xs
xsm
sm
md
lg

สัมผัสแรก iOS 5 Beta 1 ภาคไอโฟน 4 (ส่วนแรก)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หลังจากระบบปฏิบัติการไอโอเอส 5 ได้ถูกเปิดตัวขึ้นอย่างเป็นทางการในงาน WWDC 2011 หรือ World Wide Developers Conference 2011 พร้อมวันปล่อยดาวน์โหลดอย่างเป็นทางการสำหรับอุปกรณ์ไอโอเอส อย่าง ไอแพด 1,2 ไอโฟน 3Gs,4 และไอพอดทัช เจน 3 และ 4 ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง แต่ในวันเดียวกันทางแอปเปิลก็ได้ปล่อยตัวทดสอบ iOS 5 Beta 1 ออกมาให้กับบรรดาเหล่าผู้พัฒนาซอฟท์แวร์ (Developer) ได้เป็นผู้ทดสอบกันก่อน ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องโชคดีที่ทางทีมงานผู้จัดการไซเบอร์ได้สิทธิ์ร่วมทดสอบด้วย

โดยทางทีมงานจะขอแบ่งบททดสอบออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนแรกการทดสอบ iOS 5 Beta 1 ร่วมกับไอโฟน 4 และส่วนที่สองจะเป็นการทดสอบ iOS 5 Beta 1 ร่วมกับไอแพด 2 พร้อมอธิบายการทำงานของระบบ iCloud

ซึ่งสำหรับการเปลี่ยนแปลงในตัวระบบปฏิบัติการไอโอเอส 5 Beta 1จากระบบปฏิบัติการเดิม iOS 4.3.3 จะมีส่วนใดบ้างติดตามชมต่อจากนี้เลยครับ

Lock Screen ผนวกระบบเตือนและปุ่มกล้องแบบใหม่



หลังจากทีมงานได้ผ่านพ้นหน้าติดตั้งระบบที่เพิ่มเข้ามาพร้อมตั้งค่าการใช้งานของตัวเครื่องระดับเบื้องต้นไปแล้ว ในส่วนของหน้า Lock Screen จะมีการเปลี่ยนแปลงหลักๆ อยู่ 2 ส่วนได้แก่ มีการเพิ่มระบบเตือน (Notifications) แบบใหม่ ซึ่งเมื่อผู้ใช้อยู่ในสถานะ Sleep แล้วแอปฯ ในเครื่องมีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นทั้งจากเมล์ที่เข้ามาหรือจากแอปฯ เครือข่ายสังคมที่ตามปกติใน iOS รุ่นก่อนหน้าจะเป็น Pop-up แสดงขึ้นมา แต่สำหรับใน iOS 5 ระบบการเตือนจะเป็นลักษณะของข้อความแสดงขึ้นต่อกันลงมา พร้อมมีไอคอนของแอปฯ ที่มีการเคลื่อนไหวปรากฏขึ้น ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกอ่านโดยการสัมผัสที่ไอคอนแล้วสไลด์ไปด้านขวาเพื่อเข้าไปที่แอปฯ เหล่านั้นสำหรับดูการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นได้จากหน้า Lock Screen

ในส่วนที่ 2 ในหน้า Lock Screen เมื่อผู้ใช้ดับเบิลคลิกปุ่มโฮม 2 ครั้ง ในส่วนของแทบ "Slide to Unlock" จะมีไอคอนกล้องถ่ายภาพปรากฏขึ้นมา เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสัมผัสเพื่อเข้าใช้งานกล้องถ่ายภาพได้ทันทีจากหน้า Lock Screen

Home Screen แอปฯ ใหม่ -ไอคอนเปลี่ยน




สำหรับในหน้า Home Screen สิ่งที่เปลี่ยนแปลงยังเด่นชัดที่สุดก็คือไอคอนของแอปฯ บางตัวมีการเปลี่ยนแปลง เช่น iPod ก็ถูกเปลี่ยนเป็น Music พร้อมการแยกส่วนของ Video ออกมาเป็นอีกหนึ่งไอคอน และในส่วนของ Newsstand ที่ในอนาคตอาจเข้ามาแทน iBooks (ปัจจุบันใน Beta 1 ยังไม่ถูกเปิดให้ใช้งาน) พร้อมแอปฯ พื้นฐานตัวใหม่ในชื่อ Reminders ที่ทางทีมงานจะขออธิบายการใช้งานในหัวข้อถัดไป

