xs
xsm
sm
md
lg

iOS 5 โอเอสที่เฝ้ารอ !!! (Cyber Weekend)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ถึงแม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ iPhone 4S ในทางลบมากมายจากนักวิจารณ์และสื่อมวลชนทั่วโลก แต่สุดท้ายแล้วเสียงวิจารณ์เหล่านั้นก็ไม่สามารถลดความสนใจจากผู้ใช้ทั่วโลกได้ จนทำให้ยอดขาย iPhone 4S ใน 7 ประเทศช่วง 3 วันแรกสูงกว่า 4 ล้านเครื่อง

ด้วยยอดขายจำนวนมาก สูงกว่าตอนเปิดตัว iPhone 4 เสียอีก ทำให้มีนักวิเคราะห์จากทั่วโลกต่างลงความเห็นเสียงเดียวกันว่า อาจมีส่วนมาจากการเสียชีวิตอย่างกระทันหันของผู้ก่อตั้งแอปเปิลอย่าง 'สตีฟ จ็อบส์' ที่บังเอิญเกิดขึ้นหลังจากการเปิดตัว iPhone 4S เพียงแค่ 1 วัน ทำให้เกิดกระแส iPhone 4 (for) Steve ขึ้นมา เพื่อรำลึกถึงการจากไปของจ็อบส์

แต่ลำพังแค่ระลึกถึง อาจไม่ทำให้ยอดพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ แต่สิ่งที่ทำให้ผู้สั่งจองและต่อแถวหน้าแอปเปิส สโตร์ในหลายประเทศ สำหรับ iPhone 4S น่าจะเป็นความชาญฉลาดและเข้าใจพฤติกรรมการใช้งานสมาร์ทโฟนของ 'สตีฟ จ็อบส' ที่พัฒนาลูกเล่นในระบบปฏิบัติการ iOS5 รวมไปถึงคุณสมบัติเด่นที่เพิ่งโชว์ในวันเปิดตัว iPhone 4S ด้วยคุณสมบัติเด่นอย่าง Siri ที่เมื่อมาติดตั้งบน iPhone 4S แล้วจะสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากกว่าอัปเกรด iOS 5 จากไอโฟน ไอแพดตัวเก่า

**การเปลี่ยนแปลงที่เฝ้ารอ**

ฟีเจอร์เด่นๆ ใน iOS 5 ที่แอปเปิลเปิดให้ดาวน์โหลดและติดตั้งในไอโฟนตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมานั้น มีหลายจุดที่เปลี่ยนแปลงไป และเป็นสิ่งที่ 'สาวก' แอปเปิลต่างรอคอยมานาน และเป็นจุดที่คู่แข่งนำมาใช้บ่อนทำลายศรัทธาแอปเปิลเสมอมา ก็คือ iTunes

เชื่อว่าทุก iOS ที่ผ่านมา ผู้ใช้ไอโฟน ไอแพด ต้องทำการศึกษาการใช้ iTunes ควบคู่ไปด้วย ระบบการซิงค์ข้อมูลบน iOS จึงถูกมองว่า เป็นระบบปิด (ก็จริงตามที่ว่า) ที่จะต้องทำงานคู่กับไอจูนเท่านั้น นั่นทำให้ไอจูน เปรียบได้กับ ประตูสวรรค์แห่งการติดตั้งและจัดสรรซอฟต์แวร์และซิงค์ข้อมูลทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นเพลง ภาพยนตร์หรือแอปพลิเคชันต่างๆ

จนเกิดเสียงบ่นมากมายถึงเรื่องการปิดกั้นของแอปเปิลที่แม้กระทั่งจัดการไฟล์ในตัวเครื่องเองยังไม่สามารถทำได้ ต้องทำผ่านไอจูนเท่านั้น

แต่ใน iOS 5 ได้มีการปรับกลยุทธ์และวิธีการใหม่ โดยใช้ชื่อ 'PC Free' ด้วยความสามารถในการไม่ต้องตั้งศูนย์กลางของระบบให้ผูกกับไอจูนเหมือนก่อน แต่แอปเปิลได้ปรับรูปแบบการติดตั้งและจัดสรรระบบให้สามารถทำบนไอโฟน ไอแพดได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการลบเพลงทีละเพลงหรือการจัดเบอร์โทรศัพท์ทีละหมายเลข และที่สำคัญเรื่องคุณสมบัติ Over the Air Update ที่ผู้ใช้สามารถอัปเดตระบบปฏิบัติการได้โดยไม่ต้องพึ่งพาการเชื่อมต่อกับไอจูน ทำให้การอัปเกรดระบบปฏิบัติการใน iOS เวอร์ชันต่อไปสามารถทำที่ไหนในโลกก็ได้

