เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาน่าจะเป็นสวรรค์ของนักช้อปในสหรัฐอเมริกา เพราะมันเป็นวันลดราคาสินค้าครั้งใหญ่ 50-80% ที่เรียกกันว่า “Black Friday” ส่วนวันจันทร์ 28 พฤศจิกายนก็เป็นวัน “Cyber Monday” ที่บรรดากิจการอีคอมเมิร์ซในสหรัฐฯ รวมตัวกันลดราคาสินค้าออนไลน์ในรูปแบบคล้ายๆ กับ Black Friday ขณะนี้เว็บไซต์ต่างชาติประโคมข่าวเรื่องนี้ต่อเนื่อง แต่คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่คุ้นกับศัพท์นี้
ที่มาของวัน Black Friday เริ่มมาจากเมือง Philadelphia เดิมทีคำๆ นี้มีไว้อธิบายถึงการจราจรที่หนาแน่นที่จะเกิดขึ้นหลังจากวันขอบคุณพระเจ้า แต่ต่อมาคำๆ นี้ก็เริ่มแปรเปลี่ยนกลายมาเป็นคำที่ใช้อธิบายถึงวันที่เจ้าของร้านค้าปลีกจะได้กำไรกันมหาศาล คล้ายๆ กับความหมายที่ว่าเวลาเราทำบัญชีถ้าตัวเลขขาดทุนก็คือตัวเลขแดงใช่ไหมครับ แต่ถ้าตัวเลขดำก็คือมีกำไร คำว่า Black Friday ในที่นี้ก็เลยหมายถึงวันทำกำไรของพ่อค้าแม่ขายนั่นเอง (ฟังดูตรรกะในการตั้งชื่อของเขาแปลกๆ ครับ แต่ในวิกิพีเดียก็อ้างกันไว้อย่างนั้น)
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันคำว่า Black Friday จะเป็นความหมายอื่นไปไม่ได้แล้วนอกจากเป็นวันที่บรรดาร้านค้าปลีกรายใหญ่ๆ เขาได้รวมตัวกันลดราคาครั้งใหญ่โดยเปิดร้านกันตั้งแต่ไก่โห่ราวตี 4 เรียกว่าเปิดให้ช้อปกันกระหน่ำกันไปข้างนั่นแหละ
พูดถึง “Black Friday” ไปแล้วก็เลยต้องพูดถึง “Cyber Monday” บ้าง
Cyber Monday เป็นศัพท์ทางการตลาด ที่ระบุถึงการรวมตัวกันลดราคา ของผู้ค้าปลีกออนไลน์ในอเมริกา คนที่คิดก็คือ สมาคมผู้ค้าปลีกแห่งชาติ (National Retail Federations) ประกาศเริ่มกันมาตั้งแต่ปี 2005 โดยจับเอากระแสของ Black Friday ว่าวันศุกร์เป็นวันลดราคาของ “ออฟไลน์” ดังนั้นวันนี้ก็จะเป็นวันลดราคาของ “ออนไลน์”
ที่มาที่ไปของ Cyber Monday เริ่มมาจากการที่ทางสมาคมฯ เห็นว่ามีผู้บริโภคหลายคนพลาดโอกาสซื้อสินค้าราคาถูก จาก Black Friday ก็เลยตั้งคำว่า Cyber Monday เพื่อเป็นทางออกของนักช้อปที่ต้องการ ของดีราคาถูก เพียงแต่ต้องมาซื้อออนไลน์เท่านั้น อีกทั้งมีผลการสำรวจ ออกมาในปี 2004 แล้วว่า 77% ของผู้ค้าปลีกออนไลน์จะปั๊มยอดขาย ได้ดีมากเป็นพิเศษในวันจันทร์หลังวันขอบคุณพระเจ้า เพราะบรรดาคนทำงาน ตามออฟฟิศก็ยังมีอารมณ์ซื้อของลดราคาอยู่ อีกทั้งยังเป็นช่วงที่ต้องทำงาน ดังนั้นการซื้อของจากออฟฟิศที่มักจะติดตั้งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงอยู่แล้ว ก็ยิ่งทำให้ซื้อง่ายขายคล่องเข้าไปอีก
ตอนนี้ผมลองเปิดดูเว็บไซต์ Amazon ก็เริ่มมีดีล Cyber Monday กันแล้วนะครับ ที่จริงเว็บเมืองไทยอย่าง TARAD หรือ WeLoveShopping จะเอาอย่างบ้างก็ไม่น่าผิดกติกา
ขอบคุณข้อมูลจาก Thumbsup.in.th
******
ข้อมูลจากสำนักข่าวลอสเองเจลิสไทมส์ระบุว่า เฉพาะวัน Black Friday หรือ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา คาดว่าร้านค้าปลีกในสหรัฐฯสามารถทำเงินได้เกิน 1.14 หมื่นล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 6.6% จาก Black Friday ในปีก่อน (2010) โดยข้อมูลจากบริษัทวิจัย ShopperTrak ซึ่งสำรวจร้านค้าในสหรัฐฯหลายพันแห่งพบว่าสัดส่วนการเติบโตของการซื้อขายสินค้าใน Black Friday ปีนี้เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 3 ปี นับตั้งแต่เคยเพิ่มขึ้น 8.3% ในปี 2007