ไมโครซอฟท์เปิดตัวกรรมการผู้จัดการคนใหม่อย่างเป็นทางการ เผยอดีตเป็นลูกหม้อร่วมงานกับไมโครซอฟท์นานกว่า 15 ปี เปิดแผนการบุกตลาดไทยจะเน้น people-centric เน้นให้ความสำคัญต่อลูกค้า มุ่งตอบสนองความต้องการด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย สอดคล้องกับนโยบายบริษัทที่จะก้าวเข้าสู่บริษัทที่ให้บริการ devices and services นำเสนอเทคโนโลยีที่สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายฮาเรซ คูบจันดานิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การเข้ามาทำงานในประเทศไทยนั้นถือเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก ทั้งการเรียนรู้ทางด้านวัฒนธรรมชีวิตความเป็นอยู่ และการทำงานร่วมกับคนไทย โดยการเข้าถึงตลาดไทยนับจากนี้จะเน้น people-centric โดยให้ความสำคัญต่อลูกค้ามากขึ้น ให้ลูกค้าสามารถใช้ผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ของไมโครซอฟท์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบสนองการใช้งานทั้งการใช้งานส่วนตัวและการทำงาน โดยการเริ่มงานในเบื้องต้นนั้นจะทำการเรียนรู้และศึกษาถึงปัญหาและโอกาสในการทำตลาดในเมืองไทย นอกจากนี้จะดูว่ามีผลิตภัณฑ์ใดที่เหมาะสมต่อการใช้งานเพื่อนำมาเสนอต่อตลาดในอนาคตอันใกล้ต่อไป
“แนวคิด “people-centric” พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อผู้ใช้อย่างดีที่สุด ขยายจากคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล มาสู่เว็บ สู่โลกของอุปกรณ์ และคลาวด์คอมพิวติ้ง ผ่านอุปกรณ์ไอทีที่ทันสมัยบนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 หรือมือถือบนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ โฟน 8 ที่ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก เนื่องจากช่วยทำให้การทำงานไม่มีข้อจำกัด ที่ผ่านมามีผู้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของวินโดวน์ 8 ไปใช้งานแล้วกว่า 100 ล้านดาวน์โหลด”
ประกอบกับไมโครซอฟท์กำลังก้าวเข้าสู่บริษัทที่ให้บริการสำหรับอุปกรณ์และด้านบริการ (devices and services) ที่จะเป็นส่วนช่วยให้ผู้คนมีการเชื่อมโยงถึงกันมากขึ้น มีการเคลื่อนที่ และเรียนรู้เทคโนโลยีที่สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน และด้วยการเชื่อมโยงถึงกันนี้เองทำให้ไมโครซอฟท์มองว่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่จะให้ความสำคัญต่ออุปกรณ์และบริการด้วยการจัดหาซอฟต์แวร์เพื่อมารองรับมากขึ้น โดยแนวคิดนี้ได้ขยายไปยังกลุ่มผู้บริโภคและบริการด้านธุรกิจอีกด้วย
นายฮาเรซกล่าวว่า ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าไมโครซอฟท์ได้มีการลงทุนไปกับการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ในแต่ละปีสูงถึง 10,000 ล้านบาท อีกทั้งยังสร้างและเปิดโอกาสให้นักพัฒนาหน้าใหม่ รวมถึงพัฒนาโซลูชันสำหรับอุปกรณ์ที่หลากหลายที่เชื่อมต่อกับคลาวด์คอมพิวติ้งเพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้แก่ลูกค้า สำหรับประเทศไทยนั้นไมโครซอฟท์ดำเนินธุรกิจมากว่า 20 ปีแล้ว และมีความร่วมมือที่หลากหลายกับพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ คู่ค้า ลูกค้า เอ็นจีโอ หรือองค์กรต่างๆ มุ่งมั่นที่จะนำสิ่งที่ดีสู่สังคมไทย ภายใต้วิสัยทัศน์ “We Make 70 Million Lives Better” มุ่งเน้นการให้ความรู้ถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีและการเข้าถึงเทคโนโลยีเพื่อสร้างโอกาสที่ดีกว่า
“ตลอดระยะเวลาของการดำเนินธุรกิจในเมืองไทยที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์ในการฝึกอบรมด้าน e-Leaning ให้แก่นักเรียนทั่วประเทศไทยไปแล้วกว่า 8 ล้านคน และอาจารย์อีก 1.4 ล้านคน เพื่อเป็นการสร้างความรู้และประสบการณ์การใช้งานไอทีในรูปแบบใหม่ๆ และนับจากนี้ ด้วยการก้าวเข้าสู่ยุคอุปกรณ์และบริการ (Devices and Services Era) ไมโครซอฟท์จะให้การสนับสนุนพันธมิตรและระบบอีโคซิสเต็มในประเทศไทยในการขยายธุรกิจให้กว้างมากขึ้นด้วยโปรแกรมการฝึกอบรมและบริการอย่างไม่เคยมีมาก่อน”
นายฮาเรซกล่าวว่า สำหรับการทำงานของพันธมิตรคู่ค้านั้น จะมุ่งแนวคิด partner-centric ที่จะช่วยให้คู่ค้าสามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องมือและแพลตฟอร์มที่เปิดกว้างของไมโครซอฟท์เพื่อให้พวกเขาได้พัฒนาธุรกิจจนประสบความสำเร็จ โดยปัจจุบันไมโครซอฟท์มีบริษัทพันธมิตรมากกว่า 640,000 รายทั่วโลก ส่วนเครือข่ายพันธมิตรคู่ค้าของไมโครซอฟท์ในประเทศไทยมีจำนวนทั้งสิ้น 1,140 ราย ซึ่งผลการศึกษาล่าสุดพบว่าทุก 1 เหรียญสหรัฐที่ไมโครซอฟท์สร้างรายได้ไมโครซอฟท์สามารถช่วยให้พันธมิตรนำไปสร้างรายได้ต่อได้มากกว่า 8 เหรียญสหรัฐ
นายฮาเรซเข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการคนใหม่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) เมื่อช่วงปลายปี 2555 โดยที่ผ่านมาได้ร่วมงานกับไมโครซอฟท์มาเป็นเวลานานกว่า 15 ปี ก่อนหน้านี้เคยดำรงตำแหน่งประธานฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ไมโครซอฟท์ ประเทศอินโดนีเซีย เขาสามารถสร้างการเติบโตให้ไมโครซอฟท์ อินโดนีเซีย สูงถึง 30% นอกจากนี้ยังเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารของไมโครซอฟท์ในหลายประเทศ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย และสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
Company Relate Link :
Microsoft