**iCloud เสริมทัพคลังข้อมูลส่วนตัว**

iCloud เป็นสิ่งที่แอปเปิลตั้งใจปั้นให้เกิดเป็นรูปเป็นร่างอย่างมาก โดย iCloud คือ บริการสำรองและเชื่อมข้อมูลในอุปกรณ์ของแอปเปิลให้เป็นหนึ่งเดียวกัน จนผู้ใช้สามารถเรียกใช้ข้อมูลเหล่านั้นแบบเรียลไทม์จากอุปกรณ์แอปเปิลชิ้นใดก็ได้ โดยเฉพาะในส่วนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ที่เปิดให้ผู้ใช้สามารถสำรองข้อมูลในแอปฯ รวมถึงเซฟงานเอกสาร บัญชีรายชื่อเบอร์โทรศัพท์และปฏิทินสามารถฝากขึ้นบน iCloud ได้ทั้งหมด

iCloud ถือเป็นการเสริมทัพ PC Free เพื่อเป็นบริการแก่ผู้ใช้อุปกรณ์แอปเปิลที่มี Apple ID ให้สามารถสำรองข้อมูลสำคัญเอาไว้บนอินเทอร์เน็ต แตกต่างจากในอดีตที่จะต้องทำการสำรองข้อมูลผ่าน iTunes ลงในคอมพิวเตอร์ ทำให้เวลาต้องการสำรองข้อมูลจะต้องมาทำที่คอมพิวเตอร์เครื่องนั้นๆ

แต่วันนี้ iCloud ช่วยให้ผู้ใช้งานแอปเปิลสามารถดึงข้อมูลเหล่านั้นออกมาใช้งานได้จากอุปกรณ์แอปเปิลทุกชิ้น โดยเฉพาะไอโฟน ไอแพด ที่ออกใหม่ทุกปี และ iCloud จะเข้ามาตอบสนองในเรื่องการย้ายข้อมูลจากอุปกรณ์ iOS เก่าไปยัง iOSใหม่ได้โดยผ่านแค่สัญญาณ WiFi เท่านั้น อีกทั้งยังสามารถโอนถ่ายข้อมูลที่ใดก็ได้ที่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต

**สร้างประสบการณ์การใช้งานรูปแบบใหม่**

ทุกครั้งที่ iOS มีการปรับเพิ่มตัวเลข ย่อมหมายถึงประสบการณ์การใช้งานที่เปลี่ยนไป ใน iOS 5 ก็เช่นกัน สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือ การเพิ่มระบบ iMessages ทั้งบนไอแพด ไอโฟนและไอพอด ทัช เรียกว่า งานนี้แอปเปิลส่งมาเพื่อมาสร้าง 'จุดขาย' และทำลายล้างส่วนแบ่งตลาดของ BBM ในสมาร์ทโฟนอย่าง BlackBerry และ Whatsapp ด้วยความสามารถในการเป็นแอปฯ แชตแบบส่งข้อความที่สามารถส่งภาพและวิดีโอได้

รวมถึงผู้ใช้ไอแพดจะยังได้สัมผัสคุณสมบัติเด่นที่แอปเปิลเรียกว่า Multitasking Gestures ในการปิด-เปิด สลับการใช้งานแอปฯ ผ่านนิ้วมือทั้ง 5 นิ้วโดยปราศจากการใช้ปุ่มโฮม

**Siri ไม้ตายปราบคู่แข่ง**

ถึงแม้ว่าระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์จะมีระบบ Voice Recognition ที่ใช้งานได้จริงก่อนแอปเปิล แต่สุดท้ายแล้วแอปเปิลก็ตีตื้นแอนดรอยด์ด้วยการร่วมมือกับ Nuance ในการพัฒนา Siri ผ่าน Dragon Engine ที่แอปเปิลชูว่า Siri คือ AI (ปัญญาประดิษฐ์) เฉพาะสำหรับ iOS 5 และ iPhone 4S เท่านั้น