Official Widget + Notifications Center



ถือเป็นการเพิ่มหน้าศูนย์กลางของระบบการเตือน และ Widget อย่างเป็นทางการครั้งแรกของไอโอเอสที่ถือเป็นหนึ่งจุดเด่นที่มีเสียงกล่าวขวัญกันมากในวันงาน WWDC 2011 โดยวิธีการเรียกใช้งานทำแบบเดียวกับระบบปฏิบัติการหุ่นเขียวคือ "นำนิ้วไปสัมผัสขอบจอด้านบนแล้วรูดลงมา" Notifications Center พร้อม Widget ที่ในปัจจุบันมีแค่ 2 รูปแบบคือ Widget บอกสภาพอากาศกับ Widget บอกหุ้นจาก Yahoo! จะปรากฏขึ้น

โดยในส่วนของ Notifications Center จะทำงานคล้ายในหน้า Lock Screen คือแสดงสิ่งที่เรายังไม่ได้อ่าน ดู หรือตอบรับ เช่น พุชเมล์, ข้อความจาก Facebook, หรือแม้กระทั่งการเตือนเควสในเกมต่างๆ ให้มารวมกันในหน้าเดียวเพื่อสะดวกในการเปิดรับชมโดยที่ไม่ต้องไปคอยเลื่อนหน้า Home Screen หาแอปฯ เหล่านั้น

Notifications ไม่รบกวนการใช้งานแอปฯ



น่าจะเป็นอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงที่สาวกผลไม้น่าจะชื่นชอบมากอีกหนึ่งตัว เพราะจาก iOS รุ่นก่อนๆ เรื่องระบบการเตือนเมื่อมีข้อความเข้าหรือการเคลื่อนไหวต่างๆ เกิดขึ้นมักจะรบกวนการใช้งานแอปหรือการเล่นเกมอยู่บ่อยครั้ง เพราะการปรากฏตัวของ Pop Up จะสร้างความรำคาญให้ผู้ใช้ เนื่องจากจะบดบังหน้าจอเล่นเกมและทำให้เกมหยุดเล่น แต่สำหรับระบบการเตือนแบบใหม่จะเป็นลักษณะของการพลิกส่วนของด้านบนหน้าจอเมื่อมีการเคลื่อนไหวของแอปที่รันอยู่ด้านหลังดังตัวอย่างจากรูปด้านบน โดยการปรากฏของแทบเตือนตัวใหม่จะไม่ทำให้เกมหรือการใช้งานแอปหยุดลงเหมือน iOS ตัวก่อน

Calendars เพิ่มระบบเชิญชวน



สำหรับการเปลี่ยนแปลงในส่วนของ Calendars หลักๆ คงอยู่ที่การเพิ่มระบบ Invite เมื่อเราสร้าง Event ขึ้นมาและต้องการเชิญชวนเพื่อนหรือคนใกล้ตัวใน Contacts เพื่อให้คนเหล่านั้นตอบรับการมาร่วมงานได้

Contacts ใหม่ ลบเบอร์โทรศัพท์ทีละเบอร์โทรได้แล้ว



นอกจากความสามารถในการ Backup ข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ไว้บน Cloud อีกหนึ่งสิ่งที่เปลี่ยนแปลงก็คือ ในส่วนของ Recents ผู้ใช้สามารถลบเบอร์โทรศัพท์ที่ละเบอร์โทรได้แล้ว

iMessage เมื่อไอโอเอสจะมีแอปฯ แชตเป็นของตัวเอง



หลังจากที่แอปเปิลพยายามปรับเปลี่ยนโครงสร้างของระบบส่งข้อความมาเกือบทุก iOS ล่าสุดในเวอร์ชัน 5 ทางแอปเปิลก็ปรับเปลี่ยนโครงสร้างของระบบส่งข้อความบนแอปฯ Message เป็น iMessage โดยการใช้งานจะรองรับการส่งข้อความผ่านสัญญาณ 3G, WiFi,ดาต้า, SMS และ MMS ซึ่งหมายถึงผู้ใช้จะสามารถใช้ iMessage ในการแชตผ่านระบบดาต้าได้แบบเดียวกับ Whatsapp หรือ BBM อีกทั้งยังสามารถส่งรูปภาพ ภาพถ่ายและวิดีโอผ่านระบบดาต้าได้ด้วย

