xs
xsm
sm
md
lg

ฮิตาชิ ปรับตัวขายยกโซลูชันรับยุคคอนเวอร์เจนซ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มารุต มณีสถิตย์ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทยคนใหม่ บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ พีทีอี ลิมิเต็ด
ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ เปลี่ยนผู้จัดการประจำประเทศไทยคนใหม่พร้อมมองเรื่องบิ๊กดาต้าในประเทศไทยเป็นเรื่องที่ต้องการจัดการ เผยไทยกำลังเข้าสู่ยุคฮิวเมนต์ ดาต้า ที่คนมีการใช้งานทางด้านข้อมูลสูงจึงจำเป็นต้องได้ระบบหลังบ้านที่มีประสิทธิภาพ พร้อมปรับกลยุทธ์ทางการตลาดจากเดิมขายเป็นชิ้นมาเข้าสู่การคอนเวอร์เจนซ์ด้วยการรวมทุกอย่างแล้วนำเสนอเป็นโซลูชัน ส่วนด้านการขายได้พัฒนาเพิ่มคุณภาพบุคลากรด้านเซลล์อย่างเต็มที่

นายมารุต มณีสถิตย์ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทยคนใหม่ บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ พีทีอี ลิมิเต็ด กล่าวว่า ปัจจุบันมีการใช้ข้อมูลเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะข้อมูลทางด้านภาพและเสียง ซึ่งในช่วง 2-3 ปีก่อนหน้านี้ยังไม่ได้มีการใช้งานมากนัก แต่ปัจจุบันมีการใช้อีเมล์ เว็บ โซเซียลเน็ตเวิร์กเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้มีการใช้ข้อมูลเพิ่มขึ้นตามมาด้วย โดยสิ่งที่จะได้เห็นนับจากนี้คือการใช้งานทั้งภาพทางดาวเทียม วิดีโอ ออดิโอ เพิ่มมากขึ้นกว่าปัจจุบันทำให้บิ๊กดาต้ากลายเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมากขึ้น

ในขณะที่องค์กรส่วนใหญ่ยังคงทำการแบ็คอัพข้อมูลแบบไม่เป็นระบบมีลักษณะเป็นไซโล ซึ่งจะก่อให้เกิดการใช้งานที่ไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นฮิตาชิจะเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการและปกป้องข้อมูลให้เตรียมพร้อมรับมือกับการใช้งานคลาวด์คอมพิวติงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้บิ๊กดาต้าที่ฮิตาชิมองนั้นไม่ได้มองแค่สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นแต่มองไปถึงอนาคตที่จะเป็นเป็นการใช้ข้อมูลระหว่างแมชชีนกับแมชชีน ในขณะที่เมืองไทยกำลังอยู่ในยุคฮิวเมนต์ดาต้า ซึ่งเป็นยุคหนึ่งจาก 3 ยุคที่ประกอบไปด้วย บิสิเนสดาต้า ฮิวเมนต์ ดาต้า และแมชชีน ดาต้า

นายมารุต กล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์ในการทำตลาดในเมืองไทยนั้น ผลิตภัณฑ์ที่จะนำเสนอนั้นจะเป็นโซลูชันที่ไม่ได้เป็นผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดแบบเดี่ยวๆ อีกต่อไป ส่วนการทำตลาดก็จะมีความแตกต่างจากปีที่ผ่านมา โดยจะเน้นการขายโทเทิลโซลูชันด้วยการรวมเซิร์ฟเวอร์ สตอเรจแล้วทำเป็นโซลูชัน และจะเริ่มทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ระดับไฟนอลเทียร์หรือเอสไอมากขึ้น จากเดิมที่ทำกับเฟิร์สเทียร์หรือกลุ่มที่ซื้อมาขายไป

“สำหรับความแตกต่างจากคู่แข่งคือ แบรนด์อื่นๆ นั้น เซิร์ฟเวอร์ สตอเรจ และ เน็ตเวิร์ก จะมีเซลล์ดูแลผลิตภัณฑ์ละหนึ่งคน แต่สำหรับฮิตาชิแล้ว เซลล์คนเดียวจะดูทั้งหมด เพื่อให้เกิดการคอนเวอร์เจนต์แบบูรณาการโดยเซลล์คนหนึ่งเลือกทำโซลูชันได้ทั้งหมดเพื่อให้สามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างคล่องตัว ซึ่งนอกจากการนำทุกอย่างที่มีอยู่มาคอนเวอร์เจนท์กันแล้วฮิตาชิยังได้ทำปรับโครงสร้างของเซลล์สู่ลูกค้ามากขึ้น จัดระบบทีมงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อรับมือกับรูปแบบของการทำตลาดแบบใหม่”

นายมารุต กล่าวว่า ที่ผ่านมาฮิตาชิ ได้ทำการเปิดตัวซอฟต์แวร์ใหม่สำหรับการจัดการข้อมูลในโครงสร้างข้อมูล(Instance) แบบครบวงจร โดยออกมาเพื่อปกป้องและการจัดการข้อมูลขององค์กร โดยมี Hitachi Data Instance Manager (HDIM) ใหม่ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์อัจฉริยะที่ช่วยเชื่อมโยงและปรับใช้เนื้อหาข้อมูล (หรือสำเนา) ของโครงสร้างข้อมูลโดยเฉพาะตลอดทั้งวงจรชีวิตของข้อมูล การดำเนินการดังกล่าวจะช่วยให้องค์กรสามารถสร้างกลยุทธ์ในการปกป้องข้อมูลได้อย่างครอบคลุมและสอดคล้องกับการใช้งานที่เฉพาะเจาะจงรวมทั้งกรณีการใช้งานทางธุรกิจต่างๆ

แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ใหม่นี้จะช่วยเติมเต็มให้กับมุมมองของบริษัทในการสร้างผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่ครอบคลุมการผสานรวมเทคโนโลยีการทำซ้ำข้อมูล (Replication) โดยใช้แพลตฟอร์มระบบสำรองข้อมูล การจัดเก็บข้อมูลแบบถาวร (Archive) และการจัดเก็บข้อมูลในยุคปัจจุบันที่เป็นบิ๊กดาต้าเข้าไว้เป็นระบบเดียวกัน

Hitachi Data Instance Manager นับเป็นบริหารจัดการข้อมูลที่ครอบคลุมตั้งแต่แล็ปท็อปไปสู่การปกป้องข้อมูล และสำนักงานระยะไกลไปสู่ระบบคลาวด์ ด้วย HDIM ทำให้องค์กรต่างๆ สามารถปกป้องข้อมูลและใช้เทคโนโลยีการกู้คืนที่เหมาะสม ซึ่งจะนำไปสู่การสำรองข้อมูล การกำหนดเวอร์ชั่น การทำซ้ำข้อมูล (Replication) และการจัดเก็บข้อมูลแบบถาวร (Archive) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนกำจัดความซ้ำซ้อน และปกป้องข้อมูลอย่างต่อเนื่อง (CDP) ได้อย่างมีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น โดยทั้งปี 2556 นี้ ฮิตาชิ จะมุ่งพัฒนาชุดปรับปรุงที่จะช่วยเสริมขีดความสามารถด้านการปกป้องข้อมูลได้อย่างครบวงจร ครอบคลุมกลุ่มผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นของบริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ ทั้งหมด

Company Related Link :
HITACHI
กำลังโหลดความคิดเห็น