ด้วยความฉลาดของ Siri ในการโต้ตอบกับผู้ใช้ประหนึ่งเป็นมนุษย์คนหนึ่ง จนถึงกระทั่งการโต้ตอบบทสนทนาเรื่องความรัก ที่ Siri มีลูกเล่นในการตอบอย่างอัศจรรย์ จนทำให้ผู้ใช้หลายรายอยากซื้อหา iPhone 4S เพียงเพราะเรื่องของฟีเจอร์ Siri ทั้งๆ ที่ Siri คือลูกเล่นหนึ่งบน iOS 5 ที่ถูกแอปเปิลล็อกไว้ไม่ให้ไอโฟนรุ่นเก่าใช้งานได้ เนื่องจากแง่มุมด้านการตลาด

หลักฐานล่าสุดจาก Dev-Team หนึ่งในแฮกเกอร์ผู้คลุกคลีในวงการ Apple iOS ระบุว่าสามารถเปิดการใช้งาน Siri บน iPhone 4 ที่ลง iOS 5 ได้แล้ว แถมการใช้งานยังราบรื่น โดยไม่จำเป็นต้องใช้หน่วยประมวลผลดูอัลคอร์ในการประมวลผลอย่างที่แอปเปิลกล่าวไว้แต่ต้น และชี้ให้เห็นว่า iOS 5 สำหรับ iPhone 4 มี Siri ติดตั้งมาให้แต่ถูกเข้ารหัสไว้สำหรับ iPhone 4S ในการเปิดใช้เท่านั้น

ในอนาคตมีความเป็นไปได้สูงว่า Siri อาจถูกเปิดให้ผู้ใช้ไอโฟน 3Gs ไอโฟน 4 และไอพอด ทัชตั้งแต่รุ่นที่ 3 ได้ใช้คุณสมบัติ Siri แต่คงต้องรอเวลาจนกว่า iPhone 4S จะทำตลาดไปได้ระยะหนึ่งก่อน

**iOS 5 เป็นระบบปฏิบัติการที่ดีที่สุด?**

จากการปรับเปลี่ยนและพัฒนา iOS มาตั้งแต่รุ่น 1-4 ในความจริงแล้วก็ถือว่าแอปเปิลมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและสร้างประสบการณ์การใช้งานที่แปลกใหม่เสมอ เพียงแต่ว่าใน iOS รุ่นก่อนหน้า แอปเปิลไม่เคยตามใจผู้ใช้ในการปรับเปลี่ยนระบบซิงค์ข้อมูลผ่าน iTunes ซึ่งผู้ใช้ส่วนใหญ่เห็นว่ายุ่งยากและเรื่องมาก จนในที่สุดระบบปฏิบัติการ iOS 5 แอปเปิลถึงใจอ่อนปรับเปลี่ยนเรื่องการซิงค์ข้อมูลให้เป็น PC Free พร้อมทั้งเพิ่มบริการ iCloud ในการใช้สำรองข้อมูลผ่านอุปกรณ์แอปเปิลได้ทั้งหมดจนผู้ใช้ส่วนใหญ่ต่างชื่นชอบการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้

สิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่า iOS 5 มีผู้ใช้สนใจอยากอัปเดตสูงสุดก็คือในคืนวันที่ 12 ตุลาคมที่แอปเปิลปล่อยตัวอัปเดต iOS 5 ผ่าน iTunes เป็นวันแรก เพียงไม่ถึง 5 นาทีได้มีผู้สนใจดาวน์โหลดอัปเดต iOS 5 จำนวนมากจนเซิร์ฟเวอร์แอปเปิลล่ม (error connection timeout) อยู่ค่อนคืน ซึ่งเมื่อรวมกับสถิติที่เปิดเผยถึงจำนวนคนที่ได้อัปเดตระบบปฏิบัติการ iOS 5 และลงทะเบียนใช้ iCloud ในเวลา 4 วันรวมสูงกว่า 45 ล้านยูสเซอร์ทั่วโลก ก็พอจะเป็นเสียงยืนยันได้ถึงความต้องการระบบปฏิบัติการ iOS 5 ที่มากจนกลายเป็น iOS ที่มีผู้ใช้ชื่นชอบและดาวน์โหลดมากที่สุดตั้งแต่แอปเปิลเปิดให้อัปเดต iOS มา

ใครที่มีอุปกรณ์ของแอปเปิลอยู่ในมือ และยังไม่อัปเป็น iOS 5 ขอบอกว่า รีบไปอัปโดยด่วน ไม่งั้นจะตกเทรนด์คุยกับใครไม่รู้เรื่องนะจะบอกให้
กำลังโหลดความคิดเห็น