่า 30 บาท (ชิ้นละไม่เกิน 15 บาท) เมื่อซื้อโดนัทราคาปกติตั้งแต่ 6 ชิ้นขึ้นไป (ชิ้นละ 15 บาทขึ้นไป) เคเอฟซี (KFC) มอบส่วนลด รับฟรี ไก่ทอด 1 ชิ้น มูลค่า 37 บาท เมื่อซื้อไก่ทอด 4 ชิ้น (ราคา 148 บาท) อานตี้ แอนส์ (Auntie Anne’s) มอบส่วนลดเมนู Original Pretzel+Cheesy Chicken Bites+Strawberry Beauty 12 oz. ราคา 125 บาท จากปกติ 140 บาท เพียงแสดงคูปองที่แนบไปกับใบแจ้งค่าบริการ ก็สามารถนำคูปองไปใช้บริการรับสิทธิส่วนลดทันที ทั้งนี้ ลูกค้า 3BB ยังสามารถเข้าไปโหลดแอป 3BB Plus เพื่อกดรับสิทธิกับเมนูสุดโปรดได้แบบไม่อั้น ในสาขาที่ร่วมรายการทั่วประเทศ อร่อยได้แล้ววันนี้ถึง 31 สิงหาคม 2557
*** เอไอเอส จับมือ จีทีเอช พัฒนาระบบเสียงบรรยายภาพ เพื่อผู้บกพร่องทางการมองเห็น
เอไอเอส จับมือ ค่ายหนัง จีทีเอช เปิดมิติใหม่ให้กับวงการภาพยนตร์ออนไลน์ พัฒนาระบบเสียงบรรยายภาพ (Audio Description) เพื่อผู้บกพร่องทางการมองเห็น เป็นครั้งแรกของเมืองไทย ในดีวีดี “คิดถึงวิทยา” และออนไลน์บน AIS Movie Store เพื่อมอบความสุขแห่งโลกภาพยนตร์ให้แก่ผู้บกพร่องทางการมองเห็น ได้สัมผัสถึงอรรถรส และสาระบันเทิงจากภาพยนตร์เรื่องดังในมิติใหม่ โดยเปิดให้ดาวน์โหลดบน AIS Movie Store แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ในราคาเรื่องละ 179 บาท โดยเอไอเอส และจีทีเอชจะนำรายได้ทั้งหมดจากการดาวน์โหลดภาพยนตร์เรื่องนี้ (ยกเว้นค่าดาต้า) โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ตั้งแต่วันนี้ - 31 กรกฎาคม 2558 บริจาคให้แก่สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย เพื่อมอบสิ่งดีๆ ให้แก่สังคมต่อไป
รายได้ทั้งหมดจากการดาวน์โหลดภาพยนตร์คิดถึงวิทยา ผ่าน AIS Movie Store โดยไม่หักค่าใช้จ่าย เอไอเอสและจีทีเอช จะมอบให้แก่สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยต่อไป
*** เอปสันร่วมสนับสนุนการศึกษาเด็กไทยผ่านมูลนิธิช่วยนักเรียนที่ขาดแคลนในพระบรมราชินูปถัมภ์
วรรณวิไล วรวิกโฆษิต เลขาธิการมูลนิธิช่วยนักเรียนที่ขาดแคลนในพระบรมราชินูปถัมภ์ (กลาง) ให้เกียรติรับมอบทุนการศึกษาจากวิสาข์ ธนวิภาคย์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด (ที่ 2 จากขวา) เพื่อใช้สนับสนุนกิจกรรมของมูลนิธิฯ ในด้านทุนการศึกษาแก่เด็ก และเยาวชนที่ตั้งใจเรียนแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ซึ่งเป็นกิจกรรมสืบเนื่องมาจากงาน “Epson Open House 2014 : Engineered For Business” งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ครั้งใหญ่ของเอปสัน ประเทศไทย ที่เปิดให้ผู้ร่วมงานร่วมบริจาคผ่านการซื้อสินค้าที่ผลิตจากวัสดุที่พิมพ์ด้วยพรินเตอร์เอปสัน
CyberBiz Social
