เอชพี ชูกลยุทธ์ “When Everything Counts” ลงตลาดเอเชียแปซิฟิกจับ 2 ตลาดใหญ่ ชูประเด็นช่วยลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ลดค่าใช้จ่ายในองค์กรถึง 30% ด้วยโซลูชันการบริหารจัดการงานพิมพ์แบบ MPS ทั้งสามารถประหยัดพลังงาน 30-50 % ขณะที่ลูกค้าเอสเอ็มบีสามารถลดค่าใช้จ่ายในการพิมพ์และประหยัดพลังงานสูงสุดถึง 50 % พร้อมเสนอแคมเปญ HP Officejet Pro Leasing Program ให้ใช้เครื่องฟรีเพื่อช่วยลูกค้า SMB ประหยัดการลงทุนฮาร์ดแวร์
นายสมชัย สูงสว่าง ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจภาพและการพิมพ์ บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) หรือเอชพี กล่าวว่า เอชพีนำเสนอกลยุทธ์การตลาด When Everything Counts สำหรับลูกค้าทุกระดับสู้วิกฤตเศรษฐกิจในปีนี้ ด้วยวิธีการแปลงค่าใช้จ่ายด้านการลงทุนให้เป็นค่าใช้จ่ายที่จัดการและควบคุมได้ ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการพิมพ์ และนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและพลังงาน นอกจากนี้ มีโซลูชันและบริการที่มีความยืดหยุ่นเสนอเป็นทางเลือกเพิ่มเติม สนับสนุนการทำงานของลูกค้าระดับเอสเอ็มบีและลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ ซึ่งด้วยข้อเสนอเหล่านี้จะช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จในการวางกลยุทธ์ด้านการลดต้นทุนทั้งแบบทันทีและในระยะยาวท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ทุกอย่างถูกคำนวณเป็นเงินต้นทุนและค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น
ผู้บริหารเอชพี กล่าวว่า แม้ว่าเศรษฐกิจในปัจจุบันจะอยู่ในสภาวะถดถอย แต่ตลาดไอทีในเอเชียแปซิฟิกยังคงได้รับการคาดหวังว่าจะสามารถขยายตัวได้ซึ่งในภาวะเช่นนี้ องค์กรธุรกิจต่างมุ่งหวังและให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนค่าใช้จ่ายด้านการซื้อสินทรัพย์ที่จะกลายเป็นต้นทุนให้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สามารถจัดการและควบคุมได้ โดยความต้องการทางด้านบริการการพิมพ์แบบ Managed Print Services เป็นหนึ่งในความคาดหวังที่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายและปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจส่งผลสู่การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในธุรกิจองค์กร
เอชพีให้ความสำคัญกับการจัดการกับค่าใช้จ่ายในเรื่องการพิมพ์ได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่คุ้มค่าทั้งผลิตภัณฑ์ โซลูชันด้านการพิมพ์ โปรแกรมสนับสนุนต่างๆ รวมถึงการบริหารงานพิมพ์แบบ Managed Print Services (MPS) โดยชี้ให้เห็นความสำคัญแก่บริการดังกล่าวที่ทำให้สามารถบริหารค่าใช้จ่ายได้ผลยิ่งขึ้น และเมื่อมีการปรับเวิร์กโฟลว์ด้านงานเอกสาร (Document Workflows) ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นก็ยิ่งทำให้การบริหารต้นทุนทางไอทีและธุรกิจคุ้มค่ามากที่สุด
ภายใต้กลยุทธ์ When Everything Counts เอชพี มุ่งที่จะเข้าถึงลูกค้าใน 2 กลุ่มคือ กลุ่มเอสเอ็มบีและกลุ่มเอนเตอร์ไพรซ์ โดยในกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มบี (SMBs) เอชพีนำเสนอด้วยโซลูชันและบริการเพราะมองเห็น ปัญหาความกดดันด้านงบประมาณอย่างเร่งด่วน ชุดโซลูชันและโปรแกรมของเอชพีจะช่วยให้ธุรกิจเอสเอ็มบี สามารถลดค่าใช้จ่ายในการพิมพ์ และลดต้นทุนการใช้พลังงาน มีการจัดการระบบการพิมพ์และการใช้ประสิทธิภาพเครื่องพิมพ์ในบริษัทได้อย่างคุ้มค่าและลดปัญหาค่าใช้จ่ายในทันทีคือ 1.การลดค่าใช้จ่ายในการพิมพ์ต่อหน้าได้ถึง 50% ด้วยเครื่องพิมพ์ HP Officejet Pro System รุ่นล่าสุด ที่นอกจากจะลดค่าใช้จ่ายในการพิมพ์แล้ว ยังช่วยลดพลังงานเมื่อเทียบกับเครื่องพิมพ์เลเซอร์แบรนด์อื่นๆ 2.ประหยัดพลังงานด้วยเทคโนโลยี Instant-on ของเครื่องพิมพ์ HP LaserJet ที่สามารถเริ่มการพิมพ์หน้าแรกได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังช่วยลดการใช้พลังงานได้สูงสุด 50% เหนือกว่าการใช้เทคโนโลยีฟิวเซอร์แบบเก่า
