เบ็นคิวชี้ยอดขายเริ่มกลับมาเพราะการเมืองเริ่มชัดเจน จัดโปรโมชันรับกระแสบอลโลกด้วย 2 ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม วิดีโอ โปรเจกเตอร์ หวังยอด 2 เดือน 500 เครื่อง ทั้งปีจะส่งโปรเจกเตอร์ลงตลาด 30 รุ่น หวังดันยอดขาย 20,000 เครื่อง และทะยานขึ้นสู่ลำดับที่ 2 ในตลาดรวมด้วยแชร์ 20% ส่วนยอดขายรวมทั้งหมดตั้งเป้าไว้ที่ 1,000 ล้านบาท
นายพัทธกร พรศิริธิเวส ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัท เบ็นคิว (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 เบ็นคิวได้รับผลกระทบบ้างจากสถานการณ์ทางการเมือง แต่นับจากนี้คิดว่าทุกอย่างจะดีขึ้นเพราะสถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว และทำให้ยอดขายของเบ็นคิวเติบโตขึ้นตามไปด้วย เพราะคาดว่าโปรเจกต์ของรัฐบาลจะเติบโตเพิ่มมากขึ้น โดยล่าสุดเบนคิวได้นำผลิตภัณฑ์โปรเจกเตอร์มาจัดแคมเปญต้อนรับบอลโลก 2 รุ่นคือ W1070 และ MH680
สำหรับโปรเจกเตอร์ที่นำเสนอนี้เป็น 2 รุ่น จากทั้งหมด 6 รุ่นในกลุ่มของวิดีโอ โปรเจกเตอร์ที่จะนำเสนอในปีนี้ ส่วนตลอดทั้งปีเบ็นคิวจะนำเสนอโปรเจกเตอร์ออกสู่ตลาด รวมทั้งสิ้น 30 รุ่น โดยตั้งเป้ายอดขายรวมของผลิตภัณฑ์ไอทีไว้ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาทในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วซึ่งมียอดขายอยู่ที่ 700 ล้านบาท โดยรายได้ดังกล่าวมาจากผลิตภัณฑ์โปรเจกเตอร์ 40% แอลอีดี 40% และดิจิตอลไซจ์เนจ 20% โดยผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจะเน้นเจาะกลุ่มตลาดราชการ ภาคการศึกษา และในกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป
“ในปีที่ผ่านมาตลาดรวมของโปรเจกเตอร์มีประมาณ 90,000 เครื่อง เบนคิวอยู่ในอันดับ 3 มีแชร์ 11% ส่วนในปีนี้คาดว่าตลาดจะโตขึ้นเป็น 1 แสนเครื่อง ซึ่งเบ็นคิวต้องการส่วนแบ่งในตลาดขึ้นเป็นลำดับ 2 โดยต้องการมาร์เกตแชร์ 20% หรือยอดขาย 20,000 เครื่อง ส่วนในตลาดวิดีโอ โปรเจกเตอร์ เบนคิวได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 100% หรือคิดเป็น 60% ของมูลค่าตลาดรวมของตลาดวิดีโอ โปรเจกเตอร์ ซึ่งปัจจุบันตลาดดังกล่าวมียอดขายอยู่ที่ 3,600 เครื่อง ซึ่งเบนคิวเป็นผู้นำตลาด ส่วนปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 5,000 เครื่อง”
นายพัทธกรกล่าวว่า สำหรับในส่วนของโปรโมชันรับบอลโลกดังกล่าวเบ็นคิวได้ตั้งเป้าขายผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 รุ่นไว้ที่ 500 เครื่องในช่วง 2 เดือนนับจากนี้ โดยลูกค้าที่ซื้อโปรเจกเตอร์ รุ่น W1070 และรุ่น MH680 จะได้รับ RS Sunbox ที่สามารถรับชมการแข่งขันฟุตบอลโลกได้ครบทั้ง 64 รอบการแข่งขันตามสโลแกนของโปรโมชันที่ว่า “เปลี่ยนบ้านให้เป็นขอบสนามฟุตบอล”
ทางด้านช่องทางการจัดจำหน่ายของเบ็นคิวนั้นจะขายผ่านดีลเลอร์ต่างๆ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า 50 รายกระจายอยู่ทั่วประเทศ ยังไม่รวมช่องทางการขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ไอทีอีก 10 ราย นอกจากนี้ยังมีการขายผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ และช่องทางโซเชียลมีเดีย โซเชียลคอมมูนิตีต่างๆ ที่จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและผลิตภัณฑ์ทำได้อย่างง่ายดาย ตอบสนองความต้องการลูกค้ายุคใหม่ที่มักจะหาข้อมูลเพื่อเลือกผลิตภัณฑ์ที่ต้องการก่อนที่ตัดสินใจซื้อ
“เราผลิตโปรเจกเตอร์รายแรกที่มีการเชื่อมต่อไร้สายและผลิตฟูลเอชพีที่สามารถฉายระยะใกล้แต่ได้ความกว้างเท่ากับการฉายระยะไกล จึงสามารถฉายได้สะดวกแม้จะอยู่ในพื้นที่จำกัด ซึ่งสามารถตอบสนองการใช้งานของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ประกอบกับในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาการใช้งานโปรเจกเตอร์ในครัวเรือนมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นประมาณ 10% ทุกปี เนื่องจากราคาของผลิตภัณฑ์นี้ถูกลงสามารถซื้อเพื่อใช้งานได้ง่าย และมีอายุการใช้งานของหลอดภาพที่ยาวนานขึ้น ทำให้การตัดสินใจซื้อง่ายขึ้นตามไปด้วย”
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์โปรเจกเตอร์นั้นเบ็นคิวจะแบ่งกลุ่มตามการใช้งานคือ กลุ่ม Business จะเป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประเภทดาต้าโปรเจกเตอร์ โดยไม่ได้เน้นแสงสีแต่จะมุ่งความสว่างและการแสดงผลภาพ กลุ่ม Education จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่นำฟังก์ชัน interactive ที่จะช่วยให้การเรียนการสอนเป็นไปอย่างสนุกสนาน กลุ่ม Home Video Projector ที่จะเน้นเรื่องแสง สี เสียง ใช้งานง่ายและสะดวก และใช้งานได้ทุกที่
Company Related Link :
BenQ Thailand
CyberBiz Social