โดยจากการทดสอบมีข้อสังเกตเนื่องจากแอปเปิลเลือกใช้งานการส่งข้อความทั้งหมดผ่านแอปฯ ตัวเดียว ทำให้การส่งข้อความระหว่าง SMS และ iMessage อาจเกิดความสับสนได้ โดยในแอปมีข้อสังเกตคือถ้าเราเพิ่มชื่อของผู้รับข้อความลงไปแล้ว ให้รอสักครู่ ระบบจะตรวจเช็คว่าคนๆ นั้นได้เปิดระบบ iMessage ไว้หรือไม่ ถ้าเปิดไว้ ปุ่ม Send จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินแสดงว่า พร้อมใช้งาน iMessage ในส่วนของดาต้า ส่วนถ้าปุ่ม Send เป็นสีเขียวแสดงว่าเป็นการส่งให้ระบบ SMS

Weather เพิ่มในส่วนของ Local เข้ามา



ในเมื่อแอปฯ Weather ถูกดึงไปใช้ในส่วนของ Widget ด้วยทำให้ต้องมีการเพิ่มในส่วนของ Local Weather ที่จะตรวจจับสภาพอากาศของพื้นที่ๆ ผู้ใช้อยู่ผ่าน GPS เพิ่มเข้ามาในแอปฯ Weather เดิม

Game Center เพิ่มแต้มคะแนน ผนวก App Store



แหล่งชุมชนของไอโอเอสเกมเมอร์ ได้มีการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมในส่วนของแต้มคะแนนเข้ามา พร้อมความสามารถในการซื้อเกมได้ทันทีผ่านตัว Game Center ทันที อีกทั้งยังมีการปรับเปลี่ยนในส่วนของรายละเอียดปลีกย่อยค่อนข้างมากเช่น สามารถเพิ่มรูปถ่ายเพื่อไว้โชว์ใน Profiles ได้หรือแม้แต่ความสามารถในการเข้าถึงโปรไฟล์ของเพื่อนได้มากขึ้น

Integrated Twitter ในแอปฯ พื้นฐาน



ปกติในส่วนของการแชร์รูปภาพ แผนที่ หรือหน้าเพจใน Safari มักจะทำผ่านได้แค่ E-Mail เสียส่วนใหญ่ แต่สำหรับใน iOS 5 ทางแอปเปิลได้ติดตั้ง Integrated Twitter สำหรับไว้แชร์เนื้อหาบนเครือข่ายสังคมสุดฮิตไว้ให้ในแอปฯ พื้นฐานเช่น Safari, Maps หรือ Photos

Emoji อย่างเป็นทางการพร้อมคีย์ Shortcuts




ถือเป็นส่วนที่เพิ่มเข้ามาและทางแอปเปิลไม่ได้ประกาศใน WWDC 2011 สำหรับไอคอน Emotion สุดฮิตอย่าง Emoji ที่ในไอโอเอส 5 Beta 1 มีการเพิ่มเข้ามาอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกใช้ได้โดยการเข้าไปจัดการในส่วนของคีย์บอร์ด

นอกจากนั้นในส่วนของคีย์บอร์ดยังได้เพิ่ม Shortcuts เข้ามาสำหรับใช้เพิ่มคำศัพท์ตัวย่อสำหรับดิกชันนารีได้ด้วย

กล้องถ่ายภาพอัปเกรดเวอร์ชัน



สำหรับกล้องถ่ายภาพมีการเพิ่มในส่วนของเส้น Grid ไว้สำหรับจัดองค์ประกอบภาพ นอกจากนั้นยังเพิ่มการซูมภาพด้วยการใช้นิ้วมือ2 นิ้วสัมผัสและถ่างออกจะถือเป็นการซูมภาพแบบ Digital Zoom และสุดท้ายสิ่งสำคัญก็คือการปรับเปลี่ยนให้ปุ่ม Volume + เป็นชัทเตอร์แทนปุ่มคำสั่งถ่ายภาพแบบสัมผัสที่หน้าจออย่างเดียว

เมื่อแอปฯ Photos เป็นมากกว่าอัลบั้มดูรูป




สำหรับในส่วนของแอปฯ Photos ที่ติดตั้งมาใน iOS 5 Beta จะมีความสามารถที่เพิ่มมากขึ้นอย่างความสามารถในการสร้างอัลบั้มรูปใหม่ได้ การย้ายรูปจากอัลบั้มหนึ่งไปอัลบั้มหนึ่งหรือการลบอัลบั้มรูปพร้อมการแบ่งหมวดหมู่ระหว่างรูปภาพ วิดีโอ อย่างชัดเจน นอกจากนั้นถ้าผู้ใช้ได้มีการเชื่อมต่อระบบ iCloud และเปิดในส่วนของ Photo Stream ไว้ ผู้ใช้ยังสามารถรับชมภาพถ่ายจากอุปกรณ์ไอโอเอสชนิดอื่นรวมถึงเครื่อง Mac ที่ได้เข้าใช้บัญชีเดียวกับเราได้ด้วย ช่วยลดขั้นตอนการเสียบสายซิงค์เพื่อดึงรูปจาก Device สู่ Device และเพื่อตอบรับแนวคิด PC Free จากแอปเปิล

