เอชพีส่ง 2 โซลูชันสตอเรจใหม่เข้าตลาดไทย คุยตอบสนององค์กรที่ก้าวลู่โลกเวอร์ช่วลไลเซชันได้ทั้งความคุ้มค่าและประสิทธิภาพ เชื่อตลาดโต 15% ต่อปี
นายคริส เดย์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายผลิตภัณฑ์ 3PAR หน่วยธุรกิจเอชพีสตอเรจ บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น กล่าวว่า จากการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้งานเซิร์ฟเวอร์ในองค์กรตั้งแต่ขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ที่เริ่มเข้าสู่การเป็นเวอร์ชวลไลเซชัน, มีการเปลี่ยนแนวคิดโครงสร้างพื้นฐานระบบไอทีมาเป็นลักษณะของ IT-as-a-Service รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีคลาวด์ ตลอดจนเรื่องบิ๊กดาต้าที่องค์กรต่างนำข้อมูลต่างๆ มาทำการวิเคราะห์กันมากขึ้นเรื่อยๆ
ส่งผลให้สตอเรจในองค์กรจำเป็นที่จะต้องตอบรับกับความต้องการการทำงานที่เป็นเวอร์ชวลไลเซชันรวมถึงคลาวด์ที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ซึ่งระบบสตอเรจแบบเดิมๆ เป็นระบบที่มีความซับซ้อน ขาดความยืดหยุ่นและราคาที่สูงเกินไป เอชพีจึงได้เปิดโปรแกรมที่เรียกว่า HP Get Virtual Guarantee ที่จะเข้ามาช่วยในการวิเคราะห์และนำเสนอโซลูชันสตอเรจ 3PAR ในการทำเวอร์ชวลไลเซชันเซิร์ฟเวอร์บนสภาพแวดล้อมแบบวีเอ็มแวร์เพื่อให้ได้ ทั้งประสิทธิภาพและคุ้มค่าในการลงทุน
“HP Get Virtual Guarantee เป็นโปรแกรมแรกในวงการไอทีที่การันตีให้กับลูกค้าว่าสามารถเพิ่มสมรรถนะในการทำงานเวอร์ชวลแมชชีนบนเซิร์ฟเวอร์ปกติได้ถึง 2 เท่า ซึ่งช่วยลดต้นทุนในการทำเวอร์ช่วล์แมชชีนที่เป็นเวอร์ชวลไลเซชันได้ถึง 50%”
นายสุรชัย อรรถมงคลชัย ผู้จัดการธุรกิจ เอชพีสตอเรจ กลุ่มธุรกิจเอนเตอร์ไพรซ์ กล่าวว่า เอชพียังได้เปิดตัว 3PAR P10000 ซึ่งเป็นสตอเรจในระดับเอนเตอร์ไพรซ์ที่รองรับการทำงานสตอเรจแบบ SSD (Solid State Drive) ได้สูงสุด 512 ตัวต่อ 1 ชุด และยังสามารถทำสตอเรจรูปแบบอื่นได้ด้วย ทำให้เหมาะกับองค์กรขนาดกลางที่มีการใช้งานสตอเรจตั้งแต่ 10 เทราไบต์ขึ้นไป และต้องการแก้ปัญหาสมรรถนะการทำงานของแอปพลิเคชันต่างๆ รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่
“องค์กรในประเทศไทยเริ่มหันมาใช้งานเวอร์ชวลเซิร์ฟเวอร์มากขึ้นจากข้อมูลของไอดีซีประเมินว่า มีการเติบโตประมาณ 15% ต่อปี และเชื่อว่าปีหน้าคลาวด์ก็จะเติบโตเหมือนกับเวอร์ช่วลไลเซชันในเวลานี้”
ทั้งนี้ ตลาดโทรคมนาคม กลุ่มธุรกิจที่เป็นเซอร์วิสโพรวายเดอร์ ธนาคาร และโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ เริ่มก้าวเข้าสู่เวอร์ชวลเซิร์ฟเวอร์กันหมดแล้ว จากนวัตกรรม HP connect Storage ที่เอชพีเปิดตัวไปเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งสามารถช่วยลดช่องว่างระหว่างผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูลกับระบบโครงสร้าพื้นฐานทางด้านไอทีในองค์กร โดยเฉพาะเรื่องของเวอร์ชวลไลเซชัน คลาวด์ รวมถึงการจัดการบิ๊กดาต้าที่สามารถปรับขยายได้โดยอัตโนมัติ น่าจะเป็นโซลูชันสตอเรจที่ตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวได้เป็นอย่างดี
Company Related Link :
HP
