xs
xsm
sm
md
lg

ตามรอย"บอลเมอร์"บิ๊กไมโครซอฟท์บุกเอเชีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตั้งแต่ลอยกระทง (2 พ.ย.) สื่อต่างประเทศตีข่าวการปรากฏตัวของซีอีโอไมโครซอฟท์ "สตีฟ บอลเมอร์" ที่กรุงโซล เกาหลีใต้, ไทเป เกาะไต้หวัน ล่าสุดคือกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น แต่ละประเทศบอลเมอร์หยอดยาหอมและคำหวานไม่เหมือนกัน ความเหมือนเดียวคือการเดินสายประกาศศักยภาพเด่นเด้งของวินโดวส์เซเว่น (Windows 7) พร้อมกับวาดภาพทิศทางของไมโครซอฟท์หลังการเปิดตัวระบบปฏิบัติการล่าสุด ในพื้นที่ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจยิ่งยวดในเอเชีย

ที่โซล บอลเมอร์ดึงเรื่องวิกฤติเศรษฐกิจโลกขึ้นมาพูดกับซีไอโอ (CIO) หรือผู้บริหารฝ่ายเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมท้องถิ่นในเกาหลีใต้เพื่อยืนยันว่า วินโดวส์เซเว่นจะเป็นกลยุทธ์ที่สามารถช่วยให้ธุรกิจที่รัดเข็มขัดสามารถรับประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นได้จริง

บอลเมอร์อ้างว่าอัตราการลงทุนด้านไอทีในประเทศพัฒนาแลัวอย่างเกาหลีใต้ หรือสหรัฐอเมริกา จะคิดเป็นสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของการลงทุนทั้งหมด ความกดดันจึงเกิดขึ้นกับธุรกิจให้ลงมือสรรหาความคุ้มค่าในการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสดีงามของการขยายตัวในวงการไอทีที่ไมโครซอฟท์และค่ายไอทีอื่นๆมองเห็นตั้งแต่ปีที่ผ่านมา แม้วิกฤตเศรษฐกิจโลกจะทำให้ยอดจำหน่ายคอมพิวเตอร์พีซีและเซิร์ฟเวอร์ลดลงถึง 15%

แน่นอนว่าบอลเมอร์ยกวินโดวส์เซเว่นเป็นส่วนหนึ่งของโซลูชันที่จะคลายความกดดันเรื่องความคุ้มค่าในการลงทุน เนื่องจากความสามารถในการทำงานที่เพิ่มขึ้นในราคาทุนที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายไอทีที่ลดลงนั้นดูเหมือนจะส่งผลกับไมโครซอฟท์เต็มๆ เนื่องจากไมโครซอฟท์เพิ่งประกาศกำไรลดลงติดต่อกันหลายไตรมาสแล้ว

***เปิดศูนย์วิจัยที่ไต้หวัน

ที่ไทเป ซีอีโอบอลเมอร์ไม่โฆษณาวินโดวส์เซเว่นอย่างเดียวแต่กลับประกาศความร่วมมือกับกระทรวงเศรษฐกิจของเกาะไต้หวันด้วย ร่วมกันตั้งศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาเทคโนโลยีประมวลผลอินเทอร์เน็ตหรือ Internet computing technology ขึ้นในชื่อ "Software and Services Excellence Center"

ทั้งไมโครซอฟท์และทางการไต้หวันต่างไม่เปิดเผยรายละเอียดด้านตัวเงินลงทุน ระบุเพียงว่าต้องการช่วยให้บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ท้องถิ่นในไต้หวันสามารถผลิตอุปกรณ์และพัฒนาบริการที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการประมวลผลกลุ่มเมฆหรือคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเบื้องหลังของบริการออนไลน์ยอดฮิตนานาชนิด เช่น บริการฝากไฟล์ไม่จำกัดพื้นที่ หรือบริการซอฟต์แวร์ออนไลน์ที่ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องซื้อโปรแกรมมาติดไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์

แม้จะไม่เปิดเผยว่าศูนย์วิจัยที่จะก่อตั้งก่อนสิ้นปีนี้ใช้งบประมาณเท่าใด แต่เฉลี่ยทั้งปี ไมโครซอฟท์มีแผนใช้เงินในโครงการวิจัยและพัฒนาจำนวนกว่า 9,500 ล้านเหรียญสหรัฐในปีหน้า ซึ่งแน่นอนว่าไมโครซอฟท์จะพัฒนาเทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้งในอนาคต

***ยอดขายคึกคักที่ญี่ปุ่น

บอลเมอร์ประกาศกลางกองทัพผู้สื่อข่าวในโตเกียวว่ายอดจำหน่ายวินโดวส์เซเว่นตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมาที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นน่าตื่นตาตื่นใจมาก ส่งให้ตลาดพีซีในประเทศญี่ปุ่นคึกคักไปแล้วเรียบร้อย

บอลเมอร์บอกว่ายอดจำหน่ายวินโดวส์เซเว่น 10 วันแรกนั้นสูงกว่ายอดจำหน่ายวินโดวส์เอ็กซ์พีช่วง 10 วันแรกมากมายนัก โดยจำนวนบริษัทที่เข้าร่วมโครงการนำร่องใช้งานวินโดวส์เซเว่นก่อนกำหนดวางจำหน่ายจริง มีจำนวนถึง 230 บริษัท ส่งให้ยอดจำหน่ายฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์มีอัตราเติบโตขึ้นอีกเป็นเลข 2 หลัก

ความคืบหน้าล่าสุดของไมโครซอฟท์ขณะนี้ ได้แก่การประกาศว่าได้ลดคนงานออก 800 คนแล้วจากเป้าหมาย 5,000 คนที่เคยประกาศไป ทำให้คาดว่าการปรับโครงสร้างของไมโครซอฟท์ด้วยการปลดพนักงาน และการว่าจ้างพนักงานใหม่ในส่วนที่จำเป็นนั้นจะเข้ารูปเข้าร่างได้เร็วขึ้นกว่าเดิมที่ตั้งไว้เดือนมิถุนายน ปี 2010

สำหรับธุรกิจออนไลน์ ล่าสุดไมโครซอฟท์เพิ่งเปิดตัวหน้าเว็บไซต์เอ็มเอสเอ็น (msn.com) โฉมใหม่ในรูปเว็บท่าที่รองรับแอปพลิเคชันและวิดเจ็ทบริการเครือข่ายสังคมมากกว่าเดิม ลักษณะเดียวกับหน้าเว็บไซด์ใหม่ของยาฮู (yahoo!) หรือกูเกิล (iGoogle) โดยในเอ็มเอสเอ็นนั้นเปิดให้ผู้ใช้สามารถอัปเดทสถานะบนเฟสบุ๊ก (Facebook) และทวิตเตอร์ (Twitter) ได้บนวิดเจ็ตหน้าเว็บ ยังไม่มีรายงานว่าหน้าเว็บเอ็มเอสเอ็นใหม่ในประเทศไทยจะเริ่มแสดงเมื่อใด

เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์นั้นเพิ่งประกาศผลกำไรสุทธิลดลง 18% เหลือ 3,570 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 40 เซนต์ต่อหุ้นจากที่เคยทำได้ 4,370 เหรียญหรือ 48 เซนต์ต่อหุ้น ลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 แล้ว

Company Related Links :
Microsoft
กำลังโหลดความคิดเห็น