บราเดอร์เผยตลาดพรินเตอร์ในปีที่ผ่านมายังมีอัตราการเติบโตไม่เป็นที่น่าพอใจ ยังพอไปได้เฉพาะตลาดเครื่องพิมพ์เลเซอร์ราคาถูก ชี้ยอดขาย 9 เดือนมีอัตราการเติบโต 13% และน่าจะคงที่ไปจนปิดปีงบประมาณ เตรียมหนีกรุงเทพฯ ไปสร้างรายได้ในต่างจังหวัดแทน ดึง “ดีเจพุฒ-พุฒิชัย เกษตรสิน” เป็นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่พร้อมพ่วงกลยุทธ์ “มิวสิกมาร์เกตติ้ง” หวังเจาะตลาดใหม่วัยรุ่นและโฮมยูส ตั้งเป้าโตปีนี้ 15%
นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาตลาดของพรินเตอร์มีอัตราการเติบโตไม่มากนัก โดยตลาดที่ยังพอไปได้คือเลเซอร์พรินเตอร์ในระดับราคาต่ำกว่า 2,000 บาท ส่วนตลาดอื่นๆ ยังคงชะลอตัว โดยช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (เมษายน-ธันวาคม) บราเดอร์มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 13% และคาดว่าจะคงระดับนี้ไปจนถึงสิ้นไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณของบราเดอร์ในเดือนมีนาคมนี้
“สำหรับเป้าหมายในปีนี้บราเดอร์ตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 15% โดยจะเน้นตลาดต่างจังหวัดให้มากขึ้น เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาตลาดในกรุงเทพฯ มีอัตราการเติบโตคงที่ ในขณะที่ตลาดต่างจังหวัดยังคงสามารถสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่องในทุกกลุ่มตลาด โดยปัจจุบันสัดส่วนตลาดต่างจังหวัดของบราเดอร์อยู่ที่ 35% และในปีหน้าจะขยายสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 40%”
ทั้งนี้ การเพิ่มเป้าหมายการเติบโตดังกล่าวบราเดอร์ได้ทำการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ ดีเจพุฒ-พุฒิชัย เกษตรสิน เพื่อเป็นสื่อกลางในการสื่อสารกับลูกค้าถึงความเป็นแบรนด์ที่ทันสมัย วัยรุ่น เพื่อจับตลาดนักเรียนนักศึกษาและผู้ใช้งานในกลุ่มโฮมยูสเพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันที่บราเดอร์ยังได้รับความนิยมอยู่ในกลุ่มเอสเอ็มอีและองค์กรขนาดใหญ่มากกว่า นอกจากนี้ยังได้มีการนำกลยุทธ์การตลาดผ่านการใช้ดนตรี (Music Marketing Strategy) มาใช้ควบคู่กันเพื่อเป็นสื่อกลางในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าอีกด้วย
นายธีรวุธกล่าวว่า การสร้างภาพลักษณ์ด้วยมิวสิกมาร์เกตติ้งผ่านบทเพลงพิเศษและมิวสิกวิดีโอที่ชื่อว่า “มีเราตลอดไป” ซึ่งแต่งขึ้นโดย “ฟองเบียร์” และขับร้องโดย “ป๊อป ปองกูล” ที่จะเริ่มสื่อผ่านช่องทางสื่อวิทยุ โทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ และสื่อออนไลน์ พร้อมทั้งมีการเผยแพร่สื่อโฆษณาและการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์นี้ จะช่วยสร้างการจดจำและความสนใจให้เกิดขึ้นในกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น ทำให้แบรนด์ของบราเดอร์และลูกค้าใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญน่าจะทำให้ลูกค้ามีความรู้สึกที่ดี และคุ้นเคยกับแบรนด์มากขึ้นกว่าเดิม ปัจจุบันบราเดอร์มีสัดส่วนรายได้จากในเลเซอร์พรินเตอร์อยู่ที่ 50% อิงก์เจ็ตพรินเตอร์ 40% และจักรเย็บผ้า 10%
Company Related Link :
Brother Thailand