เดลล์ปรับกลยุทธ์โน้ตบุ๊กคอนซูเมอร์

เดลล์โหมตลาดโน้ตบุ๊กคอนซูเมอร์ เพิ่มดีกรีความเข้มข้นกลยุทธ์การตลาดทุกด้าน สร้างทีมงานระดับมือโปร เพิ่มโปรแกรมการตลาดให้พาร์ตเนอร์และรีเฟรช Sub Brand Identity ระบุตลาดไทยดีกว่าตลาดต่างประเทศ เชื่อสิ้นปีมีส่วนแบ่งตลาดติด 1 ใน 5

นายอโณทัย เวทยากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดโน้ตบุ๊กในกลุ่มคอนซูเมอร์ปีนี้ยังถือว่าดีกว่าที่คาดไว้ โดยมีขนาดตลาดอยู่ที่ 2 ล้านกว่าเครื่อง มีอัตราการเติบโตไม่ถึง 10% ซึ่งเป็นผลกระทบจากกำลังซื้อในช่วงกลางปีที่ผ่านมาลดลง แต่กำลังซื้อเริ่มกลับมาในช่วงครึ่งปีหลังครอบคลุมกับกำลังซื้อที่หายไป ขณะที่ยอดขายในส่วนของโน้ตบุ๊กคอนซูเมอร์ของเดลล์เชื่อว่ามีอัตราการเติบโตในระดับเลขตัวเดียวเช่นกัน แต่ก็ถือว่ายอมรับได้ ดีกว่าในตลาดต่างประเทศที่อัตราการเติบโตลดลง

“ปัจจุบันเดลล์ถือเป็นผู้นำตลาดในส่วนโน้ตบุ๊กคอนซูเมอร์ที่มีระดับราคา 22,000 บาทขึ้นไป โดยมีส่วนแบ่งตลาดกว่า 20% ในขณะที่ตลาดล่างราคาหมื่นกว่าบาท ทางเดลล์ไม่ได้เน้นทำตลาดในส่วนนี้มากนัก โดยเชื่อว่า ปีนี้เดลล์น่าจะมีส่วนแบ่งตลาดติด 1 ใน 5”

นายธเนศ อังคศิริสรรพ ผู้จัดการทั่วไป เดลล์ กล่าวว่า เพื่อเป็นการตอกย้ำกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจโน้ตบุ๊กส่วนของคอนซูเมอร์ในประเทศไทย เดลล์จึงได้มีการรีเฟรชกลยุทธ์ใหม่ เริ่มตั้งแต่การปรับทีมงานขายของเดลล์ด้วยการฝึกอบรมให้มีความเชี่ยวชาญในการแนะนำสินค้าให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าเพิ่มขึ้น ขณะที่ในส่วนของบิสิเนสพาร์ตเนอร์ก็จะมีการนำโปรแกรมส่งเสริมการขายในส่วนของช่องทางการขายเดลล์พาร์ตเนอร์โปรแกรมมาใช้ตั้งแต่เดือน พ.ย.ที่จะถึงนี้

“เดลล์พาร์ตเนอร์โปรแกรมเป็นกิจกรรมส่งเสริมการขายที่เดลล์ทำกับรีเซลเลอร์โดยตรงเพื่อกระตุ้นให้ตลาดมีความคึกคัก โดยที่เวลานี้เดลล์มีรีเซลเลอร์อยู่ทั่วประเทศประมาณ 470 ราย”

ขณะที่กิจกรรมการตลาดในส่วนของคอนซูเมอร์นั้น เดลล์ได้มีการรีเฟรช Sub Brand Identity ใหม่เพื่อสร้างความชัดเจนให้แก่กลุ่มเป้าหมายให้ทราบถึงรายละเอียดและสไตล์ของสินค้าในแต่ละซับแบรนด์ โดยมีการนำเซเลบมาเป็นตัวแทนให้แก่ซับแบรนด์นั้นๆ อย่างซับแบรนด์ XPS ใช้ท็อป ณัฐเศรษฐ์ พูนทรัพย์มณี ซับแบรนด Vostro จะเป็นกรณ์ ณรงค์เดช และซับแบรนด์ Inspiron จะเป็นพลอย หอวัง

“เวลานี้ยอดขายโน้ตบุ๊กในตลาดคอนซูเมอร์ของเดลล์นั้นมาจากโน้ตบุ๊ก Inspiron ประมาณ 50% Vostro ประมาณ 40% ที่เหลือมาจากโน้ตบุ๊ก XPS แต่เชื่อว่าโอกาสการขายของ XPS ในอนาคตน่าจะสามารถเพิ่มเป็น 15-20% ได้”