ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) เผยผลประกอบการในปีที่ผ่านมาพร้อมเดินหน้าปรับกลยุทธ์เตรียมพร้อมรับผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะทยอยเข้ามาทำตลาดภายในปีงบประมาณ 2553 เริ่มจากการพัฒนาแผนธุรกิจกับคู่ค้าให้มีความพร้อมและสามารถเชื่อมโยงกันจากโปรแกรม "Microsoft Partner Network" พร้อมเผยแผน Health Care ที่กำลังจะเข้าร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อนำเทคโนโลยีมาช่วยในการรักษาคนไข้ทางไกล
นางสาว ปฐมา จันทรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปีที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ประเทศไทยมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องมาตลอดนับตั้งแต่ช่วงปีงบประมาณ 2550-2552 คิดเป็น 24% , 21% และ 22% ตามลำดับ ซึ่งติดอันดับ 1 ใน 5 ประเทศที่เติบโตเร็วที่สุดของไมโครซอฟท์ทั่วโลกด้วยเช่นกัน ซึ่งการเติบโตของไมโครซอฟท์แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน
"ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทยจะโตอยู่ที่ 11% ,14% และ 11% ตามลำดับ ซึ่งถ้าเทียบกับการเติบโตของไมโครซอฟท์จะเห็นว่ามากกว่าอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทยประมาณ 2 เท่าเป็นอย่างน้อย ดังนั้นในช่วงงบประมาณปี 2553 แม้ว่าผลวิเคราะห์ของไอดีซีมองว่าอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทยจะคงที่ แต่เชื่อว่าสำหรับไมโครซอฟท์เองจะโตขึ้นประมาณ 10%"
โดยนางสาวปฐมา ได้กล่าวถึงกลยุทธ์และทิศทางการทำงานร่วมกับคู่ค้าของไมโครซอฟท์ว่า เนื่องจากทางไมโครซอฟท์มีคู่ค้าที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะกับคู่ค้าท้องถิ่น ซึ่งทางไมโครซอฟท์เห็นว่าพร้อมที่จะเติบโตจึงหันมาพัฒนาโปรแกรม Microsoft Partner Program เดิมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเป็น Microsoft Partner Network นั่นเอง
"กลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยให้คู่ค้าของทางไมโครซอฟท์ มีความเข้มแข็งและศักยภาพมากขึ้น รวมถึงเป็นการพัฒนาความสามารถเพื่อให้เกิดโอกาสในการแข่งขันทางธุรกิจที่หลากหลาย โดยนำคู่ค้าทั้งหมดมาเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่าย เพื่อที่เวลาจะช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกันในด้านที่คู่ค้าแต่ละคนมีความสามารถ"
นายสุขสันติ ศรวณียารักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เรโวลิก เทค จำกัด ในฐานะตัวแทนคู่ค้าของไมโครซอฟท์ให้ความเห็นว่า การพัฒนาโปรแกรมดังกล่าวจะช่วยให้ เวลาที่คู่ค้าแต่ละคนมีปัญหาสามารถติดต่อกับฝ่ายสนับสนุนของไมโครซอฟท์ได้ง่ายยิ่งขึ้น เพื่อช่วยในการแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้า รวมไปถึงวิธีการจัดการโซลูชันต่างๆ ทางไมโครซอฟท์ มีการแนะนำและให้ความรู้กับคู่ค้าอยู่ตลอดเวลา
นอกจากแผนการจัดการด้านคู่ค้าแล้ว นางสาวปฐมา ยังได้กล่าวถึงแผนที่จะร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข ในการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการรักษาผู้ป่วยที่อยู่ห่างไกลจากศูนย์การแพทย์ ซึ่งไมโครซอฟท์เองได้มีหน่วยงานวิจัยและพัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะในประเทศไทย เพื่อช่วยผลักดันให้เกิด Health Care ขึ้นในประเทศไทย
"จากฝ่ายวิจัยและพัฒนาของไมโครซอฟท์ที่มีจำนวนกว่า 200 คน ร่วมกับการได้รับความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Health Care ในประเทศสิงคโปร์ จะช่วยให้การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการรักษาโรคทางไกลเกิดขึ้นได้ในเร็วๆนี้"
ส่วนแผนการทำตลาดของระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ล่าสุดอย่างวินโดวส์ เซเว่นนั้น ได้มีการเปิดเผยว่าจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ภายในเดือนตุลาคมเช่นเดียวกับการวางจำหน่ายทั่วโลก ซึ่งแน่นอนว่าที่ไม่สามารถเปิดตัวพร้อมกันทั่วโลกได้นั้นเกิดจาก ทางไมโครซอฟท์ประเทศไทยจำเป็นต้องพัฒนาภาษาไทยให้เสร็จสมบูรณ์ก่อนที่จะวางขาย
ซึ่งจากกระแสการตอบรับของผู้ค้าคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ ภายในงานเทรดแฟร์อย่างคอมมาร์ต ตอบรับกับทางไมโครซอฟท์เรียบร้อยแล้วว่าระบบปฏิบัติการที่จะมากับเครื่องรุ่นใหม่ๆ จะกลายเป็นวินโดวส์ เซเว่นทั้งหมด รวมไปถึงมีการจัดเตรียมแผนในการวางจำหน่ายให้หลากหลายมากขึ้นแต่ในขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยแผนดังกล่าวออกมา
Company Related Links :
Microsoft