xs
xsm
sm
md
lg

ขอดเกล็ดขบวนการ "ขาย เฟซบุ๊ก แฟนเพจ"

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ลักษณะหน้าเว็บไซต์สำหรับเสนอซื้อขาย Facebook Fanpages ในต่างประเทศ (sellyourfanpage.com)
สัปดาห์ที่แล้วเราเห็นเด็กมัธยมฯปลายชาวไทยออกมาให้สัมภาษณ์ว่าสามารถขาย "เฟซบุ๊ก แฟนเพจ (Facebook Fanpage)" จนสามารถถอยรถหรูมาขับได้สบายๆ กรณีที่เกิดขึ้นนำไปสู่คำถามหลายประเด็น ทุกประเด็นสามารถตอบได้จากกรณีศึกษาทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจากการขายเฟซบุ๊กแฟนเพจบนโลกนี้มีกระบวนการชัดเจนที่ดำเนินการมาต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 3 ปี

***ขาย "แฟนเพจ" ได้จริงหรือ?

คำตอบคือจริง จุดนี้เว็บไซต์ sellyourfanpage.com ระบุว่า"แฟน"ในแฟนเพจเฟซบุ๊กนั้นมีราคา ดังนั้นคนที่มีแฟนหลักหมื่นหลักแสนหลายคนบอกตัวเองได้เลยว่า แฟนเหล่านี้สามารถทำเงินให้คุณได้


แฟนเพจหรือแฟนไซต์ (Fansite) คือเว็บไซต์ขนาด 1 หน้าหรือ 1 เพจที่ชาวเฟซบุ๊กสามารถสร้างสรรค์ขึ้นมาเองได้ฟรี ในสาราณุกรมออนไลน์วิกิพีเดียอธิบายว่าแฟนเพจคือเว็บไซต์ที่สร้างและดูแลรักษาโดยผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่นชอบหรือสนใจในเรื่องใดก็ได้ ทั้งเซเลบผู้มีชื่อเสียง สิ่งของ หนังสือ รายการทีวี ภาพยนตร์ การ์ตูน วงดนตรี ทีมกีฬา หรือเรื่องราววัฒนธรรมทั่วไป

วันนี้แฟนเพจหลายล้านเพจผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด บางเพจตลกโปกฮา บางเพจมีสาระประโยชน์ ขณะที่บางเพจแค่สร้างความรำคาญเท่านั้น ประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นคือหากใครเป็นผู้สร้างเพจที่ได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษและมี "แฟน" หรือมีผู้กด Like แสดงความชื่นชอบและติดตามหลายหมื่นคน เพจเหล่านี้ก็อาจทำเงินเข้ากระเป๋าเจ้าของเพจได้

ที่ผ่านมา เจ้าของเพจหลายคนพยายามโปรโมทแฟนเพจของตัวเองด้วยการสร้างสรรค์ชื่อเพจเก๋ไก๋เพื่อขอ Like จากผู้ใช้เฟซบุ๊ก ผู้ใช้เฟซบุ๊กบางรายในต่างประเทศตั้งชื่อเพจว่า “If you hate school, like this” เพื่อจี้จุดคนที่ไม่ชอบไปโรงเรียนให้ Like เพจนี้ หรือ “Omg Britney Spears burped on stage – help us get a million hits” ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยว่า "โอพระเจ้า บริทนีย์ สเปียร์ เค้า"เรอ"บนเวที -- ช่วยให้เราได้ Like ทะลุ 1 ล้านเถอะ"

ข้อมูลจาก FanPageCash.org บอกว่า 96% ของแฟนเพจเฟซบุ๊กทั้งหมดถูกสร้างโดยวัยรุ่นซึ่งเน้นหาเรื่องทำแก้เบื่อ จุดนี้ FanPageCash.org วิจารณ์ว่าแม้ข้อความส่วนใหญ่ในแฟนเพจจะไม่ได้สะท้อนเรื่องราวคุณภาพเหมือนการเขียนไดอารี่ออนไลน์หรือบล็อก แต่แฟนเพจของวัยรุ่นเหล่านี้สามารถแปลงเป็นเงินได้จริงๆ

