เรย์ ออซซี่ (Ray Ozzie) คือผู้ที่มารับตำแหน่งประธานฝ่ายสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์ต่อจากเจ้าพ่อบิล เกตส์ การปรากฏตัวของเขาทุกครั้งล้วนมีความสำคัญต่อยักษ์ใหญ่ไมโครซอฟท์และชาวโลก
ล่าสุดออซซี่ขึ้นเวทีเปิดตัวบริการประมวลผลกลุ่มเมฆหรือคลาวด์คอมพิวติง (cloud computing) ที่ปะยี่ห้อ Windows Azure วิสัยทัศน์ของออซซี่ในงานนี้กล่อมให้ทุกคนเชื่อว่า Windows Azure คือคำตอบที่จะทำให้ไมโครซอฟท์ยังคงยืนหยัดทำเงินในธุรกิจซอฟต์แวร์ได้จริง โดยออซซี่ประกาศด้วยความมั่นใจว่า ธุรกิจระบบเมฆของไมโครซอฟท์จะประสบความสำเร็จงดงาม แม้ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะไม่เคยรู้ว่ามีระบบนี้อยู่
***มองไม่เห็นแต่สัมผัสได้
ชื่อคลาวด์คอมพิวติงนั้นเกิดขึ้นมาเพื่ออธิบายระบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถเพิ่มหรือลดประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างอิสระ เหมือนกับเมฆที่สามารถขยายและหดตัวได้ไม่จำกัดบนท้องฟ้า ผู้ให้บริการเมฆจะนำระบบไอทีมาเชื่อมโยงกันแบบเสมือน อาจจะเป็นระบบที่อยู่ในห้องเดียวกันหรือคนละซีกโลกก็ได้ เพื่อให้บริการที่หลากหลายรูปแบบแก่ผู้ใช้ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
สิ่งที่ออซซี่บอกว่าระบบเมฆจะมีอนาคตสดใสได้แม้ผู้บริโภคจะไม่รู้จักมันเลยนั้นเป็นเรื่องจริง เพราะปัจจุบันนี้หลายคนก็ไม่ทันสังเกตว่าได้ใช้งานคลาวด์คอมพิวติงไปแล้ว เช่น บริการฟรีอีเมลเนื้อที่ไม่จำกัด บริการซอฟต์แวร์ออนไลน์ที่ใจดีให้ฝากไฟล์ผลงานไว้ได้ หรือบริการฝากไฟล์พื้นที่สะใจที่อำนวยความสะดวกสบายให้แก่ชาวออนไลน์กันถ้วนหน้า
ทั้งหมดเป็นบริการออนไลน์ที่เพิ่มพื้นที่และความสามารถ รวมถึงยืดหยุ่นได้ตามแต่ผู้บริโภคต้องการ โดยข้อมูลที่อยู่บนเมฆออนไลน์จะสามารถเดินทางไปพร้อมกับอุปกรณ์ทุกที่ทุกเวลา และสามารถแบ่งปันให้ผู้อื่นได้ตลอดเวลาเช่นกัน
บริการเมฆของไมโครซอฟท์นั้นก้าวไปไกลกว่า 1 ขั้น เพราะ Windows Azure จะทำให้บริษัทองค์กรทั่วไปสามารถมีบริการคลาวด์คอมพิวติงเป็นของตัวเอง โดย Windows Azure จะทำหน้าที่รันแอปพลิเคชันของบริษัทองค์กร (ที่เป็นลูกค้าไมโครซอฟท์) บนเซิร์ฟเวอร์และดาต้าเซ็นเตอร์ของไมโครซอฟท์เอง
ผลคือ เว็บไซต์ของบริษัทองค์กรจะสามารถให้บริการผู้บริโภคได้ต่อเนื่องไม่ว่าทราฟฟิกมหาศาลจะพุ่งมาที่เว็บมากมายเพียงไร
"ผลลัพท์ที่ดีที่สุดของคลาวด์คอมพิวติง คือผู้บริโภคไม่ทันสังเกต" ออซซี่กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์ในงานประชุมนักพัฒนาที่ไมโครซอฟท์จัดขึ้น
