xs
xsm
sm
md
lg

แอลจี พาวิลเลียน ประสบการณ์ 3D+Smart

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เปิดฉากแล้วสำหรับ งานบีโอไอแฟร์ 2011 ที่ทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ ที่ปีนี้เลื่อนการจัดงานมาเป็นวันที่ 5-20 มกราคม 2555 แทน เนื่องจากช่วงปลายปีประเทศไทยประสบภัยพิบัติน้ำท่วมครั้งใหญ่ แต่สถานที่จัดงานยังคงเดิมที่ “อิมแพ็ค เมืองทองธานี”

งานนี้ทางบีโอไอระบุว่า เป็นงานแสดงนิทรรศการอุตสาหกรรมที่ใหญ่สุดในภูมิภาคอาเซียน ที่ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมแต่ละราย ได้มีการนำเสนอเทคโนโลยีในอนาคตเพื่อแสดงศักยภาพของอุตสาหกรรมไทย โดยมีทั้งภาครัฐและเอกชนที่เข้าร่วมกันลงทุนก่อสร้างพาวิลเลียนถึง 42 พาวิลเลียน รวมๆ มูลค่าการลงทุน 2,000 ล้านบาท ในพื้นที่จัดแสดงทั้งหมด กว่า 240,000 ตารางเมตร

ทางทีมงาน Cyber Biz ได้มีโอกาสแวะชมเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ของค่าย “แอลจี” ยักษ์ใหญ่ในวงการเครื่องใช้ไฟฟ้าจากแดนกิมจิ โดยทางบริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เนรมิตแอลจี พาวิลเลียนบนเนื้อที่กว่า 1,000 ตารางเมตร ภายใต้แนวคิด “Smilenovation” หรือ “สไมล์โนเวชัน”

ภายในแอลจี พาวิลเลียน แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 โซนหลัก เพื่อให้ทุกคนที่เข้าชมได้สัมผัสและทดลองนวัตกรรมจากผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของแอลจี ในประสบการณ์ที่แตกต่าง โซนแรก เรียกว่า โซน 'Smart Technology' นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีอันชาญฉลาด หรือ สมาร์ท ทั้งในกลุ่มโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์และกลุ่มโทรศัพท์มือถือ โซนที่ 2 เรียกว่า โซน 'Innovative Green Living' เป็นโซนที่รวมนวัตกรรมในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเพื่อสุขภาพ รวมทั้งเครื่องปรับอากาศและโซลูชันด้านพลังงาน

“แอลจีภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนนำเสนอนวัตกรรมระดับโลกเป็นครั้งแรกในเอเชีย ให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดก่อนใคร ซึ่งสะท้อนถึงพันธกิจที่ทางแอลจีให้ความสำคัญ ในเรื่องขจองการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมเทคโนโลยีอันชาญฉลาด เพื่อมอบความสุขและความสะดวกสบายในการใช้งาน และความมุ่งมั่นในการเติมเต็มความสุขและสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้บริโภคชาวไทยอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง” นายธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

ทางแอลจีได้ออกแบบ แอลจี พาวิลเลียน โดยเน้นที่การผสมผสานความทันสมัย และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งผู้เข้าร่วมงานจะได้มีส่วนร่วมทดลองและสัมผัสประสบการณ์กับผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีได้อย่างใกล้ชิดแบบอินเตอร์แอกทีฟ โดยทางแอลจีหวังที่จะสร้างความประทับใจ และมอบรอยยิ้มและความสุขให้แก่ผู้ที่เข้ามายัง แอลจี สไมล์โนเวชั่น พาวิลเลียนนี้

เริ่มมาสำรวจนวัตกรรมภายในแอลจี พาวิลเลียนกันเลย ภายหลังจากที่เดินเข้ามาในพาวิลเลียนก็จะพบกับจุดที่ลงทะเบียนเพื่อลุ้นรับรางวัล อาทิ LG CINEMA 3D ทีวี โทรศัพท์มือถือ LG Optimus 3D ถัดจากจุดลงทะเบียนก็จะเดินเข้าสู่ถ้ำเทคโนโลยี 3D ของแอลจี ถัดเข้ามาก็จะพบกับโซน Smart Technology ที่รวมผลิตภัณฑ์ที่สมาร์ทๆ ทั้งในกลุ่มโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์และโทรศัพท์มือถือ โดยมีสินค้า 3D ที่หลากหลายให้ทดลองสัมผัสด้วยตนเอง