บล็อกเกอร์นักเขียนออนไลน์ต่างชาติรายหนึ่งซึ่งเปลี่ยนไปสร้างแฟนเพจเพื่อจะได้สื่อสารกับผู้อ่านแบบเรียลไทม์เล่าว่าประสบความสำเร็จมากในการสร้างแฟนเพจ โดยแฟนมากกว่า 210,000 หลั่งไหลมากด Like เพจโดยที่ไม่มีการประชาสัมพันธ์ใดๆ กระแสร้อนแรงนี้ทำให้บล็อกเกอร์รายนี้ได้รับการติดต่อจากตัวแทนขายของ fanpagecash.org ซึ่งเป็นเว็บไซต์นายหน้าซื้อขายเว็บไซต์กระแสร้อนหรือ viral site broker และตัดสินใจขายแฟนเพจในที่สุด
ลักษณะการโพสต์ประกาศขาย Facebook Fanpages ในเมืองไทย
อัตราซื้อขายแฟนที่บล็อกเกอร์รายนึ้สรุปไว้จากการทำตลาดกับกลุ่ม FPC หรือ FanPageCash.org (ก่อตั้งเมื่อปี 2010) คือ 1 เหรียญสหรัฐต่อแฟนผู้ใช้เฟซบุ๊กในสหรัฐฯทุก 1,000 คน ซึ่งราคาต่อรองจะสามารถปรับเพิ่มขึ้นได้หากกิจกรรมและเพจมีความ “niche” หรือเป็นกลุ่มเฉพาะทาง กรณีของบล็อกเกอร์รายนี้สามารถทำเงิน 175 เหรียญสหรัฐเมื่อครั้งแฟนเพจยังมี 150,000 Fan หรือประมาณ 5,250 บาท

บล็อกเกอร์รายนี้บอกว่ายินดีมากที่สามารถขายแฟนเพจไป เพราะหากเก็บแฟนเพจนี้ไว้ ก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรเพิ่มเติม

***ซื้อไปทำไม?

ในเมื่อแฟนเพจทั้งหมดเป็นสมบัติของเฟซบุ๊ก ทำไมจึงมีคนยอมเสียเงินเพื่อซื้อเพจไก่กาอย่าง “OMG lady gaga is so ugly”? ซึ่งเอาแต่โพสต์เรื่องราวความแรงของสาวเลดี้กาก๊า


ในต่างประเทศ เจ้าของแฟนเพจหลายคนเลือกใช้บริการเว็บไซต์นายหน้าที่จะเป็นธุระจัดการหาแห่งซื้อขายแฟนที่ปลอดภัยต่อไป ขณะที่ในประเทศไทย เจ้าของแฟนเพจจำนวนไม่น้อยเลือกตั้งกระทู้เพื่อประกาศขายแฟนเพจให้แก่ผู้สนใจด้วยตัวเอง จากการประเมินเบื้องต้น แฟนเพจที่สามารถขายได้จะต้องมีแฟนไม่ต่ำกว่า 3,000

FPC ให้ข้อมูลว่ารูปแบบการซื้อขายแฟนเพจนั้นมี 2 ระดับ โดยผู้ที่ไม่ต้องการดูแลแฟนเพจนั้นต่อไปจะสามารถขายขาดเพื่อส่งมอบให้นักการตลาดหรือผู้สนใจอื่นมาดูแลเพจต่อทั้งหมด ขณะที่ผู้ที่ยังต้องการเก็บเพจไว้ ก็สามารถขายพื้นที่โพสต์สถานะหรือ status update ได้ ทั้งหมดนี้ FPC ระบุว่าเจ้าของเพจสามารถโพสต์ลิงก์แฟนเพจที่ต้องการจำหน่ายเพื่อให้ทีมงานเข้าไปตรวจสอบ ซึ่ง FPC จะซื้อแฟนแพจหรือกลุ่ม Facebook group จากทุกประเทศและทุกภาษา โดยไม่จำกัดประเภทว่าแฟนเพจนั้นจะเน้นเผยแพร่เนื้อหาตลกโปกฮา ก้าวร้าว หรือเนื้อหาที่ฝรั่งใช้คำว่า stupid

