ประธาน กสทช.ระบุปี 2557 กทปส.จะมีเงินสูงถึง 2.6 หมื่นล้านบาท ด้าน “ฐากร” ชี้เงินมาจากการประมูลทีวีดิจิตอลและเงินคงค้างปี 2556 คาดปลายเดือน ก.พ.สามารถประกาศเงื่อนไขการขอรับเงินจากกองทุน หลังแจก 32 ล้านบาทให้ 10 โครงการแรก พร้อมเตรียมแจกอีก 618 ล้านบาทในปีนี้
พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) กล่าวในพิธีลงนามรับเงินจัดสรรกองทุนครั้งที่ 1 ประจำปี 2556 ว่า กทปส.จัดตั้งขึ้นตามมาตราที่ 52 แห่ง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 ซึ่งในการมอบเงินครั้งแรกนี้มีการมอบเงินจำนวนทั้งสิ้นราว 32 ล้านบาทให้แก่ 10 โครงการจาก 8 หน่วยงานที่ดำเนินการร้องขอเงินสนับสนุนโครงการที่เป็นประโยชน์มา
โดยหลักในการพิจารณาการมอบเงินประกอบด้วย 5 ด้าน ได้แก่ 1. บริหารกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม 2. วิจัยกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม 3. การพัฒนาบุคลากรในกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม 4. งานด้านคุ้มครองผู้บริโภค และ 5. จัดทำสื่อปลอดภัยและสื่อสร้างสรรค์
ขณะที่นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. และเลขานุการ กทปส. กล่าวว่า ในปี 2557 คาดว่ากองทุน กทปส.จะมีเงินทั้งสิ้นราว 26,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่มาจากเงินค้างเดิมในปี 2556 จำนวน 10,000 ล้านบาท เงินนำจ่ายเข้ากองทุนจากกิจการโทรคมนาคมราว 5,000 ล้านบาท เงินจากการจ่ายค่าใบอนุญาตประมูลคลื่นความถี่ให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลประเภทบริการธุรกิจระดับชาติ หรือทีวีดิจิตอล ทั้ง 24 ช่องในงวดแรก จำนวน 11,000 ล้านบาท และค่าปรับในกรณีต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น
ทั้งนี้ ปัจจุบันกองทุน กทปส.มีเงินทั้งสิ้นราว 10,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มจากเมื่อสิ้นปี 2555 จำนวน 5,000 ล้านบาท โดยจำนวนเงินที่เพิ่มมาราว 5,000 ล้านบาทเป็นรายได้ประจำมาจากค่าธรรมเนียมใบอนุญาตโทรคมนาคมจำนวน 3.75% จากรายได้รวมต่อปีที่ผู้ประกอบการต้องนำจ่ายเข้ากองทุน กทปส.
นอกจากนี้ ในปี 2557 กทปส.มีแผนตั้งงบมอบเงินสนับสนุนโครงการต่างๆ จำนวน 618 ล้านบาท แบ่งเป็นงบปี 2557 โดยตรงจำนวน 500 ล้านบาท และที่ยกยอดมาจากปี 2556 จำนวน 118 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวไม่รวมเงินที่ กทปส.นำจากกองทุนไปใช้ออกคูปองเงินสนับสนุนค่าอุปกรณ์เปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีจากทีวีแอนะล็อกไปสู่ทีวีดิจิตอลให้แก่คนไทย 22 ล้านครัวเรือน
“เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถทำประกาศเชิญให้ผู้ที่ต้องการขอเงินสนับสนุนโครงการต่างๆ ในปี 2557 ได้ราวปลายเดือน ก.พ.นี้”
นายฐากรกล่าวว่า ส่วนเงินที่ได้จากค่าประมูลใบอนุญาตทีวีดิจิตอลงวดแรกราว 11,000 ล้านบาทจะเข้ามาในช่วงปลายเดือน ก.พ.นี้ เนื่องจากตามกำหนดการจ่ายเงินประมูลงวดแรกผู้ประกอบการต้องดำเนินการภายหลังได้รับหนังสือแจ้ง 30 วัน ซึ่งสำนักงาน กสทช. ได้ทำการออกหนังสือให้บริษัทที่ชนะการประมูลเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้ชนะการประมูลทั้งหมดต้องชำระเงินประมูลงวดแรกภายในไม่เกินวันที่ 15 ก.พ.
สำหรับความคืบหน้าการนำเงินของกองทุน กทปส.ไปใช้ออกคูปองเงินให้แก่คนไทยทั้ง 22 ล้านครัวเรือน เบื้องต้น กทปส.จะหารือเพิ่มเติมกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ในแนวทางการสนับสนุนค่าอุปกรณ์ จากเดิมที่กำหนดให้สามารถอุดหนุนได้ระหว่างเครื่องทีวีที่สามารถรับสัญญาณทีวีดิจิตอลได้โดยตรง และกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล ซึ่ง กทปส.ต้องการให้เพิ่มในส่วนเสาอากาศรับสัญญาณโทรทัศน์เข้าไปด้วย เนื่องจากในพื้นที่ห่างไกลบางแห่งอาจมีความจำเป็นในการใช้เสาอากาศรับสัญญาณด้วยเช่นกัน ส่วนจะให้มีการเพิ่มจำนวนมูลค่าคูปองจาก 690 บาทหรือไม่ ต้องให้บอร์ด กสท.เป็นฝ่ายเสนอแนวนโยบาย
“อย่างไรก็ดี จากการสำรวจพบว่าราคาค่ากล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลจะเฉลี่ยอยู่ที่ 1,000-1,100 บาท และคนทั่วไปเห็นว่าการที่ กสทช.เตรียมออกคูปองจำนวน 690 บาท ซึ่งมีจำนวนน้อยกว่าราคาเฉลี่ย ทั้งที่ กสทช.ได้เงินจากการประมูลทีวีดิจิตอลเป็นจำนวนที่สูงมาก ดังนั้นจึงเห็นว่าเรื่องดังกล่าวต้องหารือกันอีกครั้งถึงจำนวนราคาที่เหมาะสมสอดคล้องกับราคาตลาดด้วย”
ส่วนสาเหตุที่ราคาเฉลี่ยกล่องรับสัญญาณอยู่ที่ 1,000-1,100 บาท เกิดจากการที่ กสทช.ได้อนุมัติให้จำหน่ายอุปกรณ์ไปราว 1 แสนกล่องเท่านั้น แต่เมื่อออกคูปองให้แก่ 22 ล้านครัวเรือน บริษัทผลิตอุปกรณ์ในตลาดต้องทำเพิ่มมาจำหน่ายในตลาดกว่า 20 ล้านกล่องแน่นอน ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาอุปกรณ์ในตลาดลดต่ำลงในที่สุด
Company Relate Link :
กสทช.