ความเท่ห์ 3 มิติของแอลจี น่าจะเป็นเรื่องของการใส่แว่นตา 3 มิติที่ดูธรรมดามากๆ แต่สามารถดูภาพ 3 มิติได้จากทุกอุปกรณ์ที่ทางแอลจีนำมาโชว์ โดยไม่ต้องเปลี่ยนแว่นเหมือนค่ายอื่น

ผลิตภัณฑ์เด่นๆ ของโซนนี้ ประกอบไปด้วย LG Pentouch TV เป็นนวัตกรรมแห่งพลาสม่าทีวีระบบสัมผัสที่มาพร้อมปากกาชนิดพิเศษที่ควบคุม ทุกฟังก์ชั่นการทำงานบนหน้าจออย่างสะดวกสบายเสมือนการใช้งานพีซีและอินเทอร์เน็ต มาพร้อมโหมด Pentouch ที่สั่งการได้อย่างสะดวกด้วยรีโมทคอนโทรล และมีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย เปิดไฟล์ได้หลายประเภท เช่น พาวเวอร์พอยท์ หรือคอนเทนต์ต่างๆ จากเครื่องพีซี และแก้ไขข้อมูลหรือเคลื่อนย้ายหน้าต่างการทำงานได้อย่างอิสระ มาพร้อมแอปพลิเคชันที่หลากหลาย สามารถวาดภาพบนหน้าจอแล้วบันทึกไฟล์เพื่อตกแต่งหรือเพิ่มเติมเอฟเฟ็กต์ในภายหลัง หรือสั่งพิมพ์ไปยังพรินเตอร์ได้ทันที และยังเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเพื่อดาวน์โหลดแอพพลิเคชันเพิ่มเติมได้ในอนาคต แถมยังประหยัดพลังงานด้วยฟีเจอร์ที่เรียกว่า Smart Energy Saving

LG Pentouch TV มีวางจำหน่ายแล้ว สำหรับจอขนาด 50 นิ้ว ราคา 47,990 บาท และ 60 นิ้ว ราคา 84,990 บาท

ถัดมา คือ LG Optimus LTE มือถือ 4G หรือเครือข่ายที่เรียกว่า LTE ตัวแรกของแอลจีที่เพิ่งเปิดตัวไปที่เกาหลีเมื่อไม่นานมานี้ ทางแอลจีส่งตรงมายังแอลจี พาวิลเลียนเป็นครั้งแรก ซึ่งทางแอลจีระบุว่า เป็นการกำหนดมาตรฐานใหม่ของวงการด้วย LG Optimus LTE สมาร์ทโฟน 4G รุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมจอภาพ IPS ขนาด 4.5 นิ้ว ให้ความละเอียดระดับ True HD ให้ภาพคมชัด สีสันสวยสดใส รองรับการชมคอนเทนต์ได้อย่างสมบูรณ์แบบในทุกที่ เรียกว่ามอบขีดสุดแห่งความคมชัดด้วยความละเอียดที่ 1280 x 720 HD ให้ภาพสมจริงไม่ผิดเพี้ยนด้วยสัดส่วนหน้าจอ 16:9 แบบเดียวกับจอทีวี สมาร์ทโฟนตัวนี้สามารถปรับสีสันของภาพอัตโนมัติด้วยฟังก์ชั่น Mobile HD Graphic Engine

ส่วนสเปกของ LG Optimus LTE นั้นในส่วนของซีพียูเป็นแบบ ดูอัลคอร์ ความเร็ว 1.5 GHz แบตเตอรี่ 1830 mAh หน่วยความจำ 20GB (ภายใน 4GB และรองรับไมโครเอสดีได้ถึง 16GB แรม 1GB กล้องหลังมาที่ความละเอียด 8 ล้านพิเซลแบบออโต้โฟกัส พร้อมแฟลช LED ส่วนกล้องหน้าใส่มาที่ความละเอียด 1.3 ล้านพิเซล

LG Optimus LTE มีวางจำหน่ายแล้วในเกาหลีและญี่ปุ่น แต่ยังไม่มีกำหนดวางจำหน่ายในไทย

ถัดมา เป็นจอมอนิเตอร์ LG D2000 เป็นจอมอนิเตอร์ตัวแรกที่สามารถชมภาพ 3 มิติได้ด้วยตาเปล่า และเป็นรุ่นแรกของโลกที่มีเทคโนโลยีจับตำแหน่งของดวงตา (eye-tracking) เพื่อนำเสนอภาพสามมิติที่สมบูรณ์แบบ สำหรับหลากหลายมุมมอง

