บริษัทวิจัยสหรัฐฯเชื่อว่า ปี 2010 จะเป็นปีที่วงการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แดนลุงแซมกลับมาคึกคักอีกครั้งหลังจากชะลอตัวลงในปีนี้ แต่หลังจากปี 2010 เชื่อว่าการขยายตัวจะลดลงต่อเนื่องอีก 3 ปีถึงปี 2013
ฟอร์เรสเตอร์รีเสิร์ช (Forrester Research) เผยผลการสำรวจตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของสหรัฐฯในช่วง 5 ปีนับจากนี้ว่า มูลค่าตลาดออนไลน์ในปี 2010 จะเติบโตราว 13 เปอร์เซ็นต์เป็น 1.77 แสนล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นจากการเติบโต 11 เปอร์เซ็นต์ในปี 2009 ซึ่งฟอร์เรสเตอร์คาดว่าจะอยู่ที่ 1.56 แสนล้านเหรียญ
ตัวเลขเติบโต 11 เปอร์เซ็นต์ในปี 2009 นั้นลดลงจาก 13 เปอร์เซ็นต์ซึ่งตลาดปี 2008 ทำได้
รายงานยกเหตุผลขาลงของวงการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สหรัฐฯว่าเป็นเพราะวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ซึ่งทำให้ชาวอเมริกันต้องรัดเข็มขัด ตัดการจับจ่ายบางส่วนออกไปเพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น โดยฟอร์เรสเตอร์เชื่อว่าการรัดเข็มขัดจะเกิดขึ้นทั้งกับผู้บริโภครายย่อยและบริษัทรายใหญ่ทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ฟอร์เรสเตอร์มองว่าหลังการรุ่งโรจน์ในปี 2010 ตลาดอีคอมเมิร์ชอเมริกันจะเติบโตในระดับลดลง เป็น 10, 9 และ 8 เปอร์เซ็นต์ในปี 2011, 2012 และ 2013 ตามลำดับ
Sucharita Mulpuru ผู้เขียนรายงานวิจัยของฟอร์เรสเตอร์ชี้ว่า สาเหตุที่ทำนายไว้เช่นนั้นเป็นเพราะวัฏจักรทั่วไปของตลาด ซึ่งเมื่อตลาดโตเต็มที่การเติบโตย่อมลดลงเป็นปกติ โดยรายงานให้ข้อมูลว่า ตลาดออนไลน์สหรัฐฯจะช่วยเพิ่มตัวเลขการเติบโตในตลาดค้าปลีกสหรัฐฯเช่นเคย เชื่อว่าตลาดออนไลน์ปี 2009 และ 2010 จะผลักดันตัวเลขมูลค่าตลาดค้าปลีกสหรัฐฯได้ราว 6 เปอร์เซ็นต์
สำหรับปี 2011 ฟอร์เรสเตอร์เชื่อว่า อีคอมเมิร์ชจะผลักดันตลาดค้าปลีกสหรัฐฯให้เติบโตอีกราว 7 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ปี 2012 และ 2013 เชื่อว่าจะอยู่ที่ 8 เปอร์เซ็นต์
เรียบเรียงจากรอยเตอร์
Company Related Links :
Forrester Research