เอเซอร์ยึดยุทธศาสตร์มัลติแบรนด์ เจาะทุกกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ยกทัพคอมพ์ 12 ซีรีส์ กว่า 30 รุ่นบุกตลาดคาดในไทยโต 30% ชี้ปีนี้เอเซอร์จะเป็นที่หนึ่งตลาดโน้ตบุ๊กโลกและแชมป์ตลาดรวมคอมพิวเตอร์ในปี 2555
นายแฮรี่ หยาง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ กล่าวว่า การดำเนินงานของเอเซอร์ในปีนี้วางไว้ 3 แกนหลักคือ 1.การออกแบบหรือดีไซน์ 2.อุปกรณ์ที่หลากหลาย โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ อุปกรณ์ประเภทเชื่อมต่อตลอดเวลากับอุปกรณ์ที่ใช้ระบบซิงโคไนซ์ 3.โปรดักส์ไลน์ ซึ่งแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มวันแฮนด์ เช่น มือถือ อีกกลุ่มคือทูแฮนด์ ได้แก่ พีซีและโน้ตบุ๊ก
เอเซอร์ยังยึดยุทธศาสตร์หลักคือมัลติเปิล แบรนด์ เนม ที่แบ่งผลิตภัณฑ์ออกเป็น 3 แบรนด์ ประกอบด้วย แบรนด์เอเซอร์ที่เน้นเรื่องนวัตกรรม แบรนด์เกตเวย์ มุ่งเจาะกลุ่มแฟชั่นและความมีเอกลักษณ์ด้านดีไซน์ และแบรนด์อีแมชชีนที่เน้นเรื่องราคาเป็นหลัก
ด้านกลยุทธ์ทางการตลาดแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักคือ 1.การสร้างแบรนด์ โดยเน้นสปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง โดยการสนับสนุนด้านกีฬา ซึ่งกลยุทธ์นี้จะใช้ตั้งแต่ปีนี้ถึงปี 2555 2.ช่องทางการจัดจำหน่ายซึ่งเรียกว่า 3 ดีคือ 1.ดีไซน์ที่มีการเปลี่ยนการดีไซน์ใหม่ 2.ดีสเพลย์ ดีมอนสเตชัน จะมีการซัปพอร์ตช่องทางการจัดจำหน่ายในรูปแบบใหม่ๆ 3.ดิจิไทเซชัน ซึ่งมีการพัฒนาแคมเปญและให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ออนไลน์มากขึ้น เช่น โซเชียล เน็ตเวิร์ก
พร้อมกันนี้ ยังได้มีการปรับโครงสร้างการจัดจำหน่าย จากเดิมที่เรียกกว่าเอโอพี หรือเอเซอร์ ออฟฟิสเชียล โดยแยกเป็น 2 กลุ่มคือ เออาร์พี หรือเอเซอร์ รีเทล พาร์ตเนอร์ ดูแลกลุ่มคอนซูเมอร์ กับเอพีพี หรือเอเซอร์ โปรเฟสชันนอล พาร์ตเนอร์ ดูแลตลาดองค์กร และภาคราชการ
เอเซอร์ยังได้นำผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาด 12 ซีรีส์ กว่า 30 รุ่น ที่มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ของอินเทล คอร์ ไอ3 ไอ5 และไอ7 ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายด้วยราคาเริ่มต้นของโน้ตบุ๊กอยู่ที่ 20,900 บาท พีซี 15,900 บาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
จากแผนการดำเนินงานและยุทธศาสตร์ที่เอเซอร์วางไว้ คาดว่าจะทำให้เอเซอร์มีอัตราการโตอีก 30% หรือมียอดขายรวมอยู่ที่ 1.1 ล้านเครื่อง หรือมีส่วนแบ่งตลาด 33% จากตลาดรวมที่คาดว่าจะมีประมาณ 3.1 ล้านเครื่อง เป็นโน้ตบุ๊ก 8 แสนเครื่อง หรือมีส่วนแบ่งตลาด 40% ,พีซี 3 แสนเครื่อง หรือมีส่วนแบ่งตลาด 25% และมั่นใจว่าจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดโน้ตบุ๊กโลกได้ในปีนี้และเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดรวมคอมพิวเตอร์โลกในปี 2555
ส่วนในไทยเอเซอร์เป็นผู้นำตลาดอยู่แล้วทั้งตลาดรวมและตลาดโน้ตบุ๊ก โดยปีที่ผ่านมามีอัตราการโตโดยรวมอยู่ที่ 18% สำหรับโน้ตบุ๊กมีอัตราการโตอยู่ที่ 22%
นายแฮรี่หยางกล่าวว่า สิ่งที่จะเป็นไฮไลท์ในปีนี้ที่ผลิตภัณฑ์ทั้งโน้ตบุ๊กและพีซีจะพัฒนาเพื่อรองรับ คือทัชสกรีน 3ดีหรือ 3 มิติ กับเรื่อง 3Gซึ่งหลายประเทศมีอุปกรณ์ด้านนี้มาใช้กับผลิตภัณฑ์ไอทีแล้ว และเชื่อว่า 3Gจะเป็นการก้าวกระโดดของเทคโนโลยีในประเทศไทย ซึ่งเอเซอร์เองก็จะมีโปรดักส์ ไลน์ที่ออกมารองรับเทคโนโลยีดังกล่าวที่คาดว่าจะได้เห็นชัดเจนขึ้นในปีนี้
Company Related Links :
Acer