"บริษัทที่ไม่ได้อยู่ในธุรกิจไอที เช่นบริษัทค้าปลีกหรือภาคการผลิต จะสามารถติดต่อสื่อสารกับผู้บริโภคได้ตลอดเวลาผ่านเว็บไซต์ ตรงนี้ Azure จะทำให้เราสามารถคำนวณว่าจะสร้างระบบขนาดยักษ์ขึ้นมารองรับผู้บริโภคทั้งหมดได้อย่างไร ที่สำคัญ Azure จะลดภาระลง ทำให้ภาคธุรกิจหันมาให้ความสนใจกับการพัฒนาบริษัทในด้านอื่นต่อไป"
ออซซี่ยกตัวอย่างวันจันทร์แรกหลังเทศกาล Thanksgiving ซึ่งมักจะเป็นวันที่การซื้อขายสินค้าออนไลน์ในต่างประเทศมีความคึกคักและยุ่งเหยิงที่สุดในรอบปี บริษัทอีคอมเมิร์ชอาจมองว่าต้องรีบซื้อเครื่องเซิร์ฟเวอร์จำนวนมากเพื่อให้รองรับการซื้อขายมหาศาลที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาทอง แต่บริษัทกลับไม่สามารถลงทุนได้อย่างใจ เมื่อคิดถึงค่าใช้จ่ายจากการดูแลรักษาเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่ซื้อมา ซึ่งจะเป็นภาระต่อเนื่องไปตลอดทั้งปี
ไม่เพียงบริษัทขายสินค้าออนไลน์จะได้ประโยชน์จากการ"ซื้อเท่าที่ใช้" ผู้บริโภคขาช้อปก็มีความเชื่อมั่นกับการซื้อขายที่สมบูรณ์ด้วย
"ผู้บริโภคจะไม่ทิ้งตระกร้าสินค้าที่เลือกมา จะไม่ต้องกดปุ่ม"back"เพื่อย้อนกลับไปดูหน้าเพจที่ผ่านมาเพราะไม่มั่นใจว่า การซื้อขายสำเร็จหรือไม่" ออซซี่ร่ายมนตร์
***ยังขายซอฟต์แวร์
การให้บริการแพลตฟอร์มแก่นักพัฒนาสำหรับสร้างแอปพลิเคชันออนไลน์และการให้เช่าพื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์นั้นดูจะห่างไกลกับธุรกิจดั้งเดิมของไมโครซอฟท์ที่เน้นการจำหน่ายชุดซอฟต์แวร์เพื่อติดตั้งลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ จุดนี้ต้องยกนิ้วให้ทันทีที่ออซซี่ตอบคำถาม โดยออซซี่ระบุว่าทั้งหมดยังเป็นไปตามหลักการของไมโครซอฟท์ที่ให้ความสำคัญที่ซอฟต์แวร์ ไม่ใช่ให้ความสำคัญที่วิธีการส่งซอฟต์แวร์สู่มือผู้บริโภค
"สิ่งที่ทำให้ไมโครซอฟท์เป็นไมโครซอฟท์ทุกวันนี้คือซอฟต์แวร์ ผมไม่คิดว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงจากนี้ไปได้ แกนหลักของซอฟต์แวร์คือสิ่งที่เราเป็น"
ออซซี่ในวัย 53 ปีนั้นรับตำแหน่งประธานฝ่ายสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์มาตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2006 ทันทีที่ประธานไมโครซอฟท์ "บิล เกตส์" นั้นเกษียณตัวเองออกจากภารกิจงานประจำวันเพื่อหันไปทำงานการกุศล ออซซี่สร้างชื่อจากการเป็นผู้สร้างสุดยอดแอปพลิเคชันอีเมล Lotus Notes ก่อนจะมารับหน้าที่ดูโปรเจกต์กลุ่มเมฆให้ไมโครซอฟท์อย่างจริงจัง
Company Related Links :
Microsoft