FPC ยืนยันว่าเหตุที่บริษัทตัดสินใจซื้อแฟนเพจเหล่านี้ เพราะต้องการนำแฟนเพจที่ซื้อมาไปช่วยเพิ่มทราฟฟิกหรือปริมาณการใช้เว็บไซต์ของลูกค้า เช่นอาจโพสต์ข่าวสารน่าสนใจซึ่งทำให้แฟนได้เห็นและคลิกไปอ่านข้อมูลเพิ่มที่บางเว็บไซต์ ซึ่งหากไม่สามารถจับคู่เพจที่มีกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ ก็จะนำแฟนเพจที่ได้มาไปขายต่อหรือ re-sell แก่บริษัทการตลาดรายอื่นต่อไป

***ขายแล้วเสี่ยง?

แม้จะเป็นกระบวนการที่สร้างรายได้จริง และไม่ใช่เรื่องล่อลวงผิดศีลธรรม แต่ความเสี่ยงจากการขายเพจนั้นมี ทั้งในแง่ความผิดทางกฎหมายและการถูกลงโทษโดยเฟซบุ๊กเอง รวมถึงความเสี่ยงในการหลงกลผู้หลอกลวง เนื่องจากในต่างประเทศ บางเว็บไซต์อ้างว่าพบกรณีเจ้าของแฟนเพจถูกล่อลวงจนทำให้เสียสิทธิการเป็นแอดมินระบบ และไม่ได้รับรายได้การขายแฟนเพจอย่างที่ตกลงไว้


ที่สำคัญคือ การขายและการซื้อเพจเฟซบุ๊กทุกประเภทนั้นจะถูกปราบปราม โดยจะผิด 2 ด้านทั้งกฎหมายและเงื่อนไขของเฟซบุ๊ก เรื่องนี้ “ไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ” ที่ปรึกษากฎหมาย สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ อธิบายว่าผลจากการขายแฟนเพจสามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่การถูกเฟซบุ๊กระงับบริการ และการถูกลงโทษตามกฏหมายลิขสิทธิ์

"เฟซบุ๊กนั้นเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์การทำงานทั้งระบบ และอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถใช้บริการได้แต่ไม่อนุญาตให้ขายเพื่อทำกำไร ดังนั้นคนที่ขายจะมีความผิดฐานละเมิดกฎหมายลิขสิทธิ์ ขณะเดียวกันก็จะผิดเงื่อนไขการให้บริการ ซึ่งเฟซบุ๊กมีสิทธิ์ที่จะระงับบริการเมื่อใดก็ได้ และมีสิทธิฟ้องเอาผิดเช่นกัน"

เงื่อนไขบริการที่เฟซบุ๊กกำหนดไว้ในส่วนที่ 4 ย่อหน้าที่ 9 ระบุชัดเจนว่าผู้ใช้ไม่สามารถส่งต่อบัญชีหรือ account รวมถึงเพจหรือแอปพลิเคชันที่ผู้ใช้รายนั้นเป็นผู้จัดการหรือ administer ให้กับผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร

ขณะเดียวกัน เจ้าของแฟนเพจที่ประกาศขายแฟนจำนวนหลายหมื่นหลายแสนคนอาจจะได้ชื่อว่าเป็นผู้ "ทรยศ" ผู้ใช้ที่ชื่นชอบเพจนี้อย่างจริงจังด้วย

ฟังแบบนี้แล้ว ใครอยากเสี่ยงก็คิดให้ดีก่อนนะจ้ะ
กำลังโหลดความคิดเห็น