เอปสันเผยรายได้ปี53ดีเกินคาด 2,200 ล้าน รับอานิสงส์เน้นตลาดภาคธุรกิจมาตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว พร้อมประกาศเผยรุกตลาดปี 54 ตั้งเป้าโต 15% ที่ยอดขาย 2,500 ล้านภายใต้กลยุทธ์ Epson = Value หวังสร้างแบรนด์ให้ติดในใจผู้บริโภคทั้งผลิตภัณฑ์และบริการหลังการขาย เตรียมส่งสินค้าใหม่เข้าตลาดทั้งปี 50 รุ่น
นายเออิจิ คาโตะ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ถึงแม้ในปีที่ผ่านมา ธุรกิจไอทีได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองอยู่ประมาณ 3-4 เดือน รวมถึงปัญหาน้ำท่วมหนักในครึ่งปีหลัง แต่สำหรับผลประกอบการของเอปสัน ประเทศไทยสามารถรักษาอัตราการเติบโตที่ 5% หรือรายได้อยู่ที่ 2,200 ล้านบาท เป็นผลมาจากการที่ทางเอปสันเน้นทำตลาดภาคธุรกิจ โดยเจาะกลุ่มลูกค้าองค์กรมาตั้งแต่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว นอกเหนือจากการนำผลิตภัณธ์เข้าสู่ตลาดนี้มากขึ้นแล้ว ทางเอปสันยังได้ลงทุนตั้งทีมงานที่ดูแลตลาดนี้โดยเฉพาะถึง 10 คน ถึงแม้จะกระทบต่อเป้าที่ตั้งไว้บ้างก็ตามแต่ก็ถือว่า ไม่มากนัก
“สัดส่วนรายได้จากกลุ่มสินค้าธุรกิจมีถึง 55% ที่เหลือเป็นกลุ่มคอนซูเมอร์ 45% เพิ่มขึ้นจากปีก่อน”
นายคาโตะ กล่าวอีกว่า กลุ่มสินค้าที่มีการเติบโตมากที่สุด คือ กลุ่มสินค้าธุรกิจ เติบโตมากกว่า 25% แยกเป็นดอทเมตริกซ์ พรินเตอร์ โตขึ้น 25% เป็นผลจากการลงทุนของภาครัฐ พรินเตอร์พาสบุ๊ก(พรินเตอร์ขนาดเล็กเท่าสมุดแบงก์)ที่โตขึ้นมากกว่า 100% จากการขยายตัวของกลุ่มลูกค้าธนาคาร และทีเอ็มพรินเตอร์หรือพรินเตอร์ขนาดเล็กที่โตถึง 15% เนื่องจากโครงการของลูกค้ากลุ่มร้านค้าและห้างสรรพสินค้า
ส่วนพรินเตอร์หน้ากว้าง ก็ยังมียอดขายเพิ่มขึ้น 15% ซึ่งมาจากการขยายตัวของลูกค้ากลุ่มธุรกิจโรงพิมพ์เป็นส่วนใหญ่ ที่มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ถึง 80% สำหรับโปรเจกเตอร์ ซึ่งเอปสันยังคงตำแหน่งผู้นำตลาดอยู่ในปัจจุบัน ด้วยส่วนแบ่งตลาด 28% เช่นเดียวกับอิงก์เจ็ตพรินเตอร์ที่เอปสันยังคงเป็น 1 ใน 3 ท็อปแบรนด์ของตลาด”
ทางด้านนายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงเป้าหมายทางการตลาดในปี 2554 ว่า ปีนี้เอปสันตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 2,500 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 15% โดยในส่วนของสินค้าคอนซูเมอร์ อาทิ อิงก์เจ็ตและเลเซอร์พรินเตอร์ สแกนเนอร์ ตั้งเป้าเติบโตที่ 10% หรือ 1,150 ล้านบาท โดยไฮไลต์อยู่ที่สินค้าไลน์ใหม่ พรินเตอร์ระบบหมึกสีต่อเนื่อง ส่วนโปรเจกเตอร์ คาดว่าจะโตขึ้นอีก 50% หรือ 550 ล้านบาท โดยในปีนี้จะเน้นสินค้าระดับกลางและบนเป็นหลัก และมีเครื่องในกลุ่มโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์เข้ามาช่วยเพิ่มฐานลูกค้า เอปสันตั้งเป้าจะรักษาตำแหน่งเจ้าตลาดต่อไป พร้อมเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 40%
สำหรับตลาดพรินเตอร์หน้ากว้างนั้น ตั้งเป้าว่าจะโตไม่น้อยกว่า 20% หรือ 150 ล้านบาท โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลัง เอปสันจะมีนวัตกรรมใหม่เข้ามาเพื่อเปิดตลาดเซกเมนต์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น อาทิ พรินเตอร์ในโรงงานอุตสาหกรรม ขณะที่กลุ่มสินค้าธุรกิจ ซึ่งเอปสันเป็นเจ้าตลาดอยู่และถือเป็นหัวใจสำคัญของเอปสัน คาดว่าจะมียอดรายได้รวมที่ 650 ล้านบาท โดยดอทเมตริกซ์ พรินเตอร์จะโตขึ้นอีก 5% ส่วนทีเอ็มพรินเตอร์ โต 40%”
“เป้าหมายที่ตั้งไว้นับว่าท้าทายมาก กลยุทธ์ที่เอปสันจะเน้นมากๆ ในปีนี้ก็คือ การสร้างความมั่นใจในแบรนด์ให้แก่ผู้บริโภคว่า เอปสันเป็นแบรนด์ที่มีคุณค่า และคุ้มค่าด้วยคุณภาพของสินค้าที่ดีต่อผู้บริโภคด้วย
นายยรรยง กล่าวว่า นั่นหมายถึงว่า ผู้ที่ใช้สินค้าของเอปสันจะได้ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย คุ้มค่าในการลงทุน ด้วยพรินเตอร์ที่ให้ต้นทุนการพิมพ์ต่อแผ่นที่ถูก และได้เลือกสินค้าที่เหมาะกับความต้องการของตัวเองจากไลน์สินค้าใหม่ที่จะเปิดตัวในปีนี้ทั้งหมดทุกกลุ่มสินค้ากว่า 50 รุ่น
ส่วนคุณค่าจากแบรนด์ ผู้บริโภคจะได้พบกับความอุ่นใจและมั่นใจเมื่อซื้อสินค้าเอปสัน ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแบรนด์ของเราผ่านแคมเปญต่างๆ การตลาดบนโซเชียล เน็ตเวิร์ก กิจกรรมเพื่อสังคม รวมไปถึงกิจกรรมร่วมแบรนด์ของเอปสันและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ที่สำคัญ คุณค่าเพื่อผู้บริโภค ซึ่งหมายถึงการรับประกันความพึงพอใจของลูกค้าด้วยบริการหลังการขาย ณ วินาทีนี้ เอปสันเป็นเพียงแบรนด์เดียวที่ประสบความสำเร็จในการให้บริการซ่อมสินค้า ซึ่งสามารถซ่อมเสร็จภายในกำหนดเวลา 5 วันเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีการรับประกันสินค้า โปรแกรมให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าชนิดต่างๆ รวมถึงช่องทางขายและการให้บริการกว่า 170 แห่ง ครอบคลุมทุกพื้นที่ เข้าถึงได้อย่างสะดวกสบาย”
Company Related Link :
Epson