นอกจากนั้นในส่วนของการรับชมภาพผู้ใช้ยังสามารถเลือกตกแต่งภาพถ่ายด้วย Tools พื้นๆ อย่าง Auto Enhance, Red eyes reduction, Crop และการหมุนกลับรูปได้ด้วย

Short Note เตือนความจำกับ "Reminders"



หลังจากในโอเอสรุ่นก่อนผู้ใช้ที่ต้องการ Short Note เพื่อนำมาบันทึก To-Do List จะต้องดาวน์โหลดแอปฯ จาก App Store มาใช้ แต่สำหรับใน iOS 5 ทางแอปเปิลได้เพิ่มแอปฯ Reminders เข้ามาสำหรับใช้ในการบันทึก To-Do List โดยนอกจากตัวแอปฯ จะสามารถสร้างลิสต์ข้อความได้แล้ว ในส่วนของการตั้งการเตือนนอกจากจะตั้งเวลา ความสำคัญได้แล้ว ตัวแอปฯ ยังอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถตั้งเตือนจากการระบุตำแหน่งจาก GPS ได้ โดยแบ่งเป็น When I Arrive และ When I Leave

Mail ลูกเล่นมากขึ้น



สำหรับ Mail ใน iOS 5 Beta 1 หลักๆ แล้วไม่มีการปรับเพิ่มเกี่ยวกับหน้าตาหรือการใช้งานมากนัก โดยในส่วนที่เพิ่มเข้ามาส่วนใหญ่จะอยู่ที่เรื่องของการปรับแต่งข้อความ ซึ่งเมื่อผู้ใช้เลือก Select ข้อความ จะสามารถเพิ่มตัวหนา เอียงหรือขีดเส้นใต้ได้ นอกจากนั้นยังสามารถเพิ่มการโค้ดข้อความได้ และสุดท้ายใน Mail ตัวใหม่นี้ยังมาพร้อมระบบติด Flag ด้วย

App Store ต่อยอด Purchased จาก iOS รุ่นก่อนหน้า



ถึงแม้ระบบ Purchased ที่เป็นเหมือนส่วนที่รวมแอปฯ ที่เราเคยดาวน์โหลดไว้ โดยจะแยกตามวันที่ดาวน์โหลด เพื่อสะดวกในการเรียกดู History หรือการนำไปซิงค์ข้อมูลผ่าน iCloud จะถูกบรรจุไว้ตั้งแต่ไอโอเอสก่อนหน้า แต่สำหรับในเวอร์ชันนี้การใช้งานในส่วน Purchased ถูกใช้ประโยชน์เพิ่มมากขึ้นเมื่อผู้ใช้ผูกบัญชี Apple ID ไว้กับอุปกรณ์ iOS หลายตัว เพราะผู้ใช้จะสามารถเรียกดูแอปฯ ที่ซื้อไปแล้วและยังสามารถนำไปซิงค์ข้อมูลเข้าสู่อุปกรณ์ iOS อื่นๆ ได้โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องไปพลิกแผ่นดินหาแอปฯ ที่ได้ดาวน์โหลดไว้แล้วให้เสียเวลา

New Contacts & Custom Vibration




ในส่วนของ New Contacts สำหรับ iOS 5 Beta 1 จะเพิ่มหมวดหมู่ในส่วนของ add field ในเรื่องของความเกี่ยวข้องกับตัวบุคคล (Related People) และในส่วนของการใส่ลิงค์เครือข่ายสังคม เช่น Twitter, Facebook หรือ My Space ไว้

ส่วน Custom Vibration จะเป็นฟังก์ชันที่ถูกซ่อนไว้ในส่วนของ Accessibility โดยเมื่อผู้ใช้เปิดใช้งานฟังก์ชันดังกล่าวแล้ว ผู้ใช้สามารถเลือกหรือสร้างการสั่นของตัวเครื่องได้เอง โดยการสั่นที่ถูกสร้างจะสามารถนำไปเปิดใช้ในส่วนของ Contacts เพื่อเป็นการใช้เอกลักษณ์ในการสั่นแต่ละแบบที่ผู้ใช้สร้างเป็นตัวบอกว่าใครโทรเข้ามาได้

