เออาร์ไอพีเผยคอมมาร์ตปีนี้เปลี่ยนรูปแบบใหม่ให้ดิสทริบิวเตอร์เข้ามาขายแทนเจ้าของแบรนด์หลัก เหตุต้องการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการก่อนส่งออกไปขายในตลาดเออีซี ก้มหน้ารับยอดขายครั้งนี้น่าจะอยู่ที่ 1,900 ล้านบาท ลดลงจากครั้งก่อนที่ทำได้ 2,500 ล้านบาท เพราะปัจจัยทางการเมืองและพฤติกรรมของผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยน
นายพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการธุรกิจสื่อ ไอที บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การจัดงานคอมมาร์ตครบรอบ 14 ปีในครั้งนี้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบจากเดิมพอสมควร โดยจะมีดิสทริบิวเตอร์เข้ามาร่วมงานกันมากขึ้น ในขณะที่เจ้าของแบรนด์เข้ามามีบทบาทน้อยลง ซึ่งในรูปแบบดังกล่าวนี้จะทำให้เกิดการแข่งขันทางด้านการขายระหว่างตัวแทนจำหน่ายมากขึ้น และถือเป็นการเตรียมความพร้อมให้แก่ธุรกิจเหล่านี้ได้สร้างประสบการณ์ก่อนที่จะออกไปเปิดตลาดในต่างประเทศอย่างเออีซี
โดยสินค้าที่คาดว่าจะขายดีในงานนี้คือผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊กและแท็บเล็ต ซึ่งคาดว่าตลอดทั้งปียอดขายรวมของโน้ตบุ๊กน่าจะเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาเนื่องจากลูกค้าเริ่มมีการเปลี่ยนเครื่องกันแล้ว ส่วนแท็บเล็ตนั้นน่าจะโตขึ้นประมาณ 20% คืออยู่ที่ 8.2 แสนเครื่อง เพิ่มขึ้นจาก 6 แสนเครื่องในปีที่ผ่านมา ส่วนรายได้รวมในการจัดงานคอมมาร์ตครั้งนี้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,900 ล้านบาท ลดลงจากครั้งที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ประมาณ 2,500 ล้านบาท
“รายได้รวมภายในงานที่ลดลงเนื่องจากตลาดมีการเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงมุ่งไปสู่การหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตแล้วค่อยไปซื้อแทน ดังนั้นการจัดงานในปัจจุบันจึงเน้นให้ร้านค้าทำในรูปแบบของโชว์รูม และขายจุดเด่นด้านโปรโมชันที่ให้คุ้มค่ากว่าร้านข้างนอก โดยบางผลิตภัณฑ์ลดราคาถึง 20% ซึ่งในอนาคตหากมีการนิยมซื้อผ่านทางออนไลน์มากขึ้น คอมมาร์ตก็จะมีการปรับตัวตาม นอกจากนี้ยังติดปัญหาทางการเมืองทำให้การใช้จ่ายชะลอตัวลง”
นายพรชัยกล่าวต่อว่า คอมมาร์ตคาดหวังที่จะเป็นงานแสดงสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียนด้วย ครอบคลุมตลาดไอทีของ AEC โดยตั้งเป้าหมายว่าในอีก 3 ปีข้างหน้าจะเริ่มเข้าไปจัดงานในประเทศพม่า ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการเตรียมความพร้อม และแม้ทิศทางเศรษฐกิจด้านไอทีของไทยค่อนข้างเงียบเหงามาตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว แต่หวังว่าการจัดงานคอมมาร์ต ไทยแลนด์ในปีนี้จะช่วยปลุกกระแสตลาดไอทีที่ซบเซาให้คึกคักขึ้นมาอีกครั้ง
Company Relate Link :
Commart