เอชพีประเทศไทยประกาศแผนจัดระเบียบคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กตระกูลคอมแพคเพรสซาริโอ (Compaq Presario) สำหรับปีนี้ เลือกกลุ่มเด็กนักเรียนนักศึกษาและคนเพิ่งเริ่มทำงานเป็นเป้าหมายใหม่ แก้วิกฤตตลาดเหงาช่วงไตรมาส 2 ด้วยการดึงความคึกคักของโมเดิร์นเทรดเช่นโลตัส-คาร์ฟูร์-บิ๊กซีมาเป็นตัวช่วย ปรับดีไซน์เน้นความเหนือกว่าคอมแพคธรรมดาให้ชัดยิ่งขึ้น ระบุยังไม่รู้แผนการวางจำหน่ายที่แน่ชัดใดๆของ"HP Slate"คอมพิวเตอร์แท็ปเล็ตหน้าจอสัมผัสรูปทรงกระดานชนวนที่เอชพีจะส่งมาแข่งขันกับไอแพ็ด (iPad) ของแอปเปิล
พงศ์ธวัช พิเชฐเลอมานวงศ์ ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์และการตลาด กลุ่มธุรกิจเพอร์ซันแนลซิสเต็มส์ของเอชพี กล่าวถึงนโยบายในการทำตลาดโน้ตบุ๊กคอมแพคเพรสซาริโอตลอดปี 2010 ว่าการปรับกลุ่มตลาดและช่องทางการจำหน่ายใหม่ครั้งนี้จะทำให้ยอดจำหน่ายโน้ตบุ๊กเอชพีคึกคักยิ่งขึ้น
"ตอนนี้เราแบ่งทางเลือกให้ลูกค้าคอมแพคชัดเจนขึ้น คือถ้าลูกค้าต้องการราคาคุ้มก็เลือกคอมแพค แต่ถ้าต้องการฟีเจอร์ที่มากกว่าก็ให้เลือกคอมแพคเพรสซาริโอ ปีนี้คอมแพคจะมีเซกเมนต์ตลาดที่ชัดเจนขึ้น คือกลุ่มเด็กและคนเริ่มทำงานที่ชอบแฟชันและเน้นความสนุกสนาน การสำรวจพบว่าตลาดเยาวชนมีความต้องการมาก เรามั่นใจว่ายอดขายในปีนี้จะดีกว่าปี 2009 ที่ผ่านมา"
เพื่อชิมลางตลาดวัยรุ่นชอบแฟชัน เอชพีจึงเปิดตัว CQ42 และ CQ62 คอมแพคเพรสซาริโอ 2 รุ่นในตัวเครื่องดีไซน์ใหม่ ปรับโฉมให้บางลงและหรูมีระดับยิ่งขึ้น ทั้ง 2 รุ่นหน้าจอ 15.6 นิ้ว มาพร้อมชิป Intel Core i3, i5 และ i7 ตามแต่รุ่น ราคาเริ่มที่ 23,900 บาท และ 34,900 บาทตามลำดับ
"เรารอบอดี้ใหม่มานาน สองรุ่นนี้เราเน้นที่ดีไซน์บางลงและเบาขึ้น ราคาซื้อได้และคุ้มค่า ไม่ได้บอกว่าเพรสซาริโอรุ่นเก่าไม่ดี เพียงแต่รุ่นใหม่ดีกว่า" ธีรวิทย์ แม่นชนะ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาการตลาด ผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์โน้ตบุ๊กของเอชพีกล่าว
ภาพใหญ่โน้ตบุ๊กเอชพีขณะนี้แบ่งเป็น 3 กลุ่มชัดเจน คือ เอชพีเอ็นวี เอชพีพาวิลเลียน และคอมแพค เป้าหมายหลักของกลุ่มคอมแพคคือกลุ่มผู้บริโภคอายุต่ำกว่า 30 ลงมา ครอบคลุมส่วนธุรกิจขนาดเล็กได้บางส่วน และนอกจากการแยกแบรนด์เอชพีและคอมแพคให้ชัดเจน เอชพียังเน้นขยายช่องทางจำหน่ายคอมแพคเพรสซาริโอไปที่กลุ่มโมเดิร์นเทรด หรือห้างซูเปอร์สโตร์เช่นโลตัส คาร์ฟูร์ บิ๊กซีให้มากขึ้น
"ไตรมาส 2 ยอดขายคอมพิวเตอร์มักชะลอตัวอยู่แล้ว ช่วงเมษาฯพฤษภาฯถึงค่อยขึ้น แต่ช่วงไตรมาส 2 เป็นช่วงที่โมเดิร์นเทรดโตมาก เราต้องตามเค้าไป อีกจุดคือร้านขายอุปกรณ์ประกอบคอมพิวเตอร์หรือ DIY การสำรวจพบว่าร้านพวกนี้หันมาจำหน่ายซิสเต็ม (คอมพิวเตอร์ประกอบสำเร็จ) มากขึ้น ปีนี้เราจะโฟกัสตรงนี้เพราะศักยภาพเค้าเยอะขึ้น เช่น มีร้านค้าย่อยในเครือมาก และแนะนำลูกค้าได้น่าเชื่อถือ"
อย่างไรก็ตาม สัดส่วนการวางจำหน่ายในร้านโมเดิร์นเทรดช่วงปีนี้ของเอชพีจะสูงกว่าร้าน DIY สัดส่วนคือ 30% และ 10% ตามลำดับ และเพื่อเข้าถึงกลุ่มเด็ก เอชพีจะเน้นกิจกรรมตามสถานศึกษา ลงตลาดภูมิภาคในจุดศูนย์รวมเด็กวัยรุ่น รวมถึงการใช้สื่อออนไลน์เช่นเครือข่ายสังคมให้เข้มข้นกว่าเดิม
"งบการตลาดบอกไม่ได้ ภาพรวมตลาดคอมพ์พกพาปีนี้เชื่อว่าจะมีอัตราเติบโตมากกว่าปี 08-09 ที่โตมาตลอด ด้านตัวเครื่องเชื่อว่าจะโต 15-20% ด้านมูลค่าเติบโตน้อยกว่าที่ 10-15%"
แม้จะมีนโยบายเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ทุกเดือน แต่ผู้บริหารเอชพีส่งสัญญาณว่าจะไม่มีวิกฤตราคาโน้ตบุ๊กตกต่ำแน่นอน โดยราคาเริ่มต้นของคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กจากเอชพีในปีนี้จะอยู่ที่ 13,900 บาทเท่าปีที่แล้ว แต่จะเพิ่มคุณสมบัติตัวเครื่องให้มากขึ้น
สำหรับงานคอมมาร์ตที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนมีนาคมนี้ ผู้บริหารเอชพีระบุว่าโปรโมชันในงานจะเป็นโปรโมชันเดียวกับงาน HP Expo ซึ่งจัดขึ้นที่จุดขายเอชพีทั่วประเทศไทย จุดนี้เอชพีย้ำว่าไม่กังวลว่าพิษการเมืองจะมีผลต่อการจัดงาน เนื่องจากจุดเด่นของงานคือผู้บริโภคสามารถหาซื้อเอชพีได้ทุกที่ทั่วประเทศ
"ไม่หวั่นใจเรื่องการเมือง เราจัดงานช่วงนี้ทุกปี ซึ่งเป็นช่วงหลังการอั้นซื้อในเดือนกุมภาพันธ์ ทางเอชพีสำนักงานใหญ่ไม่ส่งสัญญาณอะไรเป็นพิเศษ แต่เราก็จับตาดูอย่างใกล้ชิด"
Company Related Links :
HP