เดลล์ประกาศการลงทุนมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทุ่มพัฒนาเทคโนโลยีด้านโซลูชัน และบริการต่างๆ หวังให้ลูกค้าได้รับประโยชน์จากระบบประมวลผลรุ่นใหม่และความล้ำหน้าในการขับเคลื่อนระบบสารสนเทศ เพื่อบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ
สตีฟ ซัคเคนบร็อค ประธานกลุ่มบริการของเดลล์ กล่าวว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี รูปแบบการขับเคลื่อน โมเดลด้านไอทีรูปแบบใหม่ที่เข้ามาแทนที่เทคโนโลยีเดิม (disruptive IT models) อย่างเช่น ระบบคลาวด์ ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการทางธุรกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
"ด้วยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว องค์กรธุรกิจจะได้รับประโยชน์ในด้านความรวดเร็วในการเข้าถึงตลาด และความยืดหยุ่นทั้งด้านระบบคอมพิวเตอร์และองค์กร โดยเดลล์พร้อมช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์ต่างๆ อย่างเต็มที่ นอกจากนี้เดลล์ได้เริ่มและยังคงลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อนำเสนอเทคโนโลยีที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถดำเนินธุรกิจได้ในยุคเวอร์ชวลดังเช่นในปัจจุบัน"
แม็ตต์ อีสต์วูด รองประธานกลุ่มด้านแพลตฟอร์มระดับองค์กรของไอดีซี กล่าวว่า ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในปัจจุบัน แม้การควบรวมจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่แนวคิดเรื่องการพึ่งพาผู้ผลิตหรือผู้ให้บริการรายเดียวก็ไม่ยั่งยืนเช่นกัน
"เมื่อบริษัทต่างๆ ก้าวเข้าสู่สถาปัตยกรรมระบบยุคใหม่ ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการความมั่นใจว่า การเชื่อมโยงระบบเดิมและเทคโนโลยีใหม่จะสามารถทำงานได้อย่างราบรื่น และสามารถรองรับความแตกต่างของระบบได้ดี เพราะเทคโนโลยีสำหรับวันนี้ก็จะกลายเป็นของเก่าทันทีสำหรับวันพรุ่งนี้เช่นกัน"
** เตรียมเปิดเดต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่ หวังนำเสนอโซลูชันใหม่ **
สตีฟ ระบุว่า ในอีก 2 ปีข้างหน้า เดลล์จะสร้างเดต้าเซ็นเตอร์ประสิทธิภาพสูงทั่วโลก เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีคลาวด์ ทั้งพับบลิคคลาวด์และไพรเวทคลาวด์ ได้อย่างสะดวก พร้อมด้วยบริการเอาต์ซอร์สด้านไอทีระดับโลก โดยเดต้าเซ็นเตอร์เหล่านี้ประกอบไปด้วยเทคโนโลยีและบริการล่าสุดจากเดลล์และพาร์ทเนอร์ พร้อมช่วยลูกค้าให้ได้รับประโยชน์เต็มที่จากโครงสร้างระบบ แพลตฟอร์ม และเวอร์ชวลเดสก์ท็อป ที่ทั้งหมดอยู่ในรูปแบบของบริการ ไปจนถึงเรื่องการเอาต์ซอร์สระบบไอที
โดยลูกค้าจะได้รับความคล่องตัวและความยืดหยุ่นในการจัดเตรียมแพลตฟอร์มเพื่อใช้ในการพัฒนาและทดสอบแอปพลิเคชัน, มีระบบจัดเก็บข้อมูลที่ไม่จำกัดในการสร้างสรรค์ผลงานต่างๆ การสำรองข้อมูลนอกไซต์ และการเตรียมกู้ระบบจากภัยพิบัติ ผ่านระบบจัดเก็บข้อมูลเชิงบริการ, พัฒนาแอปพลิเคชันและโซลูชันสำหรับการทดสอบ ด้วยการจัดเตรียมระบบอย่างรวดเร็วผ่านแพลตฟอร์มเชิงบริการ, จัดการข้อมูลของผู้ใช้อย่างปลอดภัย สะดวกขึ้น ทั้งยังช่วยให้ลูกค้าที่ต้องเดินทางเป็นประจำสามารถทำงานได้โดยผ่านเวอร์ชวลเดสก์ทอปเชิงบริการ
นอกจากนี้ในปี 2011 เดลล์ยังมีแผนจะเปิดโกบอลโซลูชันเซ็นเตอร์ (Global Solution Center) กว่า 12 แห่ง และวางแผนที่จะเปิดเพิ่มอีกกว่า 10 แห่งใน 18 เดือนข้างหน้า เพื่อนำเสนอโซลูชันระบบเปิด ที่คุ้มค่าแก่องค์กรและธุรกิจต่างๆ ทั่วโลก โดยโครงข่ายระดับโลกของโซลูชันเซ็นเตอร์เหล่านี้จะช่วยส่งเสริมการเรียนรู้เกี่ยวกับโซลูชันและความเชี่ยวชาญต่างๆ ให้แก่ลูกค้า โดยทีมผู้เชี่ยวชาญจากเดลล์ จะทำงานร่วมกับลูกค้าเพื่อให้เกิดการใช้งบประมาณด้านเทคโนโลยีได้อย่างเหมาะสม ใช้เงินลงทุนต่ำกว่าในการจัดการกับโครงสร้างระบบและได้รับนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีที่ดีขึ้นเพื่อการเติบโตของธุรกิจ
" โซลูชันต่างๆ ที่เดลล์นำเสนอ จะได้รับการทดสอบคอนเซ็ปต์ว่าสามารถทำงานได้จริงภายใต้สภาพแวดล้อมระบบของลูกค้า และมีเวิร์คช็อปการออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่ตรงตามความต้องการ ทำให้ลูกค้าและพาร์ทเนอร์เสมือนกับมีทรัพยากรเพิ่มเติมในการเผชิญหน้ากับความท้าทายบนเดต้าเซ็นเตอร์"
** จับมือไมโครซอฟต์ช่วยลูกค้า **
เดลล์ และไมโครซอฟท์ ยังได้ประกาศกลยุทธ์ความร่วมมือกันในระยะเวลา 3 ปี เพื่อช่วยให้ลูกค้าติดตั้งและจัดการกับเวอร์ชวลไลเซชันและไพรเวทคลาวด์ได้อย่างรวดเร็ว โดยโซลูชันด้านระบบจัดการจะถูกรองรับโดย Dell Virtual Integrated System, Dell Advanced Infrastructure Manager และ Microsoft System Center ซึ่งช่วยให้การทำงานร่วมกันระหว่างระบบทางกายภาพ ระบบเสมือน และแอพพลิเคชัน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ส่วนด้านโซลูชันสำหรับเวอร์ชวลไลเซชันนั้นจะอยู่บน Microsoft Windows Server Hyper-V ที่พร้อมมอบสมรรถนะในการทำงานขั้นสูงและช่วยลดค่าใช้จ่ายลงได้อย่างมาก ทั้งนี้ โซลูชันที่เกิดจากความร่วมมือกันทั้งในด้านฮาร์ดแวร์และเทคโนโลยีระบบจัดการเวอร์ชวลไลเซชันของเดลล์ บวกกับไฮเปอร์ไวเซอร์และเทคโนโลยีการจัดการระบบจากไมโครซอฟท์ จะช่วยให้การบริหารเวอร์ชวลไลเซชันเป็นไปอย่างสะดวกขึ้น ลดค่าใช้จ่าย และปลดล็อกข้อจำกัดในการก้าวเข้าสู่คลาวด์ได้อย่างแท้จริง
Company Related Link :
Dell