แซสจับมือเดลล์รุกตลาดการวิเคราะห์ข้อมูลในไทยเป็นประเทศแรก ด้วยการผนึกแซสวิชวลอะนาลิติกส์ เข้ากับเบลดเซิร์ฟเวอร์จากเดลล์ ช่วยให้การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่หรือบิ๊กดาต้าเป็นเรื่องง่าย รวดเร็ว แสดงผลได้ในระดับนาที ต่างจากอดีตที่ใช้เวลาเป็นวัน ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยลง พร้อมเจาะกลุ่มธนาคาร โทรคมนาคม ค้าปลีก โรงพยาบาล และอุตสาหกรรรม
นายทวีศักดิ์ แสงทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แซส ซอฟท์แวร์ (ไทยแลนด์) กล่าวว่า ไทยเป็นประเทศแรกในโลกที่แซสและเดลล์ได้ประกาศความร่วมมือกันเพื่อรุกตลาดการวิเคราะห์ข้อมูล โดยการประสานเทคโนโลยีบิสิเนส อะนาลิติกส์ (business analytics) หรือการวิเคราะห์ข้อมูลของแซสกับระบบคอมพิวเตอร์ของเดลล์ พร้อมทั้งทำตลาดร่วมกัน หลังจากบริษัทแม่ของทั้งสองบริษัทได้มีการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกันมาระยะหนึ่ง
องค์กรธุรกิจในปัจจุบันมีการเก็บรวบรวมข้อมูลไว้เป็นจำนวนมาก ทำให้โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ไม่สามารถรองรับความต้องการของผู้ใช้ในการวิเคราะห์ที่รวดเร็วต่อปริมาณข้อมูลที่มีจำนวนมหาศาลในเวลาหนึ่งได้ ในขณะที่ฝ่ายไอทีต้องรับภาระเพิ่มขึ้นกับความต้องการข้อมูลที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น แซสจึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ แซสวิชวลอะนาลิติกส์ (SAS Visual Analytics) ที่เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดในกลุ่มแซสไฮเพอร์ฟอร์เมนซ์อะนาลิติกส์ (SAS High-Performance Analytics) เพื่อวิเคราะห์และแสดงผลข้อมูลขนาดใหญ่หรือบิ๊กดาต้าในเชิงลึกแบบกราฟิกได้อย่างรวดเร็วแบบเรียลไทม์กับทุกคนได้ในทุกที่
แซสวิชวลอะนาลิติกส์เป็นสถาปัตยกรรมที่คำนวณผลในลักษณะของ In-Memory Analytics ช่วยให้ผู้ใช้เรียกดูข้อมูลได้ง่ายดาย โดยสามารถใช้งานกับเบลดเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่องค์กรจะเสียค่าใช้จ่ายที่น้อยลง
นายอโณทัย เวทยากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) และผู้จัดการทั่วไปภาคพื้นอินโดจีน กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในโลกที่เดลล์และแซสจับมือร่วมกันในด้านการจัดการ Big Data ด้วยเทคโนโลยี Visual Analytic ของแซสบนแพลตฟอร์มของเดลล์จะช่วยให้การประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ทำได้อย่างรวดเร็ว โดยเร็วกว่าก่อนหน้านี้ที่ต้องใช้เวลาเป็นวันเหลือเพียงเป็นนาที และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
จากข้อมูลของบริษัทวิจัย ตลาดการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลในปี 2553 มีมูลค่าประมาณ 3.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ มีการคาดการณ์กันว่าในปี 2558 มูลค่าตลาดจัดเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลจะพุ่งขึ้นไปที่ 16.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งคิดเป็นอัตราการเติบโต 40% ซึ่งเป็นผลจากการใช้งานใน 3 ส่วนหลัก คือ การบริโภคไอที (IT Consumerization) ที่เพิ่มขึ้น การใช้คลาวด์คอมพิวติ้ง และโซเชียลมีเดียที่เพิ่มขึ้น
นายอโณทัยกล่าวว่า ถ้าน้ำมันคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในศตวรรษที่ 20 ข้อมูล (Data) คือสิ่งที่มีสำคัญมากที่สุดในศตวรรษที่ 21 เช่นกัน ด้วยอัตราการขยายตัวของข้อมูลที่เพิ่มสูงขึ้น องค์กร และหน่วยงานที่มีฐานข้อมูลขนาดใหญ่สามารถวิเคราะห์ และวางแผนงานในเชิงธุรกิจได้สอดคล้อง และตอบสนองต่อการเติบโตได้ดีมากขึ้นด้วยการใช้งบประมาณที่ลดลง ขณะเดียวกันยังสามารถวิเคราะห์ และคาดการณ์แนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย
ปรัชญาในการดำเนินงานของเดลล์ คือการนำเสนอโซลูชันแบบครบวงจร ประกอบด้วย เซิร์ฟเวอร์ สตอเรจ ระบบเครือข่าย และการบริการ ซึ่งจะช่วยให้การติดตั้งระบบทำได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว รวมถึงความร่วมมือกับพันธมิตรซอฟต์แวร์รายต่างๆ อย่างกรณีความร่วมมือกับแซส ซอฟท์แวร์ (ไทยแลนด์) จะทำให้การวิเคราะห์ข้อมูลระดับสูงรู้ข้อมูลได้แบบเรียลไทม์
Company Related Link :
SAS
Dell