เอ.อาร์.โล่งใจคนเดินงานแฟร์สินค้าไอที “คอมมาร์ต” อยู่ในระดับ “ไม่น้อย” แม้จะจัดงานชนกับการเป่านกหวีดชุมนุมคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่ภาวะถนนหลายสายถูกปิดการจราจรไม่ทำให้คอมมาร์ตได้รับผลกระทบใดๆ ยืนยันกระแสรวมตัวไปม็อบไม่ทำให้บรรยากาศซื้อสินค้าไอทีซบเซา เบื้องต้นยอมรับทีมผู้จัดมีความกลัวแต่เตรียมแผนสำรองเพื่อรับมือใน “สถานการณ์ที่เลวร้ายจริงๆ”
นายปฐม อินทโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์ว่า การชุมนุมทางการเมืองไม่มีผลกระทบต่องานคอมมาร์ต (COMMART COMTECH THAILAND 2013) ในระหว่างวันที่ 7-10 พฤศจิกายน 2556 การประเมินเบื้องต้นพบว่าการปิดถนนหลายสายในกรุงเทพมหานครไม่มีผลทำให้ผู้ชมงานน้อยลง เนื่องจากการสำรวจพบว่าผู้ชมงานคอมมาร์ตมากกว่า 70-80% เลือกเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน
“การประเมินงานช่วงเย็นวันที่ 7 พ.ย.ถือว่าคนโอเค ไม่น้อย เรียกว่าโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง” ปฐมกล่าว “ถามว่าเรากลัวไหม ต้องบอกว่ากลัว แต่เท่าที่เราเคยประเมิน สิ่งหนึ่งที่ผู้ค้าไอทีกังวลคือความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ซึ่งเราพบว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะหายไปเมื่อมีการชุมนุมในระยะยาว การประท้วงที่ดูแล้วบานปลายยืดเยื้อ ผิดกับครั้งนี้ที่มองแล้วเป็นการประท้วงที่มีเป้าหมายชัดเจน ส่วนใหญ่ไปประท้วงแบบมีกำหนด 2 ชั่วโมงแล้วกลับไปทำงานต่อ”
ปฐมยอมรับว่า ทีมผู้จัดงานกังวลในระยะแรกว่าการชุมนุมจะมีผลกระทบต่องานคอมมาร์ต แต่พบว่าสินค้าหลักในงานอย่าง iPhone 5s และสินค้าไอทีอื่นๆ กลายเป็นแรงดึงดูดให้งานนี้ยังมีกำลังซื้อพอสมควร ซึ่งภาพรวมเสียงตอบรับจากงานยังต้องรอช่วงสุดสัปดาห์นี้อีกครั้ง
“ช่วงแรกเราคิดเหมือนกันว่าการชุมนุมจะกระทบยอดใช้จ่ายในงาน 10-15% เบื้องต้นคิดว่าเงินสะพัดยังเป็น 3,000 ล้านบาทอยู่เช่นเดิม ตัวเลขนึ้ต้องถือว่าหดตัวเพราะการจัดงานคอมมาร์ตปลายปีมักจะมียอดจำหน่ายจากลูกค้ากลุ่มเอสเอ็มอีที่ซื้อสินค้าไอทีเป็นล็อตใหญ่ ซึ่งเป็นเครื่องมือฉุดให้ยอดซื้อเพิ่มขึ้นในขณะที่ยอดจากคอนซูเมอร์ลดลง”
เพื่อไม่ประมาท ปฐมระบุว่าทีมงานคอมมาร์ตมีการเตรียมการเพื่อสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด ซึ่งจะทำให้คอมมาร์ตยังสามารถเป็นตัวกลางเพื่อต่อยอดธุรกิจจำหน่ายสินค้าไอทีได้
“เราคนไทยเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตท่ามกลางความขัดแย้ง คอมมาร์ตเองเจอม็อบหลายครั้งทำให้เราต้องหันมาคิดแคมเปญเพื่อให้สามารถอยู่รอด สำหรับครั้งนี้เราประเมินว่าผู้ชมงานคอมมาร์ตไม่ได้เดินทางมาซื้อในวันเดียว แต่มักมาเพื่อสำรวจก่อนจะซื้อในวันสุดท้าย จุดนี้มักทำให้คอมมาร์ตเสียลูกค้าหากผู้ใช้ไม่สามารถเดินทางมาซื้อได้ เราจึงคิดแคมเปญเพื่อให้ลูกค้ายังซื้อสินค้าไอทีได้ถ้าเกิดสถานการณ์เลวร้ายที่สุด ด้วยการเปิดให้ผู้ชมงานลงทะเบียนด้วยการสแกน QR Code วิธีนี้จะทำให้ทีมงานมีข้อมูลเบอร์โทรศัพท์และสินค้าที่ลูกค้าต้องการซื้อ ดังนั้นเมื่อเกิดสถานการณ์ที่เลวร้าย คอมมาร์ตจะยังส่งข่าวสารให้ลูกค้าเพื่อซื้อได้หลังงาน ถือว่าเราเปิดกว้างไม่ต้องรั้งให้ผู้บริโภคต้องซื้อสินค้าในงานคอมมาร์ตเท่านั้น นี่ถือเป็นจุดประสงค์หลักของงานคือเพื่อช่วยให้เวนเดอร์อยู่ได้”
อย่างไรก็ตาม คำกล่าวของผู้บริหาร เอ.อาร์. ผู้จัดงานคอมมาร์ตนั้นสวนทางกับภาพที่ผู้ใช้เครือข่ายสังคมเฟซบุ๊กถ่ายทอดมา โดยหลายภาพสะท้อนว่าภายในงานนั้นเงียบเหงาในบางช่วง ซึ่งอาจเป็นเฉพาะบางช่วงเวลาของการจัดงาน
งาน COMMART COMTECH THAILAND 2013 เป็นงานแฟร์จำหน่ายสินค้าไอทีครั้งใหญ่ในประเทศไทย กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 7-10 พฤศจิกายน 2556 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์