ไซแมนเทคชี้แนวโน้มปี 53 โซเชียลเน็ตเวิร์กจะมีการเติบโตสูง ภัยคุกคามโจมตีมีความซับซ้อนมากขึ้น ทั้งยัง เป็นปีแห่งการย้ายระบบงาน และการป้องกันข้อมูลสูญหาย
นายจอห์น ลี ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย และอินโดนีเซีย บริษัท ไซแมนเทค คอร์ปอเรชัน กล่าวถึงแนวโน้มเทคโนโลยีปี 2553 ว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นและคาดว่าจะได้เห็นชัดเจนประกอบด้วย 4 ประเด็น 1. คือเครือข่ายสังคมออนไลน์ หรือโซเชียลเน็ตเวิร์ก องค์กรธุรกิจจะหันมานิยมมากขึ้นโดยนำมาใช้ติดต่อสื่อสารกับคู่ค้า ลูกค้า และพนักงานในบริษัท ซึ่งโซเชียลเน็ตเวิร์กจะเข้ามาปรับเปลี่ยนวิธีการในการแบ่งปันข้อมูลกัน รวมถึงนำมาซึ่งความท้าทายทางธุรกิจทั้งในเรื่องของการบริหารจัดการ การรักษาความปลอดภัย และเก็บบันทึกข้อมูลที่โต้ตอบกันไปมาผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก
“ขณะเดียวกัน เว็บโซเชียลเน็ตเวิร์กหลายแห่งก็ยังตกเป็นเป้าการโจมตีจากภัยคุกคาม ส่วนหนึ่งอาจมาจากพนักงานอาจนำพาภัยคุกคามมาสู่ธุรกิจได้โดยไม่ได้ตั้งใจ”
2.การเพิ่มขึ้นของภัยคุกคามที่ใช้รูปแบบการโจมตีที่ซับซ้อน เพราะปัจจุบันได้เข้าถึงจุดตัดที่โปรแกรมภัยคุกคามมีปริมาณมากกว่าโปรแกรมดีที่ใช้งาน ภัยคุกคามมีความหลากหลายและซับซ้อนขึ้น ทำให้โปรแกรมป้องกันไวรัสแบบเดิมๆ ที่ใช้อยู่ไม่สามารถจัดการกับภัยคุกคามเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การมุ่งเน้นวิเคราะห์เฉพาะมัลแวร์เพียงอย่างเดียวจึงไม่เพียงพอ หากแต่การสแกนไฟล์ของซอฟต์แวร์ทุกตัวด้วยเทคนิคเทคนิคการทำงานอื่นๆ เช่น whitelisting และ reputation-based security สามารถช่วยได้
3.การขจัดความซ้ำซ้อนของข้อมูล เทคโนโลยีการขจัดดวามซ้ำซ้อนของข้อมูลจะถูกนำไปใช้ในวงกว้างมากขึ้นแต่อยู่ในรูปแบบของคุณสมบัติหนึ่งของซอฟต์แวร์มากกว่า เทคโนโลยีเดี่ยวๆ 70% ขององค์กรขนาดใหญ่ยังไม่ได้นำเทคโนโลยีด้านการขจัดความซ้ำซ้อนของข้อมูลมาใช้ แต่จะสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดังกล่าวได้ง่ายขึ้น
4.การป้องกันข้อมูลสูญหาย สาเหตุการรั่วไหลของข้อมูลส่วนใหญ่เกิดจากคนในองค์กร 88 % ของข้อมูลสูญหายในปี 2552 มีสาเหตุมาจากคนในองค์กรเอง ซึ่งได้แก่พนักงานและคู่ค้า
"ความกังวลในเรื่องข้อมูลสูญหายจะมีมากขึ้นแต่จะเน้นไปที่การรั่วไหลอันเกิดจากผู้ไม่ประสงค์ดี" รายงานของ The Ponemon Institute ระบุ
Company Related Links :
Symantec