Safari มาพร้อม Reader View & Reading List



สำหรับ Safari หลักๆ จะมีการเพิ่มเติมในส่วนของ Reader View ซึ่งใน iOS 5 Beta 1 ที่ทีมงานได้ทดสอบยังไม่สามารถเปิดใช้งานได้ โดยตัว Reader View จะเป็นฟังก์ชันในการแปลงหน้าเพจให้เป็นหน้าหนังสือได้ (แบบเดียวกับ Safari ใน Mac) ส่วน Reading List จะคล้ายกับ Bookmark ที่เป็นการเก็บลิงค์ที่ต้องการอ่านไว้อ่านทีหลัง เพียงแต่ตัว Reading List จะสามารถเชื่อมต่อกับระบบ iCloud ให้การนำลิสต์ที่ได้ Bookmark ไว้ไปเปิดชมที่อุปกรณ์ไอโอเอสเครื่องอื่น (หลักการทำงานแบบเดียวกับ Photo Stream)

ระบบซิงค์ข้อมูลแบบใหม่




สำหรับระบบซิงค์ข้อมูลบนไอโอเอส 5 จะถูกปรับเปลี่ยนโดยตัดหน้า ซิงค์ข้อมูลแบบเก่าออก และปรับเปลี่ยนเป็นให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นขบวนการซิงค์ข้อมูลทั้งหมดและการลงแอปฯ บน iOS 5 จะสามารถติดตั้งแอปฯ หลายๆ ตัวพร้อมกันได้ด้วย

นอกจากนั้นการซิงค์แอปฯ ระหว่างอุปกรณ์ไอโอเอสและ iTunes บน Mac และ PC จะไม่จำเป็นต้องต่อสายซิงค์อีกต่อไป เพราะการซิงค์ข้อมูลทั้งหมดสามารถทำผ่าน WiFi ได้ด้วย

iCloud Storage & Backup



ถึงแม้ระบบ iCloud จะยังไม่เสร็จเรียบร้อย แต่สำหรับเหล่าบรรดาผู้พัฒนาโปรแกรมที่ลงทะเบียนทดสอบ iOS 5 Beta 1 จะได้ทดลองใช้ iCloud ฉบับ Beta ซึ่งส่วนสำคัญของระบบ iCloud นอกจากเนื้อที่ๆ ทางแอปเปิลให้มา 5GB แล้ว ในส่วนของ Storage และ Backup ถือเป็นไม้ตายสำคัญอย่างยิ่ง เพราะ iCloud สามารถสำรองข้อมูลทุกๆ อย่างในตัวเครื่อง ตั้งแต่ Contacts ถึงเซฟเกม ทำให้การติดตั้งและซิงค์อุปกรณ์ iOS ใหม่ในอนาคตจะทำได้ง่ายขึ้นและแทบไม่ต้องพึ่งพา iTunes อีกต่อไป โดยในส่วนรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ ติดตามได้จากบทความส่วนที่สองครับ...

Settings ตอบรับ PC-Free






นอกจากการเปลี่ยนแปลงในส่วนของสวิตซ์เลื่อนปิด-เปิดที่มีการเพิ่มตัวอักษร On. Off แล้ว ในส่วนของรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ ยังถูกเพิ่มเติมมาให้ตอบสนองกับรูปแบบ PC-Free ที่แอปเปิลพยายามชูใน iOS 5 อย่างการเพิ่มส่วนของการจัดสรรแอปพลิเคชันต่างๆ หรือแม้แต่ ความสามารถในการจัดสรรระบบต่างๆ ที่มีการลงรายละเอียดและเปิดให้ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนได้มากขึ้น

อย่างการเพิ่มระบบ Twitter Link ที่สามารถซิงค์กับ Contacts ได้ หรือการจัดระบบ Notifications Center ที่สามารถเลือกได้อย่างอิสระว่าต้องการให้มีการเตือนแบบไหน หรือแม้แต่การเพิ่มเสียงสัญญาณเตือนต่างๆ และคาดว่าจะรองรับระบบสโตร์แบบใหม่จากแอปเปิลในอนาคต (เช่น iTunes Tone Store) ด้วยเช่นกัน

ติดตามส่วนที่ 2 ภายในอาทิตย์หน้า....
กำลังโหลดความคิดเห็น