เอชพี ขอเป็นผู้นำตลาดเน็กซ์ เจนเนอเรชัน ซิเคียวริตี้ ในตลาดองค์กรภายใน 2 ปี หลังตั้งกลุ่มธุรกิจใหม่ พร้อมนำเสนอโทเทิ่ลซิเคียวริตี้ส ร้างระบบซิเคียวริตี้องค์รวม หลังเห็นช่องโหว่หน่วยงานไอทีขององค์กรที่เน้นเฉพาะส่วน
นายหว่อง ลก เยา ผู้อำนวยการด้านการตลาดหน่วยธุรกิจ เอชพี เอนเตอร์ไพรซ์ ซิเคียวริตี้ ประจำภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกและญี่ปุ่น บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้จัดตั้งหน่วยธุรกิจใหม่ ที่เรียกว่า เอชพี เอนเตอร์ไพรซ์ ซิเคียวริตี้ขึ้นมา เพื่อดูแลการทำตลาดซิเคียวริตี้ด้านลูกค้าองค์กร ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตั้งแต่เดือน พ.ย.ปีที่แล้ว และประเทศไทยเป็นตลาดหนึ่งที่เอชพีให้ความสำคัญมาก และมีการลงทุนในส่วนของทีมที่จะขยายตลาดนี้ในประเทศไทยค่อนข้างสูง หลังจากที่แนวโน้มของตลาดซิเคียวริตี้เริ่มเปลี่ยนไป จากที่เน้นตอบสนองการใช้เป็นส่วนๆ แยกจากกัน เช่น หน่วยงานด้านระบบรักษาความปลอดภัยส่วนหนึ่ง กับหน่วยงานด้านไอทีอีกส่วนหนึ่ง ทำให้เกิดช่องว่างการเชื่อมโยงการทำงานกับหน่วยงานทั้งสองเกิดขึ้น
แต่วันนี้ความต้องการขององค์กรต่างเริ่มมองหาโซลูชันที่สามารถบริหารจัดการ และจัดลำดับความเสี่ยงรูปแบบต่างๆ ได้ทั่วทั้งระบบไอทีขององค์กรมากขึ้น
ทั้งนี้ ไอดีซี ประเมินว่า ความต้องการของโซลูชันด้านซิเคียวริตี้ปีนี้จะเติบโตประมาณ 20% ซึ่งเอชพีถึงแม้จะเพิ่งเริ่มเข้ามาเน้นการทำตลาดซิเคียวริตี้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่สำหรับตลาดโซลูชันซิเคียวริตี้ยุคต่อไป ซึ่งมองเรื่องของโทเทิ่ลโซลูชันนั้น ทางเอชพีตั้งเป้าหมายไว้ ว่า จะเป็นผู้นำในตลาดนี้ เนื่องจากตลาดนี้ยังเป็นตลาดใหม่ที่ยังไม่มีใครเป็นผู้นำตลาด ต่างจากตลาดซิเคียวริตี้ก่อนหน้านี้ ที่รวมซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสทั้งตลาดองค์กรและผู้ใช้ตามบ้านเข้าไปด้วย ซึ่ง เอชพี ถือว่า ห่างไกลจากตลาดนี้มาก
แต่หลังจากที่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทางเอชพีได้มีการซื้อกิจการทางด้านซิเคียวริตี้เข้ามาเสริมจำนวนมาก อาทิ บริษัท ArcSight บริษัท Fortify และที่สำคัญการเข้าซื้อกิจการของเอชพี ถือว่า แตกต่างจากการซื้อกิจการของบริษัทอื่นๆ ตรงที่ว่า เอชพี ยังคงเดินหน้าวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นจุดแข็งของบริษัทเหล่านั้น ทั้งในส่วนของฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ มาอินทิเกรตเข้าด้วยกัน ทำให้เอชพีสามารถเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ๆ ออกสู่ตลาดมากกว่า 35 นวัตกรรม ซึ่งทำให้เอชพีสามารถก้าวกระโดดเข้ามามีส่วนแบ่งในตลาดซิเคียวริตี้เป็นอันดับที่ 5
“ภายใน 1-2 ปีนี้ เอชพี เชื่อว่า จะเป็นผู้นำในตลาดเน็กซ์ เจนเนอเรชัน ซิเคียวริตี้ โซลูชันสำหรับตลาดเอนเตอร์ไพรซ์ได้อย่างแน่นอน”
ส่วนกลยุทธ์การเข้าสู่ตลาดนั้น เอชพี ได้คัดเลือกบริษัทชั้นนำทั่วโลก 2,000 บริษัท ที่มีการลงทุนในเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยในแต่ละปีจำนวนมากอยู่แล้ว เพื่อเป็นบริษัทเป้าหมายที่เอชพีจะเข้านำเสนอแพลตฟอร์มด้านซิเคียวริตี้ในแบบโทเทิ่ลโซลูชัน ที่เอชพี เรียกว่า HP Security Intelligence and Risk Management หรือ SIRM ที่จะเข้ามาช่วยอุดช่องว่างระหว่างระบบรักษาความปลอดภัยกับระบบไอที ช่วยทำให้องค์กรสามารถดำเนินงานพัฒนาระบบไอทีได้ล้ำหน้ากว่ารูปแบบเดิมที่เน้นกลยุทธ์มุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อวัตถุประสงค์เดียว
“เฉพาะบริษัทในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกมีประมาณ 320 บริษัท ซึ่งเอชพีจะส่งทีมงานเข้าไปดูแลในตลาดดังกล่าว ส่วนตลาดองค์กรขนาดกลางและเล็กนั้น ก็จะเน้นการทำตลาดผ่านโมเดล เอชพีวัน ที่เป็นการทำตลาดผ่านพาร์ทเนอร์ ซึ่งจะมีการประกาศกลยุทธ์นี้ในส่วนของเอนเตอร์ไพรซ์ ซีเคียวริตี้ประมาณกลางปีนี้”
เอชพี ยังได้เปิดตัว 3 โซลูชันใหม่ในส่วนของแพลตฟอร์ม SIRM ที่จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ประกอบไปด้วย 1.โซลูชัน HP enterpriseView เครื่องมือที่จะช่วยให้ผู้บริหารระดับสูงมีข้อมูลรายงาน และภาพรวมของระบบการทำงานต่างๆ ด้านระบบรักษาความปลอดภัยและระบบไอทีทั้งองค์กร ซึ่งทำให้สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องความปลอดภัยของระบบในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2.โซลูชัน Cloud Security ซึ่งจะทำให้องค์กรสามารถควบคุมและบริหารจัดการระบบรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ได้เหมือนกับระบบไอทีในองค์กร และ 3.โซลูชัน Mobile Security ที่จะทำให้องค์กรสามารถยกระดับแอปพลิเคชันด้านการรักษาความปลอดภัยไปยังอุปกรณ์เคลื่อนที่ต่างๆ ของพนักงานในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Company Related Link :
HP