เทคโนโลยี Eye tracking ในมอนิเตอร์ D2000 จะจับตำแหน่งดวงตาของผู้ใช้ในแบบเรียลไทม์ด้วยกล้องชนิดพิเศษที่ติดตั้งมากับจอภาพ เพื่อคำนวณองศาและตำแหน่งของผู้ใช้ แล้วปรับเอฟเฟกต์ภาพ 3 มิติให้มีความสมจริงมากที่สุดมาพร้อมฟีเจอร์ปรับภาพ 2 มิติเป็น 3 มิติคุณภาพสูง เพื่อเพิ่มอรรถรสในการชมภาพยนตร์ และการเล่นเกม

LG D2000 ใช้หลอดภาพแบบ LED ซึ่งใช้พลังงานน้อยจอมอนิเตอร์ทั่วไป 40% และปลอดจากวัสดุที่เป็นสารพิษเช่น ตะกั่ว และฮาโลเจน จึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม วางจำหน่ายแล้วในเกาหลี ยังไม่มีกำหนดวางจำหน่ายในไทย

ก่อนที่จะเดินไปยังโซนที่สอง โซน Innovative Green Living เป็นการแสดงกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่มาพร้อมเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมและใส่ใจสุขภาพ ทางแอลจีได้นำสมาร์ทโฟนที่ทำงานร่วมกับ Prada มาโชว์ด้วย ซึ่งได้แต่ดูอย่างเดียวไม่สามารถสัมผัสได้นะครับ

ไฮไลท์ของโซน Innovative Green Living เป็นการโชว์นวัตกรรมที่แอลจีใส่ไว้ในเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เริ่มจากเทคโนโลยีอัจฉริยะ THINQ ของแอลจีซึ่งเป็นการจัดแสดงเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชีย หลังจากการเปิดตัวในงาน IFA 2011 ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ซึ่งผู้ใช้สามารถสั่งการทำงานของตู้เย็น เครื่องซักผ้า เตาไมโครเวฟและเครี่องดูดฝุ่น ฮอมบอทผ่านเครือข่ายอัจฉริยะทางสมาร์ทโฟน ถือเป็นเทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะของแอลจีที่ช่วยประหยัดเวลาและพลังงาน ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อย่างมาก และมอบความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้

THINQ เป็นเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ควบคุมการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งาน ประกอบไปด้วยฟีเจอร์หลักต่างๆ คือ Smart Manager, Smart Diagnosis Smart Access, Smart Adapt และ Smart Grid ช่วยให้การทำงานบ้านรวดเร็ว ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

มาดูรายละเอียดของเทคโนโลยีนี้กันเป็นรายตัวดู เริ่มจาก Smart Manager จะมีหน้าจอแสดงตำแหน่งที่เก็บอาหาร วันหมดอายุ จำนวน และคุณค่าทางโภชนาการของอาหารที่อยู่ในตู้เย็น Smart Diagnosis ช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเครื่องใช้ไฟฟ้าได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ผ่านทางโทรศัพท์และแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ทางผู้บริหารของแอลจีในประเทศไทยระบุว่า จะมีการนำเทคโนโลยีนี้มาใส่ในเครื่องใช้ไฟฟ้าของแอลจีที่จะวางขายในเมืองไทยบางตัวในเร็วๆ นี้

Smart Access มอบความสะดวกสบายด้วยการควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าได้จากระยะไกล เช่น สั่งเปิด-ปิดเครี่องดูดฝุ่นฮอมบอทผ่านทางสมาร์ทโฟน จึงช่วยลดระยะเวลาทำงานบ้านลง Smart Adapt ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมใหม่ๆ และอัพเดทซอฟต์แวร์สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เพื่อรับประโยชน์จากเทคโนโลยีล่าสุดของแอลจี โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอยู่เดิม และSmart Grid มาพร้อมตัวเลือก “Recommend Time” (เวลาที่แนะนำ) และ “Lowest Rate” (ใช้พลังงานต่ำสุด) เพื่อช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย เช่น การตั้งโปรแกรมเครื่องซักผ้าให้ใช้เวลาซักอย่างคุ้มค่าสูงสุด หรือตั้งค่าตู้เย็นให้ปรับการทำงานในช่วงที่มีการใช้งานบ่อย เพื่อช่วยประหยัดค่าไฟ

ก่อนที่จะเดินออกจากแอลจี พาวิลเลียน ทางแอลจียังเนรมิตโรงภาพยนตร์ 3 มิติ แบบย่อมๆ มาให้ชมกันช่วงสั้นๆ ก่อนออก อย่าลืมพลาดโดยเด็ดขาด

Company Relate Link :
LG


LG Smart Technology zone
LG_Innovative Green Living zone
LG Optimus LTE
Prada Phone เวอร์ชัน 2 ที่ทางแอลจีร่วมมือกับ Prada

LG Pentouch TV

กำลังโหลดความคิดเห็น