"ริโก้"ชักธงรบธุรกิจเอาท์ซอร์สงานดูแลระบบไอที

ริโก้ (Ricoh) เจ้าตลาดธุรกิจงานพิมพ์-เครื่องถ่ายเอกสารรายใหญ่จากญี่ปุ่นประกาศร่วมเล่นในตลาดเอาท์ซอร์สบริการงานระบบไอทีอย่างจริงจัง ชู 2 บริการใหม่คือบริการรับดูแลรักษาระบบคอมพิวเตอร์ในสำนักงาน และบริการวางระบบไอทีทั้งการสร้างเครือข่ายและการจัดหาฮาร์ดแวร์ วางจุดยืนเป็นบริการครบวงจรที่รองรับงานทุกขนาด พร้อมเสนอตัวเป็นเพื่อนคู่คิดให้องค์กรสามารถตัดปัญหาระบบคอมพ์ทิ้งไปได้แบบหมดจด

นายศรีกรุง เจริญกรวิจิตร ผู้อำนวยการฝ่ายบริการลูกค้า บริษัท ริโก้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าจุดเริ่มต้นของการรุกตลาดเอาท์ซอร์สงานดูแลระบบคอมพิวเตอร์ในองค์กรนั้นมาจากการพัฒนาทักษะที่หลากหลายของพนักงานริโก้ ทั้งการดูแลรักษาและซ่อมแซมอุปกรณ์สำนักงานอย่างเครื่องพิมพ์-มัลติฟังก์ชัน และการให้บริการด้านระบบเครือข่าย

"นี่เป็นจุดเริ่มต้นให้เรานำทักษะที่มีอยู่มาขยายขอบเขตการให้บริการให้กว้างและรอบด้านมากขึ้น จึงเกิดเป็นบริการในชื่อ R-PASS และ IT Infrastructure Service"

R-PASS และ IT Infrastructure Service ที่ผู้บริหารริโก้กล่าวถึงคือการเสนอตัวเป็นผู้ดูแลและแก้ปัญหาระบบคอมพิวเตอร์ในสำนักงานแทนที่องค์กรจะต้องแบกรับภาระทั้งความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเอง โดยริโก้จะรับเอาท์ซอร์สงานดูแลรักษาระบบภายใต้ชื่อบริการ R-PASS และรับเป็นผู้ให้บริการออกแบบและติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ในชื่อบริการ IT Infrastructure Service

"บริการของเราสามารถดูแลระบบคอมพิวเตอร์ให้ลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง และแจ้งเตือนหรือแก้ไขก่อนจะเกิดปัญหาขึ้น ต่างจากผู้ให้บริการเจ้าอื่นที่ทำได้เพียงแก้ไขเมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้ว"

ริโก้ระบุว่าเบื้องหลังความสามารถในการดูแลระบบ 24 ชั่วโมงคือซอฟต์แวร์ Agent ซึ่งริโก้จะติดตั้งในเครื่องคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป โน้ตบุ๊ก และเซิร์ฟเวอร์ทุกเครื่อง ซอฟต์แวร์นี้จะตรวจสอบและส่งรายงานสภาวะการทำงานของคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์กลางของริโก้ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ทำให้ริโก้สามารถตรวจสอบระบบได้แม้จะมีโน้ตบุ๊กเครื่องใดถูกยกไปใช้งานที่ต่างประเทศ

ด้วยบริการ R-PASS ทีมงานริโก้จะสามารถล็อกอินเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ของลูกค้าผ่านอินเทอร์เน็ตเพื่อแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนได้จากทางไกล ไม่ต้องเสียเวลารอทีมวิศวกรเดินทางไปแก้ปัญหาให้ ขณะเดียวกัน ทีมริโก้จะเป็นผู้เลือก ติดตั้ง และอัปเดทซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสและแอนตี้สปายแวร์ตัวเหมาะสมที่สุดในเวลานั้นให้ลูกค้า ทำให้ลูกค้าไม่ต้องกังวลกับการอัปเดทหรือการป้องกันเครื่องจากไวรัสและภัยออนไลน์อีกต่อไป

ที่น่าสนใจคือบริการ R-PASS ยังช่วยให้บริษัทองค์กรสามารถวางแผนการใช้ระบบไอทีอย่างถูกต้อง เพราะซอฟต์แวร์ Agent จะรายงานสภาวะการทำงานของเครื่องในหลายรูปแบบ ทั้งระดับการใช้งานซีพียูและหน่วยความจำ การตรวจสอบเวอร์ชันของซอฟต์แวร์ที่มีการแก้ปัญหารูรั่วด้านความปลอดภัยแล้ว (Patch) รายงานนี้เองที่จะถูกจัดส่งให้แผนกไอทีขององค์กร เพื่อวางแผนระบบคอมพิวเตอร์ว่าต้องเพิ่มจำนวนเครื่องหรือไม่ หรือสมควรอัปเกรดเครื่องใดบ้าง

"ระบบของริโก้สามารถรายงานได้ด้วยว่า คอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊กแต่ละเครื่องติดตั้งซอฟต์แวร์ตัวใดบ้าง เพื่อให้องค์กรสามารถควบคุมการใช้งานซอฟต์แวร์ต่างๆให้เป็นไปตามนโยบายของบริษัท"

สำหรับธุรกิจออกแบบและวางระบบไอที ริโก้ระบุว่าไม่ได้มีกลุ่มเป้าหมายเป็นองค์กรที่ต้องการเปิดสำนักงานแห่งใหม่เท่านั้น แต่อยู่ที่กลุ่มซึ่งมีเซิร์ฟเวอร์และระบบเครือข่ายไอทีอยู่แล้วแต่ต้องการขยายระบบเพิ่มด้วย โดยไม่เพียงจัดหาฮาร์ดแวร์ ริโก้ยังมีซอฟต์แวร์พื้นฐานแบบถูกลิขสิทธิ์เตรียมพร้อมให้บริการ

"เรารองรับงานทุกขนาดตั้งแต่เล็กไปถึงใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อเครื่องเซิร์ฟเวอร์เพียง 1 เครื่อง การซื้อคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป 10 เครื่อง หรือการซื้อโน้ตบุ๊ก 50 เครื่อง ลูกค้าที่ต้องการเปิดบริษัทใหม่แต่ไม่มีความรู้ไอที มาคุยกับเราได้เลย"

ปัจจุบัน ริโก้ได้รับการว่าจ้างให้ดูแลระบบไอทีของบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นและไทยจำนวนหนึ่ง คาดว่าจะเพิ่มจำนวนขึ้นต่อเนื่องในปีนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการขยายตัวของตลาดบริการงานไอที และการซื้อขายฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทวิจัยระดับโลกอย่างการ์ตเนอร์ระบุว่าตลอดปี 2010 ที่ผ่านมา การซื้อขายฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ทั่วโลกมีอัตราเติบโตราว 12.3% คิดเป็นมูลค่ารวม 3.74 แสนล้านเหรียญ สำหรับปีนี้ การ์ตเนอร์เชื่อว่าจะมีมูลค่าราว 4.09 แสนล้านเหรียญ

ในส่วนตลาดงานบริการไอที การ์ตเนอร์เชื่อว่าจะมีอัตราการเติบโตที่สูงกว่าปี 2010 ที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด โดยคาดว่าจะเติบโต 5.0% ในปี 2011 อยู่ที่ 8.24 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับการเติบโต 2.9% ในปีที่แล้ว

Company Related Link :
Ricoh