3.แปลงค่าใช้จ่ายด้านการลงทุนให้เป็นค่าใช้จ่ายที่จัดการและควบคุมได้ ด้วยโครงการ HP Leasing Program ลดค่าใช้จ่ายด้านฮาร์ดแวร์และค่าดำเนินการด้วยโปรแกรมการใช้เครื่องพิมพ์รุ่น HP Officejet Pro โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทำให้ลูกค้าเอสเอ็มบีสามารถอัปเกรดเครื่องพิมพ์ที่มีอยู่โดยไม่ต้องจ่ายเงินค่าฮาร์ดแวร์เพิ่ม ช่วยให้ลูกค้า SMB สามารถปรับปรุงสภาพคล่องของกระแสเงินสดหมุนเวียนในธุรกิจ ลูกค้าจ่ายเพียงค่าหมึกพิมพ์เพียงเดือนละ 2 ตลับในราคาตายตัว โดยผ่อนจ่ายเป็นรายเดือนตลอดระยะเวลาการใช้เครื่องพิมพ์ หรืออย่างต่ำ 12 เดือน ซึ่งจะช่วย SMBs ลดค่าใช้จ่ายใน การพิมพ์ได้มากกว่า 50% จากการใช้เครื่องพิมพ์ในกลุ่ม HP Officejet Pro
4. จากรายงานของการ์ทเนอร์ องค์กรสามารถลดค่ากระดาษต่อปีได้อย่างน้อย 30% โดยเลือกการพิมพ์สองหน้าไว้เป็นค่ามาตรฐานในเครื่องพิมพ์ทั่วทั้งองค์กร เอชพีนำจุดนี้มาเสนอแนะให้ลูกค้าลดการสิ้นเปลืองของกระดาษ โดยการตั้งค่าการพิมพ์เป็นแบบ 2 หน้าอัตโนมัติ หรือ Duplex Printing และด้วยเทคโนโลยีการส่งข้อมูลดิจิตอลของ HP เช่น การส่งแฟกซ์ไปยังอีเมล และการจัดการไฟล์ดิจิตอล จะทำให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนเอกสารไปเป็นดิจิตอลฟอร์แมต ช่วยลดการใช้กระดาษและลดค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บ ในขณะเดียวกันก็ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานได้ด้วย และ 5.ด้วยโซลูชัน Color Access Control ช่วยจัดการงานพิมพ์สีเพื่อประหยัดต้นทุน ลูกค้าสามารถควบคุมและตรวจสอบการพิมพ์ได้
ในส่วนสำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ เอชพีเสนอแนะให้ลูกค้าองค์กรบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพได้ทันที พร้อมเตรียมรับมือเศรษฐกิจฟื้นตัว โดยบริหารจัดการงานพิมพ์ดังนี้
1.บริการ HP Managed Print Services ช่วยให้องค์กรสามารถลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับงานด้านภาพและการพิมพ์ได้มากถึง 30% บริการ HP MPS ช่วยให้ลูกค้าองค์กรสามารถจัดการลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดซื้ออุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และบริหารสภาพแวดล้อมงานด้านภาพและการพิมพ์ได้ง่าย 2. นำเสนอHP Optimization Assessment ที่ช่วยให้องค์กรพัฒนาแผนการใช้งานเครื่องพิมพ์และปรับสภาพแวดล้อมการพิมพ์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อหาโซลูชันที่จะตอบสนองความต้องการด้านความปลอดภัย คำนวณอัตราการคืนทุน การทำสำเนาภาพเอกสาร แนะวิธีการใช้การดูแลรักษาเครื่องพิมพ์ทั้งหมดในองค์กรได้ในระยะยาว
3.สนับสนุนการบริหารจัดการกระแสเงินหมุนเวียนของลูกค้าองค์กร ด้วยการนำเสนอสัญญาให้บริการที่มีความยืดหยุ่น เสนอทางเลือกใหม่ในการแบ่งจ่ายผ่อนชำระได้ตามระยะที่ต้องการแทนที่จะต้องจ่ายเงินค่าบริการทั้งหมดในคราวเดียวดังแต่ก่อน ลูกค้าสามารถเลือกบริการประกันสินค้าหลังการขายเพิ่มเติมเพื่อคุ้มครองนานกว่าเดิมจากระยะเวลาประกันมาตรฐาน12 เดือน และหากลูกค้าทำสัญญาเพื่อรับบริการหลังการขายสำหรับเครื่องพิมพ์ที่กำหนด หรือเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันที่มีระยะเวลานาน 3 ถึง 5 ปี ลูกค้าสามารถเลือกที่จะไม่ต้องจ่ายค่าบริการใดๆ ในช่วง 12 เดือนแรกของสัญญาได้
“จากการนำกลยุทธ์ When Everything Counts มานำเสนอเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าทั้ง 2 กลุ่มเอชพีคาดว่าบริการด้านงานพิมพ์ของเอชพีจะสามารถช่วยให้ลูกค้าลดใช้จ่ายของต้นทุนสูงสุดถึง 30 % ได้อย่างแน่นอน และคาดว่าจะทำให้ยอดขายของลูกค้าที่มาจากทั้ง 2 กลุ่มนี้เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 20% ปัจจุบันเอชพีมีส่วนแบ่งลูกค้าใน 2 ตลาดนี้ประมาณ40%”
Company